(คลิป) ระทึก!!! ดอยแม่สลองทรุดหนักอีก บ้าน 15 หลังร้าว เอียง ผู้ว่าฯขอชาวบ้านอพยพชั่วคราว

วันที่ 21 ส.ค. ว่าที่ ร.ต.กรกฎ ประเสริฐวงษ์ นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ตรงเนินด้านหลังร้านค้าสะดวกซื้อภายในหมู่บ้าน หลังจากที่มีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ ได้เกิดการเคลื่อนตัวและบางจุดทรุดลงเล็กน้อย ทำให้บ้านเรือนที่่ส่วนใหญ่เป็นคอนกรีตสูง 1-2 ชั้น เสียหายเล็กน้อย 14 หลัง และเสียหายหนัก 1 หลัง รวม 15 หลัง ประชาชนเดือดร้อน 20 ครัวเรือน โดยการทรุดตัวทำให้ตัวบ้านเกิดรอยร้าวเป็นทางยาว บางหลังตัวบ้านเอียงลง และมีรอยร้าวยาวจากผนังจนถึงพื้นคอนกรีตบริเวณลานบ้าน


ว่าที่ ร.ต.กรกฎ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นที่ชาวบ้านตั้งรกรากบนดอยแม่สลองมาตั้งแต่อดีต แต่ชั้นใต้ดินมีตาน้ำที่ยังคงมีน้ำไหลตลอดเวลาทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของดินได้ง่าย ก่อนหน้านี้ได้เกิดรอยแยกมีความกว้างประมาณ 4 ซม. แต่ล่าสุดตนไปตรวจวัดดูพบว่าเพิ่มขึ้นเป็น 5 ซม. หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มก็คงไม่มีปัญหาเพิ่มอีก ส่วนชาวบ้านก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งทางอำเภอได้ขอให้ชาวบ้านย้ายไปพักอาศัยกับบ้านญาติก่อนและบางส่วนให้ไปพักอาศัยอยู่ที่ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร


ส่วนการทำประชาคมนั้นหากผลออกมาว่าประชาชนต้องการอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อก็มีแนวทางให้ปรับดินด้วยการฝังเสาเข็มลึก 10-20 เมตรแล้วอัดคอนกรีตให้แน่นแล้วทำคานเหมือนโคร่งข่ายใยแมงมุมเพื่อป้องกันดินสไลด์ รวมทั้งทำทางน้ำไหลผ่านเพื่อป้องกันการกัดเซาะ ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก มีงบประมาณอยู่แล้ว แต่หากประชาชนต้องการไปอาศัยอยู่ที่แห่งใหม่ก็จะมีการจัดหาที่ปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ให้เพราะที่เดิมก็เป็นที่ ส.ป.ก.อยู่แล้ว แต่ก็ต้องรอผลประชาคมโดยมีข้อมูลทางวิชาการให้ชาวบ้านพิจารณา สำหรับพื้นที่นี้เคยเกิดปัญหาลักษณะเดียวกันเมื่อ 13 ปีก่อนทำให้ชาวบ้านต้องย้ายออกไปแล้ว 3 ครัวเรือนส่วนที่เหลือยังไม่ไปไหนเพราะหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้


ทางด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชกาจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ทางจังหวัดได้ให้นายอำเภอแม่ฟ้าหลวงเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่อื่นก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย จากนั้นให้มีการทำประชาคมเพื่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ในเวลาเดียวกันได้ให้ทางนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสำรวจเพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างถาวร เพราะจังหวัดไม่อยากจะใช้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสั่งให้ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวออกมา แต่อยากให้เข้าใจแล้วย้ายออกมาเองก่อนชั่วคราวส่วนในอนาคตจะแก้ไขปัญหาอย่างไรให้เป็นไปตามขั้นตอน