ข่าวดี ! รีไฟแนนซ์บ้าน ปิดยอดไวขึ้น เลือกธนาคารไหนดี Refinn มีคำตอบ

 

การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังหนึ่ง สำหรับเพื่อน ๆ หลายคนนับว่าเป็นเป้าหมายที่มีความสำคัญในชีวิต เราเองก็เช่นกัน แต่การมีบ้านก็มาพร้อมกับภาระอันยิ่งใหญ่ เพราะมันหมายถึงหนี้สินที่เราต้องผ่อนชำระกันไปยาว ๆ หลายสิบปี ยิ่งช่วงไหนดอกเบี้ยขึ้น ยิ่งสร้างปัญหาชวนปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เพราะเราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมไปด้วย 

 

ทางออกที่ผมอยากแนะนำให้กับทุกคน และเป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนมีภาระบ้านอย่างเรา ๆ ก็คือการรีไฟแนนซ์บ้านนั่นเอง เพราะการรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยลดดอกเบี้ยแต่ละเดือนให้น้อยลง และเราสามารถปิดยอดได้ไวขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี ผมจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

 

 

รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

 

 

สำหรับคนไหนที่เพิ่งเข้าสู่วงการด้านการเงิน อาจงงว่ารีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร? การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การที่เราไปทำเรื่องกู้กับธนาคารใหม่มาโปะหนี้ของธนาคารเก่านั่นเอง ประโยชน์ที่เราจะได้รับก็คือดอกเบี้ยบ้านต่อเดือนของเราจะลดลง

 

ที่เป็นเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่าการขอสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินแห่งแรก ในช่วงแรกมีโปรโมชันที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยถูกพิเศษ ช่วง 3 ปีแรกเราเลยไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยสักเท่าไหร่ แต่เมื่อผ่าน 3 ปีไปแล้ว ถ้าเรายังไม่ตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน เราจะต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากภาวะดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้การชำระยอดคงเหลือของหนี้ช้าลงกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเราจะผ่อนชำระในปริมาณเงินที่เท่ากันทุกเดือนก็ตาม เพราะยอดดอกเบี้ยถูกหักออกมามากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

 

รีไฟแนนซ์บ้าน กับรีเทนชัน ต่างกันไหม ? 
 

รีเทนชัน เป็นการเจรจาต่อรองกับธนาคารเดิมที่เราขอสินเชื่อบ้านตั้งแต่แรกเพื่อปรับลดดอกเบี้ยลง จะทำกับสินเชื่อบ้านหรือคอนโดก็ได้ ธนาคารจะพิจารณาจากประวัติการชำระหนี้ของเรา ว่าที่ผ่านมาเป็นลูกหนี้ชั้นดีหรือเปล่า ข้อดีก็คือเราไม่ต้องเตรียมตัวทำเอกสารหรือยื่นขอสินเชื่อใหม่ ใช้เวลาในการอนุมัติไม่นาน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใหม่

 

ในขณะที่การรีไฟแนนซ์บ้านจะเป็นการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ซึ่งก็จะมีกระบวนการด้านเอกสารต่างๆ ที่ต้องส่งให้กลับธนาคารใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่กรมที่ดินอีกประมาณ 1% แต่ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าการรีเทนชัน เมื่อคำนวณในระยะยาว ส่วนใหญ่จะประหยัดดอกเบี้ยได้มากกว่า แม้ว่าเราจะมีค่าใช้จ่ายที่กรมที่ดิน แต่ก็ยังถูกกว่าครับ

ประเภทของดอกเบี้ยบ้าน

 

ก่อนจะไปรีไฟแนนซ์บ้าน อันดับแรกที่ทุกคนต้องทำความรู้จักเลยก็คือดอกเบี้ยนั่นเอง คงไม่มีธนาคารไหนที่เอาเงินก้อนให้เราไปซื้อบ้านโดยไม่หวังผลตอบแทน และผลตอบแทนที่ธนาคารจะได้รับก็คือ ‘ดอกเบี้ย’ โดยในปัจจุบันดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแบ่งออกง่าย 2 แบบ 

1. อัตราคงที่ เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดไว้ว่าแต่ละปีจะคิดดอกเบี้ยเท่าไร แม้ว่าจะมีการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น หรือลง ดอกเบี้ยเราก็จะคงที่อยู่แบบนั้นครับ ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารก็จะให้ไว้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ให้ดอกเบี้ยคงที่ 1-2 ปีแรก หลังจากนั้นเป็นแบบลอยตัว

