หากย้อนไปในเส้นทางของฟุตบอลไทยลีก น่าสนใจ เพราะ "มาดามแป้ง" เข้ามารับงานกับการคุมทีมการท่าเรือ เอฟซี ในปี 2015 และก็ประเดิมงานแรก กับการทำทีมฟุตบอลชาย ด้วยการจบผลงาน ในฐานะทีมอันดับ 17 ของไทยลีกฤดูกาล 2015 ซึ่งหมายถึงการตกชั้น แน่นอนว่ามันคือการจบลง "ในแบบที่ไม่สวย" มาดามแป้ง มีพื้นฐานมาจากการเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่เคยทำผลงานพาทีมไปสัมผัสฟุตบอลโลกมาแล้วกับปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา
แต่กับฟุตบอลชายที่มีความต่าง ทำให้ปีแรกกับการมารับบทบาทประธานสโมสรฟุตบอล ที่มีความเป็นตำนาน จึงเป็นการออกสตาร์ที่ทำได้ไม่ดี แต่ปีที่สองกับการคุมทีม "มาดามแป้ง" ก็ทำให้ทีม กลับขึ้นมายังไทยลีกได้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้เครดิตกับ "นางฟ้าท่าเรือ" ที่ใช้เวลาเพียงปีเดียวกับการแก้มือ แม้ว่าจะไม่สามารถยึดพื้นที่ ของการเลื่อนชั้นในฐานะทีมจ่าฝูง ทำได้เพียง ทีมอันดับสามของตาราง แต่ก็เพียงพอกับการได้เลื่อนชั้น
สิ่งที่น่าสนใจในการกลับมาครั้งนี้ กับสมรภูมิฟุตบอลไทยลีก 2017 ก็คือ การอยู่กับความเป็นจริง ผมมองว่านี่คือสิ่งที่ "มาดามแป้ง" สามารถตกผลึกได้ หลังเรียนรู้กับการคุมทีม "สิงห์เจ้าท่า" มาตลอด 2 ปี โดยเฉพาะ "เป้าหมายกับความเป็นจริง" ที่ต่างกัน ต้องย้อนกลับไปแบบนี้ครับ ปีแรกกับการคุมทีมการท่าเรือ เอฟซี
คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งข้อความผ่านสื่อมวลชน ในวันที่ 13 ก.พ. 58 ก่อนที่ "มาดามแป้ง" จะพาลูกทีม มาเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีคิวพบกันเมื่อ 14 ก.พ. 58 ว่า..
"ผมคงต้องบอก คุณนวลพรรณ ว่ายินดีต้อนรับสู่นรกไทยพรีเมียร์ลีก เพราะการทำทีมชาติกับทำสโมสรนั้น อารมณ์ความรู้สึกต่างกัน ตอนทำทีมชาติมีคำว่า ชาติ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือกว่าทุกสิ่ง แฟนบอลขอเพียงตั้งใจทำเต็มที่ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่มีใครตำหนิ แต่กับสโมสร แฟนบอลท่าเรือคาดหวัง กับการมาของประธานคนใหม่สูงมาก และจะเป็นแรงกดดันมหาศาล สำหรับคุณนวลพรรณ ที่สำคัญยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และจะได้เห็นในการทำสโมสร"
"มาดามแป้ง" เข้ามาคุมทีม "การท่าเรือ เอฟซี" เพื่อสู้ศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ด้วยท่าทีที่อ่อนโยน บวกกับความทุ่มเท กับการทำหน้าที่ประธานสโมสร ได้กลายเป็นภาพลักษณ์ใหม่ และทำให้เธอมีชื่อเรียกเพิ่มเติม จากแฟนบอลย่านคลองเตย ก็คือ "นางฟ้าท่าเรือ"
ฤดูกาล 2017 "นางฟ้าท่าเรือ" กลับสู่ลีกสูงสุด พร้อมกับการประกาศถึงเป้าหมายของทีม ประจำฤดูกาลนี้ ด้วยการขอเพียง ติด 1 ใน 10 ก็เป็นความสำเร็จสูงสุด ในมุมของผม เธอตัดสินใจถูกที่สุดแล้วครับ เพราะเป็นการวางตำแหน่งของ "การท่าเรือ เอฟซี" ไม่ให้ไปผูกติด อยู่ที่ 1 ถึง 5 ของตาราง จาก 18 ทีม การยืนระยะและจบผลงาน เพียงติด 1 ใน 10 มันคือ สิ่งที่ การท่าเรือ เอฟซี พาตัวเองไปถึงจุดหมายที่ใกล้ความเป็นจริงได้ดีที่สุด และนั่นอาจจะเป็นการตกผลึกของ "นางฟ้าท่าเรือ" กับไทยลีก 2017 ที่เธอได้เรียนรู้มาแล้ว กับบรรยากาศของ "นรกไทยลีก"
นรก....ที่มีอยู่จริง