เชียงใหม่-รวบ 2 แก๊งเงินกู้รายใหญ่ต่างถิ่น

เมื่อเวลา 11.00น. วันนี้ (25 ก.ค.) ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มทบ.33 และพล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งเงินกู้รายใหญ่จำนวน 2 แก๊ง ผู้ต้องหารวม 6 คน หนึ่งในนั้นคือสมาชิกจากทีมงาน จันทร์จ้าว กลุ่มผู้ปล่อยเงินกู้รายใหญ่ของ จ.อุบลราชธานี
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทางศูนย์ปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากประชาชนที่เดือดร้อนว่าถูกขู่บังคับโดยแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ จึงประสานเจ้าหน้าที่ทหารร่วมดำเนินการเพื่อจับกุม โดยเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (24 ก.ค.) ได้บุกตรวจค้นบ้านเลขที่ 171 ม.5 ต.เมืองเลน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ บ้านพักของผู้ปล่อยเงินกู้และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นายธนชัย บุญชิต อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 12 ต.เหล่าแดง อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี, นายสามารถ สิงห์คำหาร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 4 ต.คำแมด อ.ชำสูง จ.ขอนแก่น และนายภิรมย์ พรหมมา อายุ 19 ปี ที่อยู่ 16 หมู่ 1 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางชุดจับกุมสืบทราบมาว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ซึ่งเดิมมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้ามาเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ระยะหนึ่งแล้ว พร้อมได้ตั้งชื่อกลุ่มว่า "ทีมงานจันทร์เจ้า" และปล่อยเงินกู้ให้พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด และ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยใช้จักรยานยนต์ตามเก็บเงินกู้ ซึ่งแต่เดิมมีทีมงาน 6 คนและจากการกดดันพร้อมทั้งจับกุมไปได้บางส่วนทำให้เหลือสมาชิก 3 คน
จากการตรวจค้นพบของกลางธนบัตรรวมเป็นเงิน 10,100 บาท บัญชีรายชื่อลูกค้า 27 แผ่น หมวกนิรภัย 3 ใบ จักรยานยนต์ 4 คัน กระเป๋าคาดเอว 3 ใบ บัญชีธนาคารชื่อของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จำนวน 6 เล่ม พร้อมทั้งสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ทีมงานจันทร์จ้าว จำนวน 15 แผ่น พร้อมตรวจสอบยอดเงินในบัญชีรายชื่อลูกค้าพบมีเงินหมุนเวียนประมาน 1.2 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึด พร้อมกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ว่า "ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ไดรับอนุญาต และให้บุคคลอื่นยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด"
นายธนชัย หนึ่งในผู้ต้องหารับสารภาพว่า เงินทุนที่ปล่อยกู้มาจากพี่ชายที่อาศัยอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี แต่พี่ชายได้เลิกปล่อยเงินกู้แล้ว และตนกับเพื่อนก็เหลือเก็บเงินที่ค้างไว้เท่านั้น และได้ทำงานปล่อยเงินกู้มาแล้ว 2 ปี ได้ค่าจ้างเป็นเงินเดือนๆละ 10,000 บาท ส่วนลูกค้าก็เสาะหาเองส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าและแม่ค้า ปล่อยกู้ให้รายละไม่เกิน 5,000 บาท ดอกเบี้ยรวมแล้วประมาณร้อยละ 40 ต่อ 24 วัน
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวาน (24 ก.ค.) ช่วงเช้า ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจร่วมกันจับกุมแก๊งปล่อยเงินกู้รายใหญ่ได้อีก 1 กลุ่มโดยพฤติกรรมการปล่อยเงินกู้คล้ายกับกลุ่มจันทร์จ้าว และเป็นแก๊งเงินกู้ที่มาจากนอกพื้นที่เช่นกัน แต่กลุ่มนี้มาจาก จ.อุทัยธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะผู้ต้องหาขับรถตะเวนเก็บเงินกู้และดอกเบี้ยกับชาวบ้าน ที่บริเวณร้านขายของชำ ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ นายพัฒน์พงษ์ แป้นห้วย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 4 ต.เจ้าวัด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี, นายมารุตพงษ์ ธรรมลักษฒี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/65 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายพิเชษฐ โพธิ์ศรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 287/5 หมู่ 11 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พร้อมของกลางสมุดบัญชีรับ-จ่ายเงินกู้ 2 เล่ม เงินสด 3,450 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าแฟมมิลี่ 2 คัน และจากการตรวจสอบยอดเงินในโพยบัญชีลูกค้าพบเงินหมุนเวียน 74,600 บาท พร้อมตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"การปราบปรามการปล่อยเงินกู้นอกระบบนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. จนถึงปัจจุบันตามนโยบายของ คสช. สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้รวม 57 ราย ผู้ต้องหารวม 73 คน ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก และได้ตรวจสอบโพยบัญชีลูกค้าทั้งหมดปรากฏว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท" พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าว
พล.ต.ศรายุธ รังษี กล่าวว่า การปล่อยเงินกู้นอกระบบนี้ทาง คสช.ได้กำหนดให้เป็นนโยบายเร่งด่วนและสำคัญให้รีบดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนทั่วไปที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนทั้ง 2 คดีนี้ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันจับกุมถือว่าเป็นแก๊งเงินกู้รายใหญ่นอกพื้นที่ โดยเฉพาะ แก๊งจันทร์จ้าว ที่เป็นแก๊งเงินกู้รายใหญ่ของ จ.อุบลราชธานีและภาคอีสาน และไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างเด็ดขาด และจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาแหล่งเงินทุนเพื่อนำตัวนายทุนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป