หนังสือพิมพ์เดลี เทเลกราฟ ฉบับออนไลน์ รายงานว่า แพ็ททริค ซอว์เยอร์ ชาวอเมริกันเชื้อสายไลบีเรีย วัย 40 ปี และเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่าที่เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ ได้สร้างความวิตกไปทั่วโลกว่า เขาอาจนำเชื้อไวรัสมรณะไปแพร่ในสหรัฐ แต่เขาเสียชีวิตก่อนขณะอยู่ที่ไนจีเรีย ระหว่างการเดินทางกลับไปหาครอบครัวในรัฐมินนีโซต้า ของสหรัฐ
ได้มีการเปิดเผยว่า ซอว์เยอร์ได้รับอนุญาตให้เดินทางโดยเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อกลับไปบ้านที่สหรัฐ โดยเขาทำงานให้รัฐบาลไลบีเรีย และกำลังไปเยี่ยมน้องสาว ตอนที่เริ่มมีอาการป่วย ขณะโดยสารเครื่องบินของไนจีเรีย เขาถูกส่งไปกักโรคทันทีตอนที่เดินทางถึงสนามบินลากอส ของไนจีเรีย ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์
ไลบีเรีย กำลังเผชิญการระบาดอย่างหนักของไวรัสอีโบล่า และมีชาวอเมริกันที่เข้าทำงานช่วยเหลือผู้ป่วย ต้องติดเชื้อเองไปแล้ว 2 คน
ดีคอนที ภรรยาวัย 34 ปีของซอว์เยอร์ กล่าวว่า สามีของเธอมีกำหนดจะเดินทางไปสหรัฐ ซึ่งถ้าไปถึง เขาจะกลายเป็นผู้ติดเชื้ออีโบล่าคนแรกที่เอาเชื้อเข้าไปแพร่ในสหรัฐ
ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่า ซอว์เยอร์ติดเชื้อจากน้องสาว ที่เขาไปดูแลโดยไม่ทราบว่าเธอติดเชื้ออีโบล่า จนกระทั่งเธอเสียชีวิต หลังจากนั้น เขาได้ขึ้นเครื่องบินจากกรุงมอนโรเวียของไลบีเรีย ไปยังกรุงโลเม่ ของโตโก และขึ้นเครื่องบินต่อไปยังเมืองลากอส ของไนจีเรีย ซึ่งเขาไปหมดสติตอนที่ไปถึงสนามบิน
ทางการไนจีเรีย ได้ปิดโรงพยาบาล เฟิร์สต์ คอนซัลแทนต์ ในเมืองโอบาเลนเด้ ที่เขาเข้ารับการรักษา เนื่องจากที่ตั้งโรงพยาบาล ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่คับคั่งที่สุดของเมือง ที่มีประชากรราว 21 ล้านคน ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับผู้โดยสารที่ร่วมเที่ยวบินเดียวกับซอว์เยอร์ ยังไม่ได้รับการเปิดเผย
มีรายงานว่า ผู้โดยสารในเที่ยวบินเดียวกับเขาได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับอาการของโรค ที่รวมถึงการมีเลือดออกที่จมูกและปาก แต่ก็ได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปได้
การที่เชื้ออีโบล่า มีระยะเวลาในการฟักตัว 21 วัน ทำให้เกิดความวิตกว่า อาจมีคนที่ติดเชื้อและกลายเป็นผู้แพร่เชื้อให้ระบาดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่า ซอว์เยอร์ได้ติดต่อกับผู้คนมากน้อยเพียงใด ในวันที่เขาอยู่บนเที่ยวบินในไลบีเรีย และการแวะที่กาน่า เพื่อต่อเครื่องบินไปยังโตโก ก่อนจะไปถึงไนจีเรีย
เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข กำลังพยายามติดตามคนที่อาจเสี่ยงติดเชื้อจากซอว์เยอร์ทั่วแอฟริกาตะวันตก รวมทั้งผู้โดยสารและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ตั้งคำถามว่า ซอว์เยอร์ ซึ่งน้องสาวเสียชีวิตเพราะติดเชื้ออีโบล่า ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินออกจากไลบีเรียได้อย่างไร และถ้าเลวร้ายกว่านั้น ไวรัสอีโบล่า อาจกลายเป็นโรคร้ายล่าสุดที่แพร่ระบาดโดยการเดินทางระหว่างประเทศได้
การเสียชีวิตของซอว์เยอร์ ได้นำไปสู่การคัดกรองที่เข้มข้นขึ้น สำหรับผู้โดยสารในแอฟริกาตะวันตก หลังไวรัสมรณะคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 670 คน ในกินี, เซียร่า เลโอน และไลบีเรีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข แนะนำว่า หนทางที่ดีที่สุดก็คือ ไม่ควรจะเดินทางเมื่อป่วย แต่ปัญหาก็คือ คนไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย และมักจะโกหก ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับนานาประเทศ คือ การเตรียมพร้อมรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ที่จะต้องถูกแยกตางหาก และต้องมีคำแนะนำสำหรับสมาชิกในครอบครัวและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด้วย