สรุปคดีลักพาตัว "น้องมาร์ติน" ตำรวจ-พลังโซเชียล ช่วยกันพาเด็กกลับสู่อ้อมกอดปู่-ย่า

วันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านา เพจเฟซบุ๊ก "เอกภพ สายไหม" โพสต์ภาพกล้องวงจรปิดประกาศตามหา "เด็กหายฝากเพื่อน ๆ ช่วยตามหา น้องมาร์ติน อายุ 9 เดือน น้องเป็นเด็กกำพร้า แม่ทิ้งไปตั้งแต่เป็นทารก ปู่ทำงานก่อสร้างเป็นคนเลี้ยง เหตุเกิด 15.14 น. กะเทยมาสมัครเป็นคนงานก่อสร้างแต่ยังไม่ทันได้ทำงาน กะเทยมาขออุ้มน้องมาร์ตินไปเซเว่น ก่อนจะลักพาตัวเดินหนีหายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย เหตุเกิดท่าน้ำบางนา วัดบางนานอก กทม. เวลา 15.14 น."

ช่วงเวลาดังกล่าว กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าโรงเรียนวัดบางนานอก สามารถบันทึกภาพสาวประเภทสองคนดังกล่าว สวมเสื้อแขนยาวสีเหลือง กางเกงยีนส์ขาดเข่าทั้งสองข้าง ใส่รองเท้าบูท อุ้มน้องมาร์ติน วัย 9 เดือน เดินผ่านกล้องด้วยท่าทีเร่งรีบ และหันหลังกลับไปมองตรงจุดที่เดินผ่านมา

เวลา 16.00 น. พลเมืองดีพบเห็นสาวประเภทสองอุ้มน้องมาร์ติน เดินผ่านแยกบางนา ฝั่งตลาด ซึ่งกล้องหน้ารถบันทึกภาพได้ โดยเด็กหน้าตาน่ารักผิวขาวพลเมืองดีจดจำได้จากที่มีการประกาศตามหาในเพจต่างๆ ก่อนจะแจ้งมายังทีมงานสายไหมต้องรอด และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัว

เวลา 22.00 น. ทีมงานสายไหมต้องรอด ได้พาปู่และย่าของน้องมาร์ติน ไปแจ้งความที่ สน.บางนา เพื่อให้ตำรวจติดตามตัวสาวประเภทสองคนดังกล่าว และติดตามตัวเด็กที่ถูกลักพาตัวไป ซึ่งก็มีพลเมืองดีและคนที่พบเห็นแจ้งเบาะแสมาเป็นระยะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตาม

Mr.INTHAK PEUN (สัญชาติลาว) อายุ 55 ปี ปู่ของน้องมาร์ติน คนงานไซส์ก่อสร้างโบสถ์วัดบางนานอก อยู่ในอาการวิตกกังวลอย่างมาก เล่าว่า วันนี้ (7 พฤษภาคม) หลานชายได้หายออกไปจากบ้านในช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 คนที่พาหลานชายไปเป็นสาวประเภทสอง ตอนเกิดเหตุสาวประเภทสองคนนี้บอกว่าจะพาหลานไปซื้อของเล่นที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็พาหลานชายหายไปเลย

โดยสาวประเภทสองคนนี้เพิ่งจะมาทำงานได้เพียง 1 สัปดาห์ ปกติก็จะชอบมานั่งเล่นกับหลาน ตัวเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาหลานไป เพราะน้องมาร์ติน เป็นเด็กที่ไม่ดื้อ ใครอุ้มก็ไม่ร้อง ตอนนี้หัวใจของปู่แตกสลาย กังวลว่าหลานจะได้รับอันตรายและกลัวสาวประเภทสองคนนี้จะพาหลานไปขาย

ต่อมาช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสว่า ตัวสาวประเภทสองอุ้มเด็กอยู่ที่สถานีขนส่ง หมอชิต 2 จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดย  19.00 น. กล้องวงจรปิดภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 บันทึกภาพขณะที่สาวประเภทสอง อุ้มน้องมาร์ติน เดินเข้ามาภายในอาคารจำหน่ายตั๋วโดยสาร ได้ถอดเสื้อแขนยาวสีเหลืองออกมัดไว้กับตัว จากนั้นอุ้มเด็กเดินไปซื้อตั๋วโดยสารที่ช่องจำหน่ายตั๋วช่องที่ 4 เพื่อเดินทางไป จ.ระยอง ก่อนจะเดินเข้าไปที่ชานชาลาเพื่อขึ้นรถมินิบัส

