นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดงาน “มีท เดอะ เพรส” กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยเชิญผู้แทนสมาคมกีฬาต่าง ๆ จำนวน 41 สมาคมที่ไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ร่วมแถลงคงามพร้อมของนักกีฬา และความหวังในการคว้าเหรียญทอง ซึ่งสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ได้จัดงาน “มีท เดอะ เพรส” รวมทั้งหมด 5 ครั้ง ทั้ง 41 สมาคมตั้งเป้ารวม 116 เหรียญทอง แต่ทัพนักกีฬาไทย ทำได้ต่ำกว่าเป้า โดยได้มา 92 เหรียญทอง 102 เหรียญเงิน และ 137 เหรียญทองแดง ซึ่งจำนวนเหรียญทองต่ำกว่าเป้าถึง 24 เหรียญทอง
นายไพฑูร กล่าวต่อไปว่า สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทำการประเมินผลหลังจากจบการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ไปแล้วว่า สมาคมใดทำได้ตามเป้า สมาคมใดได้เกินเป้า และสมาคมใดทำผลงานต่ำกว่าเป้า ดังนี้
กลุ่มที่ทำได้เกินเป้าหมาย ประกอบด้วย
กลุ่มที่ทำได้ตามเป้าหมาย มีดังนี้
กลุ่มที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย มีดังนี้
กลุ่มที่ไม่มีเหรียญรางวัลเลย มี 4 สมาคม ประกอบด้วย
นายไพฑูร กล่าวเสริมว่า ในกลุ่มสมาคมกีฬาที่ทำผลงานได้เกินเป้าหมาย ต้องขอชื่นชมและยกย่องในผลงานที่ทำได้ ทั้งยกน้ำหนัก, ตะกร้อ, เทควันโด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, แบดมินตัน, ว่ายน้ำ, เปตอง, จักรยาน, ยิมนาสติก และ ปันจักสีลัต ขณะเดียวกันในกลุ่มที่ทำได้ตามเป้าหมาย ต้องชื่นชมสมาคมกีฬากรีฑาฯ ที่ทำได้ 12 เหรียญทอง ซึ่งเป็นสมาคมที่ทำเหรียญรางวัลให้ทัพนักกีฬาไทยมากที่สุก แถมยังมีการทำลายสถิติหลายรายการ อีกทั้งทวงบัลลังก์ราชาประเภทลู่กลับคืนมาสำเร็จ โดยเฉพาะวิ่งระยะสั้นและวิ่งผลัด ที่นักกีฬาทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างมาก ส่วนวอลเลย์บอลถึงแม้จะทำได้ตามเป้า แต่วอลเลย์บอลในร่มชาย ไม่มีเหรียญติดมือในรอบ 39 ปี
“สำหรับสมาคมกีฬาที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าหมาย และสร้างความผิดหวังให้แก่แฟนกีฬาชาวไทยมากที่สุด น่าจะเป็นกีฬาฟุตบอล ที่ตั้งความหวังไว้ 4 เหรียญทอง แต่ทำได้แค่ 2 เหรียญทอง จากฟุตซอลชายและหญิง ส่วนฟุตบอลทีมชาย และทีมหญิง แพ้เวียดนามทั้งคู่ พลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย เช่นเดียวกับกอล์ฟ ที่หวังจะกวาดทั้ง 4 ทอง จากประเภททีมและบุคคลชาย-หญิง แต่ทำได้แค่ 2 เหรียญทอง นอกจากนี้มวยสากล ก็ทำได้ 4 เหรียญทอง ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 5 เหรียญทอง อย่างไรก็ตาม การประเมินเหรียญทองจากงาน มีท เดอะ เพรส เป็นเพียงการคาดการณ์ก่อนการแข่งขัน แต่ละสมาคมกีฬาก็จะมาแถลงถึงความพร้อมของนักกีฬาและเป้าหมายที่คาดหวังไว้ สมาคมใดทำผลงานดีได้เหรียญทองเกินเป้าก็ต้องรักษามาตรฐานต่อไป ส่วนสมาคมใดที่ทำได้ต่ำกว่าเป้าก็ต้องกลับมาพิจารณาข้อบกพร่องและแก้ไขจุดอ่อนจุดด้อยของตัวเอง เพื่อสร้างผลงานในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ในปีหน้า” นายไพฑูร กล่าว