เจ้าของรถรู้ยัง ต่อ พรบ. รถยนต์ออนไลน์มีขั้นตอนอย่างไร?

 

สิ่งสำคัญที่เจ้าของรถยนต์ทุกคันต้องมีนอกจากใบขับขี่ก็คือ พรบ. รถยนต์ ซึ่งเป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับที่กฎหมายระบุไว้ว่า รถยนต์ทุกคันจะต้องมี แต่ด้วยอายุการใช้งานของ พรบ.รถยนต์ที่ยาวนานถึง 1 ปี ทำให้มีหลายคนลืมไปต่ออายุ พรบ. รถยนต์ จนทำให้ไม่สามารถต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ได้ นอกจากนี้หากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ ยังต้องเสียเงินจ่ายค่าปรับเนื่องจากใช้ พรบ. หมดอายุด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพาคุณมาเรียนรู้ 7 ขั้นตอนต่อพรบ.รถยนต์ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ที่ทั้งง่าย และสะดวกสบาย

 

 

 

7 ขั้นตอนต่อ พรบ. รถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก

 

ในปัจจุบัน การต่อพรบ.รถยนต์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากและต้องใช้เวลาอีกต่อไป เพราะสามารถต่อพรบ.รถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง ดังนั้น หากคุณขับขี่โดยไม่มีพรบ.รถยนต์ หรือใช้พรบ.ที่หมดอายุ ก็จะไม่สามารถใช้ข้ออ้างว่า ไม่มีเวลาไปต่อพรบ.ได้อีกต่อไป แล้วขั้นตอนการต่อพรบ.ออนไลน์จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

1. เข้าเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf ของกรมการขนส่งทางบก
2. หากเคยลงทะเบียนแล้ว สามารถล็อกอินด้วยเลขบัตรประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ได้เลย
3. หากยังไม่เคยลงทะเบียน ให้คลิกลงทะเบียนสมาชิกใหม่ แล้วกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทั้งที่อยู่ปัจจุบัน และที่อยู่ส่งเอกสาร จากนั้นจึงใช้เลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านที่ลงทะเบียนไว้เพื่อล็อกอินเข้าสู่ระบบ
4. เลือกหัวข้อ บริการ แล้วคลิก ชำระภาษีรถประจำปี > ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต
5. กรอกข้อมูลทั้ง 3 ช่องให้ครบถ้วน ได้แก่ ประเภทรถ จังหวัด และเลขทะเบียนรถ จากนั้นกดบันทึก แล้วจะมีรายการข้อมูลลงทะเบียนรถปรากฏด้านล่าง ให้คลิกช่องสี่เหลี่ยมด้านหน้ารายการแล้วกด ชำระภาษี
6. หากยังไม่เคยลงทะเบียนรถ ให้คลิกที่ลงทะเบียนรถ จากนั้นกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย แล้วกดชำระภาษี
7. เมื่อเข้าสู่หน้าข้อมูลการยื่นชำระภาษี จะมีข้อมูล รายละเอียดรถ ข้อมูลพรบ. และรายการที่ต้องชำระปรากฏขึ้น ให้คลิกเลือกวิธีชำระเงินตามความสะดวก โดยเมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว จะมีใบเสร็จขึ้นเป็นหลักฐาน จากนั้นให้รอรับพรบ.ตามที่อยู่จัดส่งที่กรอกไว้

 

 

ต่อพรบรถยนต์ใช้อะไรบ้าง?

 

 

ได้ทราบขั้นตอนการต่อพรบ. รถยนต์ออนไลน์กันไปแล้ว อันดับต่อไปก็มาถึงส่วนของสิ่งที่ต้องเตรียมในการต่อพรบ.รถยนต์ออนไลน์ ซึ่งมีเพียงแค่สมาร์ตโฟน/แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ และเวลาในการกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต่างจากการไปต่อพรบ.รถยนต์ด้วยตัวเองที่กรมการขนส่งทางบกที่ต้องใช้เอกสาร 4 อย่าง ได้แก่

• สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
• เอกสาร พรบ.รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
• ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
• เงินสำหรับอัตราภาษีรถ ตามพรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522

 

เมื่อได้ทราบไปแล้วว่า ต่อพรบรถยนต์ใช้อะไรบ้าง? เจ้าของรถยนต์ที่ยังไม่ได้ต่อพรบ.รถยนต์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็อย่าลืมจัดเวลาไปต่อพรบ.ให้เรียบร้อย เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าปรับเมื่อโดนเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ นอกจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย แน่นอนว่าเมื่อมีเว็บไซต์ให้ต่อพรบ.ออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ก็ควรจะรีบไปจัดการให้ถูกต้องจะดีกว่า