23.30 น. พลเมืองดีซึ่งนั่งรถมินิบัสกำลังเดินทางไป จ.ระยอง ส่งภาพขณะที่สาวประเภทสองนั่งอุ้มเด็กอยู่บนรถนอนหลับอยู่ โดยเธอแอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปไว้และแจ้งเบาะแสมายังเพจ "เอกภพ สายไหม" ระบุว่า "เจอน้องบนรถตู้มาระยองค่ะ แจ้งเบาะแสทางไหนได้บ้างคะ"

จากการตรวจสอบตั๋วโดยสารพบว่า ขึ้นรถที่จตุจักร (คิวรถตู้หมอชิต 2) เวลาประมาณ 20.30 น. โดยรถที่ขึ้นเป็นรถมินิบัส ปลายทางจุดจอดแพชชั่นระยอง

จากนั้น 23.50 น. ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางนา และชุดสืบสวนตำรวจนครบาล สามารถควบคุมตัวสาวประเภทสองคนดังกล่าวได้แล้วที่ บขส.ระยอง ส่วนเด็กปลอดภัยดี ก่อนจะคุมตัวสาวประเภทสองกลับมาสอบสวนที่ สน.บางนา

เวลา 02.10 น. วันที่ 8 พ.ค.ตำรวจคุมตัวนายน้อย สาวประเภทสองที่ลักพาตัวน้องมาร์ตินไป กลับมาถึง สน.บางนา เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้ลักเด็กไปขาย อ้างว่ารักเอ็นดูเด็กอยากเอาเด็กไปเป็นลูก 

เวลา 02.30 น. ตำรวจอีกชุดนำตัวน้องมาร์ติน มาถึง สน.บางนา ก่อนส่งมอบให้ปู่และย่า ซึ่งรีบเข้ามาโอบกอดและหอมแก้มหลานด้วยความดีใจ ขณะที่ปู่ของเด็กร้องไห้ก้มกราบเท้า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยตามหาหลาน โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ รีบนั่งรับไหว้แล้วบอกว่าไม่ต้องกราบ และให้ลุกขึ้น

พล.ต.ต.นพศิลป์ สอบปากคำผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า ลักพาตัวเด็กไปจริงโดยให้เหตุผลว่าต้องการนำไปเลี้ยงขณะที่ตัวเองจะไปทำงานที่จันทบุรี โดยได้ลักพาตัวเด็กไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิตไปลงที่จังหวัดระยอง และเตรียมต่อรถไปยังจังหวัดจันทบุรีในช่วงเช้า 

บางช่วงการสอบสวน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พยายามให้ผู้ก่อเหตุร้องเพลงชาติ ผู้ก่อเหตุไม่สามารถร้องได้ แต่ยังยืนยันว่าตัวเองเป็นคนไทย 

จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นไม่พบชื่อที่ผู้ก่อเหตุอยู่ในทะเบียนราษฎร์ โดยเจ้าตัวให้การว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดถูกจำคุกที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานคร เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา "กักขังหน่วงเหนี่ยวและพรากผู้เยาว์" นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

8  พฤษภาคม 2567 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่ายังอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมขยายผลในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของเป็นแก๊งลักเด็กข้ามชายแดนหรือไม่ ตลอดจนกำลังตรวจสอบเอกสารว่าเป็นคนสัญชาติไหน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นชาวกัมพูชาหรือไม่

ด้าน นายน้อย สาวประเภทสอง ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อรอสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามนายน้อยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายน้อยบอกว่าที่พาตัวเด็กไป เพราะรักเด็ก และเอ็นดู เนื่องจากตัวเองเป็นสาวประเภทสอง ไม่สามารถมีลูกได้ เลยอยากมีลูก เพราะก็มีอายุแล้ว โดยตั้งใจจะพาไปเลี้ยงที่ จ.จันทบุรี เพราะจะไปทำงานที่ไร่สับปะรด ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะพาเด็กไปขาย และอ้างว่าไม่รู้จักกับกลุ่มขบวนการค้าเด็ก ตอนนี้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไป และฝากขอโทษผู้ปกครองของน้องมาร์ตินด้วย