ในยุคปัจจุบันการบำรุงร่างกาย บำรุงผิวด้วยการทานอาหารโดยเฉพาะผัก ผลไม้ ทาครีมบำรุง ทานวิตามิน อาหารเสริมอย่างเคียงอาจใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างนาน และอาจจะได้รับคุณประโยชน์ไม่เต็มที่ จึงทำให้หลายคนนิยมการทำ IV Drip เพื่อฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย บำรุงผิวที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เชื่อว่าหลายท่านที่ยังไม่เคยทำต้องเกิดความสงสัยถึงคุณประโยชน์ของการทำ IV Drip ว่ามีประโยชน์ข้อดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง วันนี้จึงขอพาไปคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับ IV Drip กันครับ
Vitamin drip หรือ IV Drip คืออะไร สงสัยกันใช่ไหมครับ? IV Drip หรือชื่อเต็มๆ ว่า Intravenous Vitamin therapy คือ การให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายสายน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือดดำ ซึ่งการทำ IV Drip จะมีหลากหลายสูตร เช่น สูตรสำหรับการบำรุงผิว สูตรสำหรับเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เป็นต้น
IV Drip ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินมากกว่าการรับประทาน การทาครีม สกินแคร์ เพราะการดริปวิตามินนั้นจะเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ทั้งการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ขับสารพิษ ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ดูกระจ่างใส เป็นต้น และที่สำคัญ IV Drip ยังสามารถขับออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติครับ
การให้ดริปวิตามินผิวด้วยวิธี IV Drip นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ใช้เวลาในการทำไม่นานจนเกินไป และยังไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น จึงทำให้ได้รับความนิยม ซึ่งการทำ IV Drip เหมาะกับกลุ่มคน ดังต่อไปนี้
สำหรับใครที่กำลังสนใจเข้ารับการดริปวิตามินผิว มาดูขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว IV Drip กันก่อนครับว่า มีขั้นตอนในการทำอย่างไรบ้าง ดังต่อไปนี้
ก่อนจะเข้ารับการฉีดวิตามินผิว IV Drip จะมีการตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้น เช่น วัดระดับชีพจร ความดันโลหิต วัดน้ำหนัก ส่วนสูง
จากนั้นเมื่อรับการตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนไข้จะเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและคำแนะนำ รวมไปถึงพูดคุยประวัติสุขภาพ ประวัติการแพ้ยา เป็นต้น เมื่อไม่ติดปัญหาใดๆ ก็จะพูดคุยเลือกสูตรที่เหมาะสมในการดริปวิตามิน
เมื่อพูดคุยได้สูตรที่เหมาะสมในการทำ IV Drip แล้ว พยาบาลจะเช็ดทำความสะอาด ผิวบริเวณที่จะทำการเจาะด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
หลังจากทำความสะอาดผิวเรียบร้อย จะเริ่มทำการเปิดเส้น จากนั้นจะต่อสายน้ำเกลือและปล่อยตัวยาเข้าสู่ร่างกายเรื่อยๆ จนตัวยาหมด เมื่อตัวยาหมดแล้วจากนั้นจะทำการถอดสายน้ำเกลือออก แล้วนำพลาสเตอร์ปิดผิวในบริเวณที่เจาะเข็ม และสามารถกลับบ้านได้
นอกจากขั้นตอนการดริปวิตามินที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น การดริปวิตามินผิวก็มีข้อดี-ข้อเสียที่หากใครกำลังสนใจจะทำต้องควรรู้ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อดี
ข้อเสีย
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ IV Drip
