กัลฟ์ ผนึก ไบแนนซ์ขึ้นเบอร์ 1 'คริปโท' ในไทย
บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เห็นโอกาสของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการขยายธุรกิจร่วมกับ Binance จัดตั้งบริษัท กัลฟ์ ไบแนนช์ จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของการขยายและเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และพันธมิตรที่จะร่วมกันพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สารัชถ์ รัตนาวะดี ระบุ บริษัทเห็นโอกาสของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการขยายธุรกิจร่วมกับ Binance จัดตั้งบริษัท กัลฟ์ ไบแนนช์ จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของการขยายและเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท และพันธมิตรที่จะร่วมกันพัฒนาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
สำหรับบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf Binance) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ไบแนนซ์ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทภายในเครือของไบแนนซ์ และบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลังของประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ก่อนที่จะเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance (“Binance TH”) ในเดือนพฤศจิกายน 2566 โดย Binance TH มุ่งมั่นที่จะพัฒนาภูมิทัศน์คริปโตในประเทศไทย ด้วยการสร้างการยอมรับและสนับสนุนให้เกิดการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล เน้นย้ำในการดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ เสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัล และการดำเนินงานภายใต้กฏระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ระบุ กัลฟ์ ไบแนนซ์ ตั้งเป้าหมายที่จะเบอร์ 1 ในไทยทั้งมาร์เก็ตแชร์และด้านอื่นๆ โดยเป็นผู้นำในสิ่งที่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไทยชาด ทั้งในด้านการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่น่าเชื่อถือ ที่จะผลักดันธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล บล็อกเชน ไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตลอดจนเป็นผู้นำที่มีเทคโนโลยีที่ดี และมีความกว้างขวาง ครอบคลุมทุกส่วนของเทคโนโลยี WEB3 บวกกับอีโคชิสเต็มที่แข็งแกร่งในไทย และเป็นผู้นำในการกำกับดูแลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกส่วนในด้านนี้โดยมีเป้าหมายที่จะนำนวัตกรรมระดับโลกมาสู่ประเทศไทย
ปัจจุบันคนไทยชื่นชอบสินทรัพย์ดิจิทัลมาก ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ว่าไทยอยู่อันต้นที่มีความเชี่ยวชาญ และจากการวิจัยพบว่าไทยติดอันดับ 10 ของโลก และจากการสำรวจ 10-20% มีประสบการณ์ครอบครองสินทรัพย์ดิจิทัล จึงถือว่าไทยมีความพร้อมด้านสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลทำให้มีกำไร และมองว่าเป็นการพนัน ซึ่งที่ผ่านมา 2 ปี มีหลายเหตุการณ์ที่บั่นทอนความเชื่อมั่น เช่น การล้มละลายของแพลตฟอร์มดัง
ทั้งนี้ ไบแนนซ์ถือเป็นผู้นำที่มีเทคโนโลยีและได้รับการรับรองระดับโลกนำดิจิทัลมาพัฒนาอีโคโนมี รวมกับอีโคซีสเต็มต่อยอดธุรกิจดิจิทัลในไทย รวมถึงผู้นำที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เรามีความสามารถที่จะทำให้ถึงเป้าหมาย จากเป้าหมายการนำนวัตกรรมระดับโลกมาสู่ประเทศไทย ได้รับจากการรับรองจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับของ กลต. ปัจจุบันสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น สิ่งที่ต้องทำคือสร้างแพลตฟอร์มที่ดี เข้มแข็ง และขาดไม่ได้คือความปลอดภัย คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีการซื้อขายสนทรัพย์ดิจิทัล จึงต้องพัฒนาให้ตอบโจทย์และผลักดันต่อไป
อย่างไรก็ตาม การที่กัฟล์และไบแนนซ์มาร่วมพัฒนาจะทำให้ใช้อีโคศิสเต็มอย่างกว้างขวางเพื่อเปิดตัวในไทย ซึ่งเครือกัฟล์มีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ช่วยให้ WEB3 เติบโต ซึ่งจะมาสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยเติบโต จึงต้องสร้างประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยี โดยกัฟล์จะช่วยให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผ่านจำนวนลูกค้าเอไอเอสกว่า 45 ล้านเลขหมาย ที่จะผลักดันให้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างกว้างขวาง
สำหรับการดำเนินงานของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ มีกลยุทธ์หลัก 5 สำคัญ คือ 1.ให้ความสำคัญโดยโฟกัสลูกค้า ถือเป็นหัวใจ ต้องทำที่ดี เพื่อตอบโจทย์ 2.กำหนดแผนและพัฒนาให้ชัดเจน 3.คอมมูนิตี้ ต้องสร้างองค์ความรู้ กระตือรือร้น เพื่อผลักดันให้ใช้งานแพร่หลาย
4.สร้างความรู้ความเข้าใจ ด้วยการที่สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นส่งใหม่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงต้องสร้างความรู้ถึงประโยชน์และความเสี่ยงของสินทรัพย์ 5.การกำกับดูแล โดยต้องทำตามกฎ ระเบียบ ผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ผลักดันปด้วยกัน
ไบแนนซ์มีเทคโนโลยีทั่วโลกมากกว่า 120 ดอลลาร์ ครอบคลุมทุกเซ็กเตอร์ มีความเข้มแข็งที่มากกว่า มีระบบดูแลลูกค้าสามารถตอบคำถามได้ 88% มีการพัฒนาฟิวเจอร์ต่าง ๆ มากมาย ทำให้ลูกค้ารู้ราคาผันผวนได้และตังเวลาราคาได้ และสุดท้ายการทำแคมเปญวอรีวอต ซึ่งเราจะไม่หยุดแค่แคมเปญนี้ และจะมีแคมเปญมอล คัมมิ่ง
สำหรับปัจจัยที่ไทยอยู่อันดับ 10 ของการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีการใช้โซเชียลมีเดียสูงสุดที่ช่วยผลักดันกระจายความรู้คริปโท ซึ่งเราตั้งเป้าต้องการเป็นเบอร์ 1ในไทยด้านนี้ เพราะด้วยเทคที่มี และจะไม่ใช่แค่เชิงการซื้อขายอย่างเดียว แต่ต้องสร้างอีโคซิสเต็มบล็อกเชน ผ่านการทำแอพพลิเคชั่น พาร์ตเนอร์ องค์กร ภาครัฐ เอกชน สภานศึกษา เพื่อสร้างความรู้โดยได้รับการสนับสนุนจากไบแนนซ์
ส่วนภาคพาร์ตเนอร์ต้องให้ความรู้ว่าบิทคอยน์มาแล้วจะลงทุนหรือไม่จึงต้องทำความเข้าใจในทุกภาคส่วน โดยต้องเริ่มต้นพื้นฐานการศึกษา เพื่อให้ยอมรับสินค้ามากขึ้น หลายคนอาจยังไม่เคยสัมผัสสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะเป็นนวัตกรรมเป็นอะไรใหม่ที่แตกต่าง จากการซื้อขายเข้าใจยากในตอนแรก แต่เมื่อศึกษาจะพบว่ามีบางอย่างที่แตกต่าง เมื่อศึกษาอย่างจริงจังแล้วมีประโยชน์ ซึ่งอนาคตจะสร้างสิ่งใหม่ได้อีกมากมาย