svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เลือกตั้ง USA

โพลชี้ “ทรัมป์” จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หวั่นเหตุรุนแรงตามมา

ผลสำรวจเผย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ เชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หากแพ้เลือกตั้ง หวั่นอาจมีความรุนแรงตามมา ซ้ำรอยจลาจลบุกรัฐสภา ไม่เชื่อศาลฎีกาจะตัดสินอย่างถูกต้องหากมีการร้องเรียนผลเลือกตั้ง

ผลสำรวจของ CNN ที่จัดทำโดย SSRS จากการสอบถามผู้มีสิทธิเลือกตั้งช่วง 20-23 ต.ค. พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนเพียง 30% คิดว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะยอมรับผลเลือกตั้ง หากเขาเป็นผู้แพ้  และ 73% คิดว่า รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจะยอมรับผลเลือกตั้ง หากเป็นฝ่ายแพ้

นอกจากนี้ผู้ตอบคำถาม 54% เชื่อว่า ทรัมป์จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และ 54% เชื่อว่า แฮร์ริสจะยอมรับความพ่ายแพ้

ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่สนับสนุนหลักการเบื้องต้นว่า ผู้สมัครเลือกตั้งมีข้อผูกมัดที่ต้องยอมรับผลเลือกตั้ง และ 88% บอกด้วยว่า ผู้แพ้มีข้อผูกมัดที่จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เมื่อผลเลือกตั้งได้รับการรับรองในทุกรัฐ  และ 12% บอกว่า ไม่จำเป็นต้องยอมรับความพ่ายแพ้

และผู้สนับสนุนแฮร์ริสมากถึง 97% คาดหวังว่า แฮร์ริสจะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ผู้สนับสนุนทรัมป์เพียง 57% บอกว่า ทรัมป์จะยอมรับความพ่ายแพ้

นอกจากนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนมากถึง 56% บอกว่า มีความไว้ใจระดับหนึ่งหรือไม่มีเลยว่าศาลฎีกาสหรัฐฯ จะสามารถตัดสินใจอย่างถูกต้องในคดีฟ้องร้องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ ซึ่งเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการสำรวจเมื่อเดือนมกราคม

ที่ผ่านมาทรัมป์ยังไม่เคยยอมรับความถูกต้องของผลเลือกตั้งที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทั้งในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารีในรัฐไอโอวาในปี 2559 และการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563

โพลชี้ “ทรัมป์” จะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ หวั่นเหตุรุนแรงตามมา

ขณะเดียวกันผลสำรวจของ สคริปป์ส นิวส์ และอิปซอส พบว่า ชาวอเมริกันเกือบ 2 ใน 3 คาดว่า จะเกิดเหตุรุนแรงหลังการเลือกตั้ง และส่วนใหญ่สนับสนุนการใช้กำลังทหารปราบปรามเหตุการณ์ไม่สงบหลังหน่วยเลือกตั้งเปิดให้ลงคะแนนในวันที่ 5 พฤศจิกายน

และผลสำรวจของยูกอฟ พบว่า ผู้ตอบคำถามมากกว่า 1 ใน 4 เชื่อว่า อาจเกิดสงครามกลางเมือง และ 12% บอกว่า พวกเขารู้ว่าบางคนอาจจับอาวุธขึ้นต่อสู้ หากคิดว่า ทรัมป์ถูกโกงเลือกตั้ง

ขณะนี้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในกรุงวอชิงตัน เพื่อเตรียมรับมือความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น แต่นักวิเคราะห์ มองว่า เหตุการณ์ซ้ำรอยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะมองว่า การดำเนินคดีหลายร้อยคดีจากเหตุการณ์ครั้งนั้นอาจช่วยป้องปรามได้

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับผลเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นและยืดเยื้อหลายสัปดาห์ ซึ่งอาจนำไปสู่การประท้วง หรือ ความรุนแรงในบางพื้นที่ได้ และความรุนแรงอาจเกิดขึ้นรัฐวิสคอนซิน, มิชิแกน หรือ เพนซิลเวเนีย ที่เป็นรัฐสวิงสเตท โดยวิตกว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่มีอาวุธเตรียมขัดขวางไม่ให้คณะผู้เลือกตั้งโหวตเลือกประธานาธิบดี