"เชียงใหม่" ชี้นักเที่ยวจีนลดลง ส่งกระทบในระยะสั้น

นายมานพ แซ่เจีย  ประธานประธานชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา กล่าวยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ลดลง โดยปัจจัยจากเศรษฐกิจของจีน เริ่มไม่ดี ประกอบกับทางรัฐบาลจีนได้ปราบคอร์รัปชั่น ปราบมาเฟียเงินกู้นอกระบบ ซึ่งกระทบกับประชาชนคนจีนทั้งประเทศ นอกจากนั้น สงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน มีผลกับการส่งออก และยอดการผลิต ของประเทศจีน เป็นวงกว้าง ทำให้รายได้ ของภาคผลิตและแรงงาน มีผลกระทบ อย่างไม่เคยเกิดขึ้น ในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

ขณะที่เหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ นักท่องเที่ยวจีน มองว่าประเทศไทยไม่มีความปลอดภัย และยังมองว่า รัฐบาลไทย และหน่วยงานภาครัฐของไทย ไม่มีความจริงใจในการช่วยเหลือ คนจีนที่ประสบเหตุ เท่าที่ควร รวมทั้งเหตุการณ์รปภ.ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวจีนที่สนามบินดอนเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีน เริ่มมองว่าไมมีความปลอดภัยต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งทุกหน่วยงานต้องเข้ามาแก้ไข และทำความเข้าใจไม่ให้เสียภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวไปมากกว่านี้ 

นอกจากนี้  ปัญหาไกด์เถื่อนที่เป็นชาวจีนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดภูเก็ตมีมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่มีความประทับใจในการท่องเที่ยวในประทศไทย เพราะจะขาดความรู้ในวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมของประเทศไทย โดยถือว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุ๊ปทัวร์ลดลงเร็วกว่าที่จะเป็น ส่วนสาเหตุที่ไกด์คนไทย ที่มีบัตรมัคคุเทศก์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ยอมไปรับทัวร์จีน เพราะบริษัททัวร์จีนที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ เก็บค่าหัวจากไกด์เถื่อนหัวละ 3,000 บาทถึง 4,000 บาท และยังให้ช่วยสำรองจ่ายค่าใช้จ่ายกรุ๊ปละแสนกว่าบาทประมาณ 4 เดือนถึงคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับไกด์เถื่อนต่างด้าว จึงเป็นข้ออ้างให้กับผู้ประกอบการที่นิยมใช้ไกด์เถื่อนต่างด้าวว่าไกด์ภาษาจีนชาวไทยไม่เพียงพอ

นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย(ภาคเหนือ) กล่าวว่า กระแสนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ลดลงนั้น ในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯจำนวน 61 แห่ง 8,811 ห้อง ไม่ได้รับผลกระทบเท่าใดนัก โดยอัตราเข้าพักช่วง 9 เดือนของปี 2560อยู่ที่ร้อยละ 77 และคาดว่าช่วงเดียวกันของปีนี้จะลดลงเพียงร้อยละ 2-3 เท่านั้น 

อีกทั้งสถิติของจำนวนผู้โดยสารต่างประเทศที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ระหว่าง8เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1.7ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้่นร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 7.2 ล้านคน และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่อันดับหนึ่งยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 

นอกจากนี้ ทางสมาคมโรงแรมฯ มองว่า ด้วยสัดส่วนของโรงแรมขนาดเล็กขนาดใหญ่, โฮสเทล, อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวกระจายการเข้าพัก ทำให้ภาพรวมของแต่ละโรงแรมมีสัดส่วนการเข้าพักน้อยลง โดยในช่วงของวันชาติจีนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าพักโรงแรมระดับ4-5 ดาวในช่วงวันที่ 1-4 ตุลาคม ซึ่งต่างจากปีก่อนที่จะมีวันเข้าพักยาวกว่า 

นายเมธาพันธ์ ภุชกฤษดาภา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านม้งดอยปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาน้อยกว่าทุกปี ปกติจะเข้ามาวันละ 200-300 คน โดยส่วนใหญ่จะจะเข้ามาท่องเที่ยวทั้งหมู่บ้าน และมักจะชอบมามากินผลไม้เมืองหนาว และดื่มกาแฟมากกว่าซื้อของที่ะลึกที่เป็นงานฝีมือของชาวบ้าน ซึ่งก็ไม่ถือว่าได้รับผลกระทบใดๆ เพราะในพื้นที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ก็เชื่อว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงจะเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ได้หายไปไหน 

นางสาวทัศนีย์ หวังวนวัฒน์ เจ้าของร้านชุดให้เช่าในหมู่บ้านม้งดอยปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า  นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาน้อยกว่าปีก่อนมาก น่าจะเกิดจากทัวร์ศูนย์เหรียญ และอุบัติเหตุที่ภูเก็ต คาดว่าจะลดลงไปกว่า 80% แต่ถ้าถามว่ามีผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่ มีค่อนข้างน้อย เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่าที่นิยมมาเช่าชุดถ่ายรูป ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน แม้จะมีจำนวนมากจริง แต่ก็ไม่ได้กระจายรายได้ให้กับธุรกิจร้านชุดให้เชา แต่รายได้จากมาจากคนไทยมากกว่า    

ด้านแม่ค้าขายกระดิ่งรายหนึ่ง วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เป็นเป้าหมายในแหล่งท่องเที่ยวลำดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ต้องมาเยือนเมื่อมาท่องเที่ยวในจังวหวัดเชียงใหม่ โดยที่ผ่านมา  ปกติในช่วงวันชาติจีน จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาที่ดอยสุเทพเป็นจำนวนมาก สังเกตจากรถบัส และรถตู้จะจอดเรียงรายเต็มไปหมด แต่ปีนี้ ลดลงกว่าร่อยละ 50 จากปกติจะเข้ามาในไฮซีซั่น  โดยวันชาติจีนที่ผ่านมาก็แทบจะไม่คึกคักเท่ากับปีก่อน ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก 

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า การลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น มาจากกลุ่มที่เดินจากจากบริษัทท่องเที่ยว ในรูปแบบของชาร์เตอร์ไฟลท์ แต่นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง หรือกลุ่มFIT ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นักท่องเที่ยวสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ นักท่องเที่ยวเข้าใจ การชะลอตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีนในครั้งนี้ อย่าไปมองความผิดพลาดที่เกิดจากอุบัติเหตุเรือล่มในจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น เพราะมีปัจัยอื่นมาเเกี่ยวด้วย โดยเฉพาะการโต้ตอบทางการค้าของจีนกับสหรัฐ ย่อมจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชาวจีนด้วย ทำให้กำลังซื้ออาจจะลดลงในระยะนี้