2. อัตราลอยตัว เป็นการคำนวณดอกเบี้ยตามสถานการณ์ตลาดครับ เช่น ตอนนี้คุณได้ดอกเบี้ย 2% ต่อปี เมื่อธนาคารมีประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ดอกเบี้ยที่คุณเคยจ่าย 2% ก็จะกลายเป็น 2.25% ครับ แต่ในทางกลับกันถ้าธนาคารประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% ดอกเบี้ยคุณก็จะลดลงเหลือ 1.75% ครับ

 

ดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลอย่างไรกับคนซื้อบ้าน

 

ช่วงนี้มีการปรับตัวดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ หลายคนเลยหันมาให้ความสนใจรีไฟแนนซ์บ้านมากขึ้นกว่าเดิม นั่นก็เป็นเพราะว่าดอกเบี้ยขาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อคนที่กำลังผ่อนสินเชื่อบ้านอยู่นั่นเอง หากสังเกตดูให้ดีเราจะพบว่าช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้น เวลาจ่ายเงินผ่อนชำระไปในแต่ละเดือนอาจจ่ายในจำนวนเท่าเดิม แต่ยอดเงินต้นกับลดลงนิดเดียวจนแทบจะไม่กระเตื้องไปไหน รีไฟแนนซ์บ้านจึงเป็นคำตอบสำหรับคนมีบ้าน เพราะช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยได้ ท่ามกลางสถานการณ์การเงินที่ไม่คงที่

 

ดอกเบี้ยขึ้น รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยอะไรได้ไหม

 

รีไฟแนนซ์บ้าน เป็นตัวช่วยชั้นดีโดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยกำลังขึ้นอยู่เหมือนตอนนี้ สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะ refinance บ้านดีไหมผมขอบอกเลยว่าดีแน่นอน เพราะหลังจากที่เราผ่อนบ้านเกิน 3 ปีขึ้นไปแล้ว ก็จะสิ้นสุดช่วงระยะเวลาอัตราดอกเบี้ยคงที่ เราต้องเผชิญหน้ากับการปรับตัวขึ้นลงของดอกเบี้ยที่ไม่แน่นอน ทำเอาต้องลุ้นทุกวันว่าจะมีประกาศขึ้นดอกเบี้ยกันวันไหน มันไม่ใช่เรื่องที่น่าภิรมย์เลยสักนิด บางทีจ่ายเงินผ่อนชำระยอดเท่าเดิม แต่กับกลายเป็นว่าเงินต้นลดลงไปนิดเดียว เพราะดอกเบี้ยขึ้น เงินเลยไปกองอยู่ที่ดอกเบี้ยหมด 

 

ดังนั้น ถ้าเรารีไฟแนนซ์มันตอนที่ดอกเบี้ยขึ้นนี่แหละ เราก็จะลดภาระดอกเบี้ยได้เป็นกอง เพราะการไปรีไฟแนนซ์คือการขอสินเชื่อบ้านใหม่กับธนาคารแห่งใหม่ นอกจากจะได้อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อเวลาไปอีก 3 ปี 

 

อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน เลือกธนาคารไหนดี 2566

 

สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านคือเราต้องตรวจสอบก่อนว่าแต่ละธนาคารช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเป็นยังไง วงเงินให้กู้สูงสุดเท่าไหร่ เพราะสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแต่ละธนาคารก็จะมีโปรโมชันดึงดูดใจลูกค้าอย่างเราที่ไม่เหมือนกัน เป็นข้อมูลชวนปวดหัวเพราะมันมีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด แต่ไม่ต้องกังวลไป ผมได้รวบรวมข้อมูลง่ายๆ เพื่อให้ทุกคนประกอบการตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว

 

 

วิธีการเลือกรีไฟแนนซ์บ้านที่ดีที่สุด

 

เพื่อนๆ ที่อ่านข้อมูลแล้วสนใจอยากจะรีไฟแนนซ์บ้าน หรือแม้แต่รีไฟแนนซ์คอนโด แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกยังไงดีถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด มีอะไรที่เราจะต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมบ้าง มาดูทางนี้เลย 

1. สถาบันการเงินที่อัตราดอกเบี้ยต่ำลง การรีไฟแนนซ์ในแต่ละปีก็จะมีโปรโมชั่นหรืออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น รีไฟแนนซ์บ้าน 2566 ก็ต้องดูด้วยว่าสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่เราจะไปขอสินเชื่อ มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าธนาคารแรกไหม อย่าลืมคำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่การผ่อนชำระปีแรกไปจนถึงปีสุดท้ายในสัญญาด้วย จากนั้นก็นำเอามาเฉลี่ยแล้วพิจารณาดูว่าคุ้มค่าในการชำระหรือเปล่า 

2. ให้เราเลือกโครงการสินเชื่อที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ความต้องการของเรา จะช่วยให้การยื่นขอสินเชื่ออนุมัติเร็วขึ้นกว่าเดิม 

