สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศในวันพุธ (24 เมษายน 2567) เพื่อเริ่มต้นการสอบสวนประเด็นผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ของอียูไม่ได้รับความยุติธรรมในตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของจีน เนื่องจากจีนให้การสนับสนุนผู้ผลิตภายในประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเป็นสื่อรายแรกที่รายงานเรื่องการตรวจสอบตลาดอุปกรณ์การแพทย์ของจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การตรวจสอบนี้เป็นการใช้อำนาจครั้งแรกภายใต้กฎหมายเครื่องมือการจัดซื้อจัดจ้างระหว่างประเทศ ที่ประกาศใช้ในปี 2565 กฎหมายมุ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และหากพบว่า บริษัทของอียูไม่สามารถเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างในจีน อียูก็อาจจำกัดไม่ให้บริษัทของจีนเข้าร่วมการประมูลในอียู
วารสารของอียูที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ระบุว่า จีนออกข้อบังคับที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตในประเทศในการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยนโยบาย “buy China” กำหนดให้โรงพยาบาลจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
การตรวจสอบประเด็นล่าสุดมีขึ้นหลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วอียูเริ่มดำเนินการตรวจสอบรัฐบาลจีนกรณีให้การอุดหนุนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่อาจนำไปสู่การขึ้นกำแพงภาษีเพื่อตอบโต้จีน และอียูยังมีการตรวจสอบอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก เช่น พลังงานลม โซลาร์เซลส์ และรถไฟ
ความสัมพันธ์ระหว่างอียูและจีนเลวร้ายลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากยุโรปดำเนินนโยบายตามสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น โดยผู้นำยุโรปแสดงความกังวลกับกำลังการผลิตของจีนที่เพิ่มขึ้น การที่จีนได้เปรียบดุลการค้ากับอียูอย่างมหาศาล และจีนสนับสนุนรัสเซียกรณีสงครามในยูเครน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี กล่าวขณะเยือนกรุงปักกิ่งว่า ยุโรปจะดำเนินมาตรการป้องกันการค้ามากขึ้น หากจีนไม่แก้ไขปัญหาเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม การทุ่มตลาด และกำลังการผลิตล้นเกิน
ที่ผ่านมาจีนโต้แย้งว่า สหรัฐฯ และยุโรป กำลังใช้ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการดำเนินนโยบายปกป้องทางการค้า เพื่อโอบอุ้มธุรกิจของตัวเองที่มีความสามารถด้านการแข่งขันน้อยกว่า
ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนมีกำหนดเยือนยุโรปช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะเยือนชาติสมาชิกอียู ได้แก่ ฝรั่งเศสและฮังการี และเยือนเซอร์เบีย และคาดว่า ประเด็นเรื่องการค้า และข้อเรียกร้องให้จีนหยุดให้การสนับสนุนรัสเซียเรื่องสงครามในยูเครน จะเป็นวาระสำคัญของการหารือ