โดยนายพรเพชร กล่าวว่า พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและรัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกินสามสิบห้าคนตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินการให้มีการปฏิรูปด้านต่าง ๆ และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ
ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อบังคับการประชุม สนช. เนื่องจากยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการร่างข้อบังคับ แต่คณะกรรมาธิการกิจการสามัญ(วิป สนช.) เสนอหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว ดังนั้นจึงขอมติที่ประชุมจะนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ได้หรือไม่ ซึ่งไม่มีสมาชิก สนช. คนใดขัดข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจนับคะแนน 6 คน
จากนั้นนายตวง อันทะไชย สมาชิก สนช. เป็นผู้เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้รับรองจำนวน 188 คนโดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลเข้าแข่งขันด้วย ต่อมานายพรเพชร แจ้งว่าวิธีการลงคะแนนเสียงกระทำอย่างเปิดเผยโดยให้เลขาธิการวุฒิสภาขานชื่อสมาชิก สนช.รายบุคคล
โดยมีจำนวนสมาชิก สนช. แสดงตนอยู่ในห้องประชุมจำนวน 194 คน จากทั้งหมด 197 คน ทั้งนี้นายพรเพชรแจ้งว่ามีสมาชิก สนช. ลาป่วย 3 คน ได้แก่ นางกาญจนรัตน์ ลีวิโรจน์ คุณพรทิพย์ จาละ และพล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ ผลปรรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ความเห็นชอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 191 คะแนน ถือว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ ซึ่งนายพรเพชร และรองประธาน สนช. 2 คน งดออกเสียง โดยใช้เวลาโหวตประมาณ 50 นาที จากนั้นนายพรเพชรสั่งปิดการประชุมในเวลา 10.55 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยาการก่อนการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช))เพื่อให้ความเห็นชอบให้บุคคลเป็นนายกฯรัฐมนตรี เป็นไปด้วยความคึกคัก สมาชิกสนช.ได้เดินทางมาที่รัฐสภาอย่างพร้อมเพียง โดยในข่วงเช้าได้มีการร่วมกันถ่ายรูปที่บริเวณลานจอดรถ โดยสมาชิกได้ทักทายพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง วันนี้สื่อมวลชนหลายสำนักทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ ดาวเทียม ดิจิตอล ได้นำทีมมารายงานการลงมติเลือกนายกฯจำนวนมาก ขณะที่ในระหว่างการโหวตนายกฯ สนช.ก็นั่งกันอย่างเป็นระเบียบเรียบ โหวตเห็นชอบพล.อ.ประยุทธิ์ โดยไม่มีการแตกแถว