แน่นอนว่าการดริปวิตามินนั้นอาจมีข้อเสียผลข้างเคียงเล็กน้อยคือเจ็บระบมในบริเวณที่มีการเจาะเข็มได้ อย่างไรก็ตามอาจมีผลข้างเคียงที่มากกว่านั้นหากได้รับบริการกับสถานพยาบาลที่ไม่ปลอดภัย ตัวยาวิตามินมาตรฐาน รวมถึงไม่ใช่แพทย์เป็นผู้ดำเนินการทำให้ ขาดความรู้ความเชี่ยวชาญที่ดีพอ เนื่องจากเป็นการเจาะเข็มแบบการให้น้ำเกลืออาจทำให้ติดเชื้อได้ แต่คนไข้สามารถสบายใจได้ครับหากเลือกรับบริการในสถานพยาบาลปลอดภัย ได้มาตรฐาน เคร่งครัดในเรื่องความสะอาด แพทย์มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งช่วยลดอันตรายสำหรับการ IV Drip ให้ห่างไกลได้
การให้วิตามินผิว IV Drip สำหรับในการทำครั้งแรกอาจจะไม่เห็นผลลัพธ์ทันที เพื่อให้เห็นผลลัพธ์นั้นควรทำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไป
สำหรับการดริปวิตามินผิวในเรื่องของผลลัพธ์ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับความถี่ในการเข้ารับบริการ IV Drip ด้วย หากเข้ารับบริการหลายครั้งผลลัพธ์จะอยู่ได้นานมากขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่เข้ารับบริการแบบนานๆ ครั้งครับ
หลายคนกำลังมีแพลนจะดริปวิตามิน แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรทำ IV Drip ที่ไหนดี? ซึ่งการทำ IV Drip นั้นควรเลือกสถานที่ในการทำที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ไปจนถึงผลลัพธ์หลังการเข้ารับดริปวิตามินเป็นอันดับแรก ทั้งการทำ iv drip ที่โรงพยาบาล และคลินิก โดยแพทย์ที่ให้บริการต้องสามารถตรวจสอบรายชื่อผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ว่าเป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตรับรองจริง หากเข้ารับบริการที่คลินิก คลินิกก็ต้องมีใบอนุญาตในการเปิดคลินิกด้วยเช่นกัน ที่สำคัญต้องสะอาดเพื่อความปลอดภัยของคนไข้
อย่างไรก็ตามหากสถานที่ตั้งของสถานพยาบาลที่เข้ารับบริการสามารถเดินทางได้ง่าย เดินทางได้สะดวก อยู่ในจุดแลนมาร์คที่รู้จักได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าก็จะยิ่งดี เพราะจะยิ่งทำให้คนไข้ที่เข้ารับบริการสามารถหาที่ตั้งได้ง่าย ลดความสับสน และลดความเหนื่อยจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญสามารถมาติดตามผลลัพธ์ได้อย่างต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้นหากมีรีวิวที่น่าเชื่อถือ รีวิวโดยผู้เข้ารับบริการจริงๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่ามีประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือจริงๆ หากมีช่องทางที่สามารถติดต่อได้ง่ายทั้งเบอร์โทรศัพท์ โซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็ถือเป็นเรื่องดีด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการติดต่อสอบถามข้อสงสัย หรือนัดหมายการเข้ารับบริการในครั้งถัดไปให้ไม่ติดขัด เพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ในการทำ IV Drip ที่น่าพึงพอใจนั่นเอง
การทำ IV Drip ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพอีกหนึ่งรูปแบบที่หลายๆ คนเลือกทำ เพราะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและสามารถนำไปใช้ฟื้นฟู บำรุงร่างกายได้โดยตรง และยังมีหลากหลายสูตรตามความต้องการในการดูแลตัวเอง เช่น เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน เพื่อบำรุงผิว เป็นต้น ซึ่งการทำ IV Drip ควรทำ 3 ครั้งขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามการทำ IV Drip ควรคำนึงถึงการเลือกสถานที่ในการเข้ารับบริการอยู่เสมอ โดยควรเลือกทำ IV Drip กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีความรู้ความเชี่ยวชาญโดยแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี เพื่อปริมาณวิตามินที่เหมาะสมแล้ว ยังช่วยทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดกับร่างกาย หรือลดความเสี่ยงที่จะเจอตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานได้ด้วยเช่นกัน