svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

20 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry ด้าน อ.ไพศาล ชี้ ควรใช้เงินกองทุนการกีฬาฯจ่ายค่าลิขสิทธิ์

20 พฤศจิกายน 2565 ที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดเสวนา “ดูบอลโลกในไทย ทำไมเป็นแบบนี้” นำโดย นางสาว วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) นายเขมทัตต์ พลเดช อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อสมท. นายอภิมุข ฉันทวานิช อดีต ส.ก.ปชป. และอ.ไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวเปิดงาน

อ.ไพศาล กล่าวว่า บทบาทที่เกี่ยวข้องมากที่สุด น่าจะเป็นองค์การกีฬาแห่งประเทศไทย ในส่วนของกสทช.จะกำกับดูแลในเรื่องการกระจายเสียงโทรคมนาคม ไม่ได้มีบทบาทในเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ การอนุมัติจ่ายเงินของ USO เพื่อให้ได้รับลิขสิทธิ์ เป็นมติที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุน ซึ่งกองทุนมีเงินเพียง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ควรโยกเงินกองทุนการกีฬาแห่งชาติมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์แทน ควรเป็นเรื่องของเอกชนเนื่องจากมีเงินทุนและนำมาต่อยอดธุรกิจได้

มาดามเดียร์ แนะ กสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

ด้านนายเขมทัตต์ กล่าวว่า พบว่ากฎหมายใบอนุญาตที่แพงที่สุดคือเรื่องกีฬา เมื่อฐานคนดูเพิ่มขึ้นราคาใบอนุญาตจะเพิ่มสูงตาม สิ่งใดที่เป็นคอนเทนต์และมีราคาควรมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรก

ขณะที่ "มาดามเดียร์" กล่าวว่า เงินในส่วนนี้อาจไม่ใช่ภาษีของประชาชนโดยตรง แต่เป็นเงินที่ให้เอกชนไปประมูลคลื่นความถี่ เป็นทรัพย์สินสาธารณะสมบัติของประเทศ นั่นหมายถึงเป็นของประชาชนคนไทยทุกคน อย่างที่สองคือ เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นเงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน เหตุผลที่ผ่านมาเหตุใดประเทศไทยจึงไม่เคยมีปัญหาในเรื่องนี้

เนื่องจากผู้ประกอบการโทรทัศน์สมัยที่ยังไม่มีทีวีดิจิทัล ได้รวมเงินกันซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก จากนั้นหารายได้จากสปอนเซอร์เข้ามาอุดหนุน ตนคิดว่า เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นถ้าไม่มีปัญหาเรื่อง Must have - Must Carry ที่ทางกสทช.พยายามออกกฎมา เมื่อมีทีวีทิจิทัล แต่กฎที่ออกขณะนั้น ตอนนี้เปรียบเหมือนงูที่เขวี้ยงไม่พ้นคอ เพราะกสทช.บิดเบือนกลไกตลาด

เขมทัตต์ พลเดช อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อสมท.

“หลังจากเรื่องนี้กสทช.ต้องไม่ลืมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนและมาหารือใหม่ในเรื่องของกฎ Must have-Must carry ว่ายังคงเหมาะสมที่จะใช้ต่อไปหรือไม่” มาดามเดียร์ กล่าว


ทั้งนี้ must have คือ ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะทางฟรีทีวี ประกาศนี้ออกมาปี 2555 หรือปี 2012 ก่อนฟุตบอลโลก 2014 โดยออกมาเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงเนื้อหารายการโทรทัศน์ได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งกำหนดรายการทีวีที่สำคัญ ให้ออกอากาศได้เฉพาะฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งบริการทีวีระบบบอกรับสมาชิก เช่น ทรู, CTH, หรือเคเบิ้ลทีวีอื่นๆก็จะดูได้ผ่านทางช่องฟรีทีวีเช่นกัน

ส่วน must carry คือ ประกาศ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศนท์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป เป็นประกาศที่ออกมาเพื่อป้องกันจอดำ โดยกำหนดให้รายการใน"ฟรีทีวี" ต้องสามารถดูได้ผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นภาคพื้นดินหรือระบบผ่านดาวเทียมหรือเคเบิ้ลทีวี ไม่ว่าจะมีค่าสมาชิกหรือไม่ก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันมีฟรีทีวีที่อยู่ในรายการ must carry แค่ 6 ช่อง 3, 5, 7, 9, 11, และ ไทยพีบีเอส แต่ในอนาคตรายการ must carry จะเพิ่มขึ้นเป็น 36 ช่อง คือ ทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ 24 ช่อง และทีวีดิจิตอลบริการสาธารณะ 12 ช่อง (ไม่รวมทีวีดิจิตอลบริการชุมชน 12 ช่อง ซึ่งแต่ละชุมชนจะมีช่องไม่เหมือนกัน) เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถรับชมการเผยแพร่กีฬาที่สำคัญของโลกได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

พรรคประชาธิปัตย์ เสวนา "ดูบอลโลก ในไทย..ทำไมเป็นแบบนี้?" 20 พ.ย. 65

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

“มาดามเดียร์” แนะ จบบอลโลกกสทช.ควรทบทวนกฎ Must have-Must carry

logoline