
รายการ World of Change Ep.4 พามาดูเทศกาลประจำปีที่น่าสนใจทั่วโลก ซึ่งแต่ละปี มีแค่เพียงชั่วเวลาเดียวเท่านั้น เรารวบรวมสถานที่ และมีที่มาที่สอดคล้องกันกับวัฒนธรรมในประเทศอีกด้วย
รับชมรายการได้ที่นี่ :
ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี กับ “เทศกาลสาดสี” Holi Festival (เทศกาลโฮลี) ที่มาของเทศกาลโฮลี Holi (โฮลี) หมายถึง การส่งท้ายปีเก่า เป็นเทศกาลฉลองรื่นเริงที่มีพื้นเพมาจากความเชื่อในศาสนาฮินดู โดยจะจัดขึ้น 2 วันในช่วงเดือนมีนาคม ผู้คนจะออกมาเฉลิมฉลองด้วยการสาดสี หรือป้ายสี ซึ่งเป็นฝุ่นผงใส่กันอย่างสนุกสนาน
การสาดสีจะเล่นกันเฉพาะช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันเท่านั้น เมื่อตกเย็นจะออกมาพบปะสังสรรค์กัน แจกขนมหวาน โดยขนมที่ทำมาจากนมและนมเปรี้ยวเป็นหลัก เชื่อกันว่าหากได้รับประทานขนมด้วยจิตใจเบิกบาน จะเป็นนิมิตรหมายที่ดีของการเริ่มต้นปีใหม่
ปัจจุบัน ปี 2024 นี้ เทศกาลโฮลี่ ช่วงที่อินเดียเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน โดยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแบบนี้ อาจทำให้ผู้คนเป็นหวัดได้ง่าย จึงริเริ่มใช้ผงสีจากพืชสมุนไพร เช่น ดอกทองกวาว, บีทรูท, ขมิ้น ก็จะได้สีสันที่สวยงามมาโปรยใส่กันในเทศกาลนี้ด้วย
ประเทศสเปน กับเทศกาลสุดแปลก ลา โทมาทินา (La Tomatina) หรือเทศกาลปามะเขือเทศ ที่ถูกจัดขึ้นที่เมืองบุญญ็อล แคว้นวาเลนเซีย ประเทศสเปน ช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี
จุดเริ่มต้นของกิจกรรมปามะเขือเทศย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 1945 ซึ่งที่มาว่าทำไมต้องเป็นมะเขือเทศเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นที่ทะเลาะกันในตลาดสด ขณะที่กำลังมีการเดินขบวนพาเหรด gigantes y cabzudos แต่เคราะห์ร้ายตกไปอยู่กับแผงขายมะเขือเทศที่เหล่าวัยรุ่นต่างหยิบฉวยมาเป็นอาวุธขว้างปาใส่กัน
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านไป หนึ่งปีต่อมาเหล่าวัยรุ่นได้กลับมาเปิดศึกทะเลาะกันอีกครั้งในวันเดิม แต่พวกเขาเตรียมมะเขือเทศมาจากบ้าน จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในทุก ๆ ปี แต่ในที่สุด งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ในปี 1950 เทศกาลปามะเขือเทศ ถูกแบนชั่วคราว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทางการสเปนก็ตัดสินใจนำ La Tomatina กลับมาจัดอีกครั้ง
ประโยชน์ของเทศกาลปามะเขือเทศ La Tomatina คือเทศกาลยอดฮิตที่สร้างรายได้ให้สเปนเป็นอย่างมาก โดยแรกเริ่มเดิมที เทศกาลปามะเขือเทศ เป็นงานฟรีที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือชาวสเปน ก็สามารถเข้าร่วมงาน
จนทำให้ในปี 2013 เป็นครั้งแรกที่ทางสเปนตัดสินใจเก็บค่าเข้างาน La Tomatina สำหรับนักท่องเที่ยว โดยจะมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพื่อให้ทางผู้จัดงานสามารถดูแลด้านความปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง ส่วนชาวบูโยล(อ่านว่า บู-โย) ยังคงได้สิทธิ์เข้าร่วมงานเทศกาลปามะเขือเทศฟรี ซึ่งจำนวนบัตรมีเพียงพอต่อชาวเมือง แม้ว่า La Tomatina จะเริ่มมีการเก็บค่าเข้างาน แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
โดยปีนี้ ผู้จัดการได้เตรียมมะเขือเทศกว่า 120 ตัน เพื่อให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้สนุกสนาน ว่ากันว่ามีผู้เข้าร่วมงานถึง 20,000 คน ประสบการณ์สุดสนุกที่หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว รวมถึงเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับสเปนอีกด้วย
เดือนตุลาคม ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กับ เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์ก เทศกาลบอลลูนสุดยิ่งใหญ่ของโลก เป็นเวลาทั้งหมด 9 วัน 9 คืน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างหนาแน่น ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำของวัน และในเทศกาลจะได้พบกับบอลลูนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้า มากกว่า 750 ลูก
เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์ก เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1972 จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 50 ปี สถานีวิทยุ KOB Radio และเป็นครั้งแรกที่มีการรวบรวมบอลลูนลมร้อนในรัฐนิวเม็กซิโก ได้ถูกพัฒนามาประกวดแข่งขัน ซึ่งมีผู้คนต่างส่งบอลลูนเข้าแข่งขันจากที่ต่างๆทั่วอเมริกา ผ่านไปหลาย 10 ปี เทศกาลบอลลูนก็ได้ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนได้ฉายานามว่า “เทศกาลบอลลูนนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก” และมีบอลลูนเข้าร่วมประกวด สูงถึง 1,019 ลูก ในปี ค.ศ. 2000
