svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

พยาบาลปลอมลายเซ็น จนท.กว่าพันคน ทำโครงการยักยอกเงิน รพ.กว่า 2.7 ล้าน

28 พฤษภาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ปลอมลายเซ็น สสจ. ผอ.โรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ และอาสาสมัครกว่าพันคน ทำโครงการกว่า 10 โครงการยักยอกเงินงบประมาณโรงพยาบาล กว่า 2.7 ล้านบาท ขณะ จนท.และ อสม.ที่ถูกระบุในโครงการเข้าให้ปากคำพร้อมลงบันทึกยันไม่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 700 คน




น.ส.อารยา เชตะโพธิ์ นักวิชาการสาธารณสุข อ.แคนดงจ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายอุเทน วิเศษบุพผา ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) อ.สตึก และ อสม.อีกจำนวนมาก ได้ทยอยเข้าให้ปากคำกับพ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.สตึกบันทึกไว้เป็นหลักฐาน



ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่นางวิภานันท์ อ่อนวิจารย์อายุ 49 ปี พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการโรงพยาบาลสตึกปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวได้ปลอมลายมือชื่อของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดผู้อำนวยการโรงพยาบาลสตึก สาธารณสุขอำเภอสตึกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอีกหลายคน



รวมทั้งยังปลอมแปลงลายมือชื่ออสม.อีกกว่า 1,000 คน จากที่มี อสม.ในพื้นที่ อ.สตึก จำนวน 1,920 คนเพื่อประกอบการทำโครงการต่างๆ ในการยักยอกเงินงบประมาณของโรงพยาบาลสตึกอาทิ โครงการสนับสนุนการพัฒนาบริการปฐมภูมิตามเกณฑ์คุณภาพเครือข่าย อ.สตึก โครงการพัฒนาศักยภาพนักจัดการสุขภาพครอบครัว โครงการติดตามความดันโลหิตตนเองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง และโครงการอื่นๆรวมกว่า 10 โครงการ



โดยดำเนินการในห้วงเดือน ต.ค.2557 ก.พ. 2558ซึ่งแต่โครงการจะระบุว่าไปอบรมศึกษาดูงานยังต่างจังหวัดเฉลี่ยโครงการละตั้งแต่ 40,000 330,000 บาทรวมเป็นเงินที่ยักยอกทั้งสิ้นกว่า 2,700,000 บาท นำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวแต่ไม่ได้มีการดำเนินตามโครงการที่เสนอจริงแต่อย่างใด



กระทั่งนายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์และนายแพทย์สมพงษ์ เชิดชูพงศ์ล้ำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสตึกผู้เสียหายที่ถูกปลอมลายมือชื่อได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สตึกพร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้อนุมัติโครงการและลงลายมือชื่อทั้ง 10 โครงการตามที่ น.ส.วิภานันท์ ได้จัดทำขึ้นเพื่อยักยอกเงินแต่อย่างใด ทำให้ขณะนี้ได้มี อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในพื้นที่ อ.สตึกและอำเภอใกล้เคียง ที่ถูกระบุมีส่วนร่วมในโครงการฯ เข้าให้ปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในทุกโครงการที่น.ส.วิภานันท์ ได้ปลอมเอกสารเพื่อยักยอกเงินงบประมาณแล้วกว่า 700 คน



ด้านพนักงานสอบสวนจะได้เร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และอสม.ทั้งหมดที่ถูกปลอมแปลงลายมือชื่อ ส่งให้กับ ป.ป.ท.ภายใน 30 วันเพื่อดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดตามกฎหมายกับ น.ส.วิภานันท์ดังกล่าวต่อไป



ซึ่งการกระทำของ น.ส.วิภานันท์ เข้าข่ายปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฉ้อโกง ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดินแต่คดีดังกล่าวเป็นอำนาจของ ปปท.ที่จะดำเนินการตรวจสอบเอาผิดเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้เรียก น.ส.วิภานันท์ มาสอบปากคก็ให้การรับสารภาพว่าได้ทำการปลอมลายมือชื่อ และเอกสารเพื่อยักยอกเงินการทำโครงการจริง

logoline