svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตร.พบหลักฐาน "สามีไฮโซ" ป่วยอาการวิตกจริต

28 กรกฎาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร.พบ หลักฐาน"สามีไฮโซ"ป่วยอาการวิตกจริต ตำรวจพบหลักฐาน"สามีไฮโซ" ป่วยอาการวิตกจริต เผยผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัดยิงภรรยาพบคราบเขม่าดินปืนที่มือ"เจ้าตัว"

นครบาล - วันที่ 28 ก.ค. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการสืบสวนกล่าวถึงคดียิงนางกฤตยา ล่ำซำ อายุ 48 ปีกรรมการที่ปรึกษาของบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)และอดีตกรรมการผู้จัดการ(เอ็มดี)เสียชีวิตว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนชี้ชัดได้ว่าผู้ก่อเหตุคือนายเรโด กาสเทลลาซซี อายุ 55 ปี สามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ใช้อาวุธปืนยิงนางกฤตยาภรรยาเสียชีวิตจริงก่อนจะยิงตัวตายตามเหตุเกิดภายในห้องพักคอนโดย่านสาธรเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา 
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า แม้ญาติผู้ตายไม่ติดใจเนื่องจากในส่วนของการทำสำนวนคดีหาพยานหลักฐานต่างๆ ตำรวจจะรับฟังแค่พยานจากญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ แต่ต้องดูพยาน หลักฐานอื่นๆ ประกอบ เบื้องต้นตรวจสอบพบมีคราบเขม่าดินปืนที่มือนายเรโด ยิงจากปืน ขนาด. 44 จากปืน 3 กระบอกที่พบในที่เกิดเหตุ ขณะที่ภาพจากกล้องในที่เกิดเหตุไม่มี มีแต่ด้านหน้าบ้านก็เสียพอดีจึงให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ว่าระหว่างที่เกิดเหตุไม่มีบุคคลอื่นลอบเข้าไปในบ้าน เพื่อคลายข้อสงสัยในส่วนนี้ รวมถึงตรวจสอบประวัติว่าเคยทุบตีภรรยามาก่อนหรือไม่ 
ด้าน พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น. 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกประเด็นให้มีคำตอบและอธิบายได้โดยการสืบสวนทางคดีเป็นไปตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานในที่เกิดเหตุและพยานบุคคลส่วนสาเหตุการก่อเหตุจากการสอบสวนแพทย์จิตเวชที่เคยรักษาอาการป่วยของสามีผู้ตายพบว่าก่อนเกิดเหตุสามีของผู้ตายมีการหวาดระแวงและเกรี้ยวกราดเพิ่มขึ้น มีอารมณ์ขึ้นลงค่อนข้างเยอะ รวมถึงสาเหตุการที่มีปัญหาปากเสียงทะเลาะกันประกอบกันทำให้เกิดการกระทำดังกล่าว 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของการรักษาอาการป่วยของนายเรโดนั้นมีประวัติอารมณ์แปรปรวนทางจิตอยู่เสมอๆ หรืออาการวิกลจริตเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมนารมย์เป็นโรงพยาบาลที่รักษาอาการทางจิตโดยตรงตั้งแต่ปี 2550 แพทย์วิเคราะห์ว่ามีอาการที่เรียกว่า bipolar disorder ที่ทำให้มีอารมณ์แปรปรวนก่อนต่อมาอาการหนักขึ้นเรียกว่า manic episode with psychosis ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรม เชื่อว่าหากทำให้หลักฐานอื่นๆ กระจ่างขึ้น ก็จะสามารถปิดสำนวนคดีได้อย่างสมบูรณ์

logoline