“Balloon Fiesta” จึงจำเป็นที่จะต้องจำกัดจำนวนการเข้าร่วมแข่งขัน ให้เหลือเพียง 750 ลูกต่อปี เพื่อควบคุมคุณภาพให้มากกว่าปริมาณนั่นเอง
ปัจจุบันสถานที่จัดตั้งจะอยู่ทางทิศเหนือของเมืองนิวเม็กซิโก ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอื่นๆได้ตลอดทั้งปี ในปี ค.ศ. 2005 ได้มีการจัดตั้ง พิพิธภัณฑ์บอลลูนนานาชาติ Anderson-Abruzzo Albuquerque เพื่ออุทิศให้กับประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ กีฬา และศิลปะที่สร้างสรรค์อื่นๆอีกด้วย
ทั้งนี้เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์ก ยังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก ที่ต้องการส่งบอลลูนเพื่อเข้าประกวด รวมไปถึงประเทศไทย ที่เคยเข้าร่วมแข่งขัน เมื่อปี ค.ศ. 2013 ภายใต้คอนเซ็ป Amazing Thailand และยังมีประเทศอื่นๆเข้าร่วมอีกด้วย
แต่เทศกาลบอลลูนถูกยกเลิก 1 ครั้งในปี 2020 การระบาดใหญ่ของ โควิด-19 เป็นสาเหตุหลักของการยกเลิกงานในปี 2020 ซึ่งปัจจุบัน กลับมาจัดงาน เทศกาลบอลลูนนานาชาติอัลบูเควียร์กแล้ว โดยในปี 2024 จัดไปเมื่อวันที่ 5-13 ตุลาคมที่ผ่านมา
มาปิดท้ายกันด้วย เทศกาลสงกรานต์ ที่ประเทศไทย ที่วันนี้ชวนรู้จักประวัติ ความสำคัญ "ประเพณีสงกรานต์ไทย" หลัง "ยูเนสโก" ประกาศขึ้นทะเบียน เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในวันที่ 6 ธันวาคม
"สงกรานต์" คือ ประเพณีของประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไทยแถบเวียดนาม และมนฑลยูนานของจีน รวมถึง ศรีลังกา และประเทศทางตะวันออกของประเทศอินเดีย สันนิษฐานกันว่า ประเพณีสงกรานต์นั้นได้รับวัฒนธรรมมาจากเทศกาลโฮลีในอินเดีย แต่เทศกาลโฮลีจะใช้การสาดสีแทน โดยจะจัดให้มีขึ้นในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ซึ่งก็คือเดือนมีนาคม
สงกรานต์ เป็นคำในภาษาสันสกฤต ที่หมายถึง "การเคลื่อนย้าย" โดยเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายการประทับในจักรราศี หรือการเคลื่อนเข้าสู่ปีใหม่ตามความเชื่อของไทยและบางประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ในปัจจุบัน ได้มีการกำหนดวันที่แน่นอน คือ เริ่มต้นตั้งแต่ 13-15 เมษายน แต่เดิม วันขึ้นปีใหม่ไทย คือ วันเริ่มปีปฏิทินของไทยจนถึง พ.ศ. 2431 และได้มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็นวันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่จนถึง พ.ศ. 2483
ทั้งนี้ วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี นอกจากจะเป็นวันมหาสงกรานต์แล้ว รัฐบาลยังได้กำหนดให้เป็น "วันผู้สูงอายุแห่งชาติ" ส่วนวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี รัฐบาลได้กำหนดให้เป็น "วันครอบครัว" อีกด้วย
กิจกรรมสำคัญที่ทำในวันสงกรานต์
การทำบุญตักบาตร นอกจากจะเป็นสร้างบุญกุศลให้กับตัวเอง ยังเป็นการอุทิศส่วนกุศลนั้นให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้ง หลังจากทำบุญเสร็จ ก็จะมีการก่อเจดีย์ทรายอันเป็นประเพณีที่สำคัญในวันสงกรานต์ด้วย
การรดน้ำ ถือได้ว่าเป็นการอวยพรปีใหม่ให้แก่กันและกัน น้ำที่นำมาใช้รดหัวในการนี้มักเป็นน้ำหอมเจือด้วยน้ำธรรมดา การสรงน้ำพระ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด ซึ่งในบางที่จะมีการจัดให้สรงน้ำพระสงฆ์เพิ่มเติมด้วย
การบังสุกุลอัฐิ สำหรับเถ้ากระดูกของญาติผู้ใหญ่ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว มักทำที่เก็บเป็นลักษณะของเจดีย์ จากนั้น จะนิมนต์พระไปบังสุกุล
การรดน้ำผู้ใหญ่ คือ การที่เราไปอวยพรผู้ใหญ่ที่เราให้ความเคารพนับถือ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะให้ศีลให้พรผู้ที่ไปรด
ปัจจุบันประเพณีสงกรานต์ ถือเป็น Soft Power ที่โด่งดังจนคนทั่วโลกรู้จัก สู่ความเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่ยูเนสโกรับรอง ที่ทรงคุณค่า ที่ปัจจุบันมีการดัดแปลงในการเล่นน้ำสงกรานต์ที่หลากหลายขึ้น เพิ่มความสนุกสนานในรูปแบบต่างๆมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจและต้องมาร่วมประเพณีสงกรานต์นี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต
เทศกาลสำคัญของแต่ละประเทศนั้น นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ และแวะเวียนไปสัมผัสมากมาย ที่ล้วนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าสนใจแตกต่างกันไป ถือเป็นเสน่ห์ที่เหล่านักท่องเที่ยวต้องไปลองสักครั้งในชีวิต