เด็ก 7 ขวบ เล่นประทัดพิสดารแกะดินปืน 4 ลูกผสมระเบิดใส่มือฉีกขาด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 กันยายน ตึกรวมเมตตา 1 รพ.ศูนย์อุดรธานี เขตเทศบาลนครอุดรธานี นพ.มนัส กนกศิลป์ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ได้นำคณะแพทย์ พยาบาล เข้าทำการตรวจเยี่ยมเด็กชาย อายุ 7 ปี ชาวบ้านหนองทม ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัดลูกบอล จนทำให้มือขวาฉีกขาด ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการเย็บแผล และรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัย
 จากการสอบถามเด็กชายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงเย็นของวันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมาตนและเพื่อนในหมู่บ้านได้ชักชวนให้ออกมาเล่นประทัดที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งได้ซื้อประทัดลูกบอลจากร้านค้าในหมู่บ้าน ราคาลูกละ 1 บาท โดยตนกับเพื่อนซื้อมา 4 ลูก แล้วนำมาจุดเล่นกันตามปกติ แต่ได้เล่นกันแบบพิสดารชักชวนเพื่อนแกะประทัด 4 ลูก แล้วนำเอาดินปืนมาผสมกันแล้วนำไปบรรจุใส่ท่อพลาสติก พันด้วยเทปพันสายไฟ เพื่อที่จะให้เกิดความเสียงดังมากกว่าเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเห็นรุ่นพี่ในหมู่บ้านทำ จึงลองมาทำเลียนแบบ โดยที่ตัวเองเป็นคนจับประทัด และให้เพื่อนเป็นคนจุดชนวน ขณะกำลังจะโยนออกไปก็เกิดเหตุระเบิดใส่มือ เพื่อนจึงได้วิ่งไปบอกผู้ปกครอง และนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีธาตุ และได้ส่งตัวมารักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี นพ.มนัส กนกศิลป์ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี เปิดเผยว่า จากสถิติจำนวนผู้บาดเจ็บจากการเล่นประทัด ย้อนไปในปี 2552 บาดเจ็บ 41 ราย พิการนิ้วขาด 24 ราย มือขาด 1 ราย ,ปี 2553 บาดเจ็บ 101 ราย นิ้วขาด 25 ราย บาดเจ็บที่ตา 21 ราย ,ปี 2554 บาดเจ็บ 86 ราย นิ้วขาด 15 ราย บาดเจ็บที่ตา 23 ราย ,ปี 2555 บาดเจ็บ 83 ราย นิ้วขาด 31 ราย บาดเจ็บที่ตา 27 ราย มือขาด 1 ราย ,ปี 2556 บาดเจ็บ 62 ราย นิ้วขาด 18 ราย บาดเจ็บที่ตา 16 ราย มือขาด 4 ราย และในปีนี้รายนี้เป็นรายแรกที่บาดเจ็บถึงขั้นต้องเย็บมือ
ซึ่งจากสถิติจำนวนผู้บาดเจ็บนั้นได้ลดลง แต่ก็ยังมีอาการสาหัสรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากความแรงของประทัด ที่ได้นำวัสดุพลาสติกเข้ามาเป็นส่วนประกอบมากขึ้น และเกิดจากความคึกคะนองของในการเล่น และนำประทัดมาดัดแปลง เพื่อให้เกิดความรุนแรงและเสียงดัง โดยปีที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บอายุเกิน 30 ปี ได้เข้ามารับการรักษาตัวจากการเล่นประทัดจนมือขาด ซึ่งแม้แต่ผู้ใหญ่หากเล่นด้วยความคึกคะนองไม่ระมัดระวัง ก็ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้
"อยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องร้านค้าที่จำหน่ายประทัดให้มากขึ้น ก่อนที่จะถึงเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเราก็จะต้องช่วยกันแก้ไขกันที่ต้นเหตุ และต้องเข้มงวดกวดขันในการจับกุมผู้ขายประทัด ซึ่งก็ต้องรวมไปถึงผู้ปกครองก็ต้องคอยกำชับดูแลเด็กไม่ให้ไปเล่นประทัดที่มีเสียงดัง และประทัดที่อันตรายให้มากขึ้น" นพ.มนัส กล่าว