3. การขอ refinance กับธนาคารใหม่ประมาณ 1-2 เดือนก่อนครบอายุสัญญารีไฟแนนซ์ เพื่อให้ธนาคารใหม่มีเวลาในการพิจารณาเอกสารและตรวจสอบคุณสมบัติของเรา เพราะอนุมัติแล้วก็จะพอดีกับช่วงหมดอายุสัญญากับธนาคารเก่าพอดี 

4. ค่าใช้จ่าย แต่ละธนาคารก็จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรีไฟแนนซ์แตกต่างกัน ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยค่าธรรมเนียมขอสินเชื่อ 1% จากวงเงินใหม่ ค่าประเมินหลักประกันไม่เกิน 3,100 บาท ค่าธรรมเนียมจำนอง 1% จากวงเงินประเมิน ค่าอากรแสตมป์ 0.05% จากวงเงินกู้ใหม่ และค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยประมาณ 1,000 - 2,000 บาท

5. การขอเพิ่มวงเงิน ทางเลือกเวลารีไฟแนนซ์จะมีอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือการขอวงเงินตามยอดหนี้เท่าที่เหลืออยู่จริง หรือจะขอวงเงินตามราคาประเมินก็ได้เหมือนกัน 

6. เช่นเดียวกันกับวงเงิน เราจะผ่อนตามระยะเวลาสัญญาหักลบจากของเดิมที่เคยผ่อนไปก็ได้ อย่างเช่นผ่อนบ้านมาแล้ว 5 ปีจากทั้งหมด 20 ปี รีไฟแนนซ์มาธนาคารใหม่ก็ผ่อนต่ออีก 15 ปี ยอดเงินอาจน้อยลงกว่าเดิมแต่ไม่มากนัก สำหรับใครอยากผ่อนสบายๆ ก็สามารถยืดระยะเวลาการผ่อนชำระเป็น 20 ปีตามเดิม แต่ก็อาจจะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มเติมตามจำนวนเวลาที่เราเพิ่มไปด้วย 

 

เริ่มต้นรีไฟแนนซ์บ้าน ผ่าน Refinn

 

เพื่อน ๆ ที่ไม่อยากยุ่งยากดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลไปเพราะเรามีเว็บไซต์ที่ช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านง่ายขึ้นมาแนะนำ นั้นก็คือ www.refinn.com เป็นผู้ให้บริการในการค้นหา เปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้าน และสามารถสมัครได้เลยผ่านเว็บ ไม่เสียเวลาเดินทางไปธนาคารด้วยตัวเอง ทุกคนใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย วิธีการมีดังนี้

 

1. ค้นหาโปรโมชัน เว็บไซต์ของเขาได้รวบรวมโปรโมชันใหม่ ๆ ของธนาคารชั้นนำ 15 แห่งทั่วทั้งประเทศไทยไว้ในที่เดียว ช่วยให้เพื่อนๆ เปรียบเทียบข้อมูลได้ง่ายว่าโปรโมชันไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรา สนใจตัวไหนก็คลิกสมัครบริการได้เลย 

2. กรอกข้อมูลการสมัคร ผ่านออนไลน์ 

3. รอรับการติดต่อจากทางธนาคาร ทีมงาน Refinn ยังช่วยติดตามและคอยแนะนำคุณในทุกขั้นตอน

4. ยื่นเอกสารให้ธนาคาร จากนั้นเขาจะดำเนินการส่งเอกสารให้ทางธนาคารดำเนินการทุกอย่างให้กับเรา

 

ในแต่ละขั้นตอนจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปหาเพื่อน ๆ เพื่อแจ้งรายละเอียดและขั้นตอนการดำเนินการแบบครบถ้วน ซึ่งหากใครมีข้อสงสัยตรงไหนก็สามารถติดต่อเข้าไปสอบถามข้อมูลได้เลย

 

สรุป

 

สรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่กำลังปวดหัวกับภาระสินเชื่อบ้านที่ต้องชำระในแต่ละเดือน เพราะมันเป็นสินเชื่อที่กินเวลายาวนาน แถมแต่ละงวดก็ค่อนข้างสูงด้วย ยิ่งผ่อนนานบางสินเชื่อก็ยิ่งต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้ จ่ายไปเงินต้นแทบไม่ลด เหมือนกับเราจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเปล่า ๆ ไปในแต่ละเดือน 

 

การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยน้อยลง ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น เพราะพอดอกเบี้ยน้อย เงินก็ถูกนำเอาไปปิดยอดเงินต้นมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจ แต่ไม่อยากยุ่งยากดำเนินการทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมขอแนะนำให้ใช้บริการกับ Refinn ครับ