เรือล่ม "โรดิโก้-เบนซ์" ซัด 3 ลูกแสบ พา ราชันชุดขาว เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ประจำคืนวันพุธที่ 3 พฤษภาคม ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ระหว่าง "เรอัล มาดริด" ทีมจ่าฝูง ศึกลาลีกาสเปน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "แมนฯซิตี้" ทีมจ่าฝูง ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สำหรับผลเกมนัดแรกที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าของ แมนฯซิตี้ และเป็น เรือใบสีฟ้า เปิดบ้านชนะ เรอัล มาดริด 4-3

เริ่มการแข่งขัน นาทีที่ 12 คาริม เบนเซม่า  ได้จังหวะพาบอลเข้ากรอบเขตโทษของแมนฯซิตี้ ก่อนเลือกยิงบอลข้ามคาน ถัดมา นาที 16 แมนฯซิตี้ ได้โอกาสลุ้นประตูขึ้นนำจากการยิงของ เควิน เดอ บรอยน์ แต่ยิงบอลไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตู นาที 20 เป็นจังหวะลุ้นของ เรือใบสีฟ้าอีกครั้ง จาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้โอกาสยิงด้วยซ้ายแต่เป็น ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟไว้ได้ จบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์

กลับมาครึ่งหลัง นาที 50 แมนฯซิตี้ มีโอกาสใกล้เคียง เมื่อ กาเบรียล เชซุส ได้จังหวะหลุด ยิงด้วยขวาบอลติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทีมเยือนยังรุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 73 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ผ่านบอลของ ให้กับ ริยาด มาห์เรซ  ยิงด้วยซ้ายบอลเข้าไปตุงตาข่าย ปลดล็อกให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 สกอร์รวม 5-3 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูที่สอง นาที 86 จากจังหวะของ ชูเอา คันเซโล่ ยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งติดเซฟผู้รักษาประตู

ประตูตีเสมอ ของ "เรอัล มาดริด" มาจนได้ ในนาทีที่ 90 จากจังหวะ คาริม เบนเซม่า จ่ายบอลให้ โรดริโก้ ตวัดยิงเข้าไป เป็น 1-1  สกอร์รวม 5-4 ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 มาร์โก อเซนซิโอ เปิดบอลให้ โรดริโก้ ขึ้นโหม่งทำประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 2-1 จะมาได้ประตูแซงขึ้นนำจากจังหวะ ทำให้จบเวลาปกติ สกอร์รวมทั้งสองทีมกลับมาเสมอที่ 5-5 ต้องต่อเวลาพิเศษ เพื่อหาทีมผู้ชนะไปพบกับ ลิเวอร์พูล ที่ขึ้นแท่นรอชิงชนะเลิศ จากการเอาชนะ บียาเรอัล ทีมจากลาลีกาสเปน

มาถึงช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่ง เจ้าถิ่นเจาะเรือใบสีฟ้าได้อย่างเหลือเชื่อ ในนาที 94 กองเชียร์ราชันชุดขาวเฮลั่นเมื่อรูเบน ดิอาส ดักจิ้มบอลแต่ดันไปถูกขา คาริม เบนเซม่า ล้มในเขตโทษ กรรมการชาวอิตาลีไม่รอช้าชี้ฟาวล์ และ คาริม ลุกขึ้นมาเป็นผู้สังหารเองไม่พลาด เรอัล มาดริด แซงขึ้นนำเป็น 3-1 ผลสกอร์รวม 6-5  

ช่วงนาทีที่ 105+1 ชูเอา กานเซโล่ วางบอลให้ ฟิล โฟเด้น สะบัดโหม่งติดมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดเปลี่ยนทางก่อน แฟร์นานดินโญ่ จะดอดมาแหย่โดนบอลทางเสาซ้าย

หมดช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เรอัล มาดริด พลิกขึ้นนำ แมนฯ ซิตี้ 3-1 สกอร์รวมสองนัดเป็น 6-5 ทำให้มีความหวังในการเข้าไปชิงแชมป์กับ หงส์แดง

เปิดเกมมาในครึ่งหลังช่วงต่อเวลาพิเศษ เรือใบสีฟ้า พยายามบุกอย่างหนัก เพื่อไล่ตีเสมอ ไม่สามารถพังเกมรับของ ราชันชุดขาวได้ จบเกม 120 นาที เป็น เรอัล มาดริด คว่ำเรือใบสีฟ้าได้อย่างสุดระทึก จัดสกอร์ให้ แมนฯ ซิตี้ แบบช้ำใจ 3-1 สกอร์รวม 2 นัด 6-5 ทะลุเข้าชิงแชมป์เปี้ยนลีกกับ ลิเวอร์พูล  ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่ สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีมในเกมนี้ ประกอบด้วย

เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ , ดานี่ การ์บาฆาล , เอแดร์ มิลิเตา , นาโช่ เฟร์นานเดซ , แฟร์กล็องด์ เมนดี้ , ลูก้า โมดริช , คาเซมิโร่ , โทนี่ โครส , เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ , คาริม เบนเซม่า , วินิซิอุส จูเนียร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส , ไคล์ วอล์คเกอร์ , รูเบน ดิอาส , อายเมริค ลาปอร์กต์ , ชูเอา คันเซโล่ , เควิน เดอ บรอยน์ , โรดรี้ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ริยาด มาห์เรซ , กาเบรียล เชซุส , ฟิล โฟเด้น