สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย เชิญชวนไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 100 ตัว เพื่อมอบให้คนตาบอดและครอบครัว

วันนี้ก็เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของเดือนมีนาคม  หลายท่านก็กำลังมองหาที่ทำบุญกับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้  สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย  จึงขอเชิญชวนท่านผู้ชม  เดินทางไปไถ่ชีวิตโค-กระบือ  เพื่อนำไปมอบให้คนตาบอดและครอบครัว  จำนวน  100  ตัว  โดยโค-กระบือที่ได้รับการไถ่ชีวิตผู้เลี้ยงจะต้องไม่นำไปฆ่าหรือขาย  แต่ลูกซึ่งเกิดจากโค-กระบือ  คนตาบอดและครอบครัวสามารถเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่ายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์  หรือเลี้ยงไว้เพื่อการใช้งานเท่านั้น  ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้น  ณ  รุ่งโรจน์ฟาร์มหนองจอก  เลขที่  35/2 ซอยเลียบวารี 49 แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 10530  ในวันอาทิตย์ที่  2  เมษายน  พ.ศ. 2566  ที่จะถึงนี้  ซึ่งจะเริ่มทำพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ  ตั้งแต่เวลา  10.00 น.-12.00 น.  ของวันดังกล่าว  และขอความร่วมมือท่านผู้ชมใส่เสื้อสีม่วง  หรือแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย  เนื่องจากในวันดังกล่าวเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  

สำหรับคุณผู้ชมที่ไม่สะดวกเดินทางไปไถ่ชีวิตโค-กระบือ  ให้รอดพ้นจากการเชือดของโรงฆ่าสัตว์ได้ด้วยตนเอง  แต่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญเสริมความเป็นสิริมงคลในชีวิตของคุณผู้ชมและครอบครัวกับทางสมาคมฯ  คุณผู้ชมสามารถร่วมสร้างบุญมหากุศลในครั้งนี้  โดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย  สาขาสำนักแจ้งวัฒนะ เมืองทองธานี เลขที่บัญชี 100-3-13680-5 ประเภทบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 08-9994-6656 หรือ 0-2036-6988 หรือทางแอปพลิเคชั่นไลน์ไอดี “@tabc2016” หรือสแกนคิวอาร์โค้ดที่ท่านผู้ชมเห็นอยู่บนหน้าจอนี้

ในการนี้โคราคาประมาณตัวละ 30,000  บาท  และกระบือราคาประมาณตัวละ  35,000  บาท  ซึ่งท่านผู้ชมจะร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ ทั้งตัว  หรือจะร่วมบริจาคสมสบทุนเป็นบางส่วนตามกำลังจิตศรัทธาของท่านผู้ชมก็ได้  นอกจากนี้ถ้าท่านใดมีโค-กระบือ อยู่แล้ว และอยากบริจาคให้สมาคมฯโดยตรงก็สามารถแจ้งรายละเอียดมาเพื่อให้สมาคมฯ  เดินทางไปรับโค-กระบือที่บ้านของท่านผู้ชมได้เลย ในวันอาทิตย์นี้พบกันนะคะ เรามาร่วมกันให้ชีวิตใหม่แก่โค-กระบือ  และมาช่วยกันเปลี่ยนคนพิการจากภาระให้เป็นพลังด้วยกันค่ะ

หมายเหตุ :  “ เปลี่ยนคนพิการจากภาระให้เป็นพลัง ” เป็นภาษาทางวิชาการที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย