ฝันใหม่ “ประเสริฐ” นอมินีชินวัตร “มนพร-สุดาวรรณ” ทุนแดงแชมป์อีสาน

แชมป์อีสาน ประเสริฐ สายตรงชินวัตร มนพร-สุดาวรรณ นอมินีทุนแดง หักด่านน้ำเงิน-กล้าธรรม สู่แชมป์อีสาน

สถานการณ์ขาลง ทางรอดเพื่อไทย ต้องแชมป์ สส.อีสาน หากพลาดเป้า จะกลายเป็นพรรคต่ำร้อยในระดับประเทศ

ผลการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2568 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค

เหมือนฉายหนังซ้ำปี 2563 เมื่อที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย เลือกสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค และประเสริฐ จันทรรวงทอง นั่งเลขาธิการพรรค

พ.ศ.นี้ เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครจากลูกเป็นพ่อคือ “หนิม-จุลพันธ์” ลูกชายสมพงษ์ และการยกเครื่องเพื่อไทยหนนี้ ก็แค่โยกตัวจริงเสียงจริงไปอยู่แถวหลัง

ว่ากันจริง รายชื่อหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 29 คน ที่มีภาพเป็นคนรุ่นใหม่ แต่แท้ที่จริงก็เป็น “นอมินี” กลุ่มทุนพรรค

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคคนใหม่ก็มาจากความเห็นชอบของคนในตระกูล “ชินวัตร”

ส่วน “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” เลขาธิการพรรคก็เป็นตัวแทนของ พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มังกรปากน้ำโพที่ถนัดทำงานเบื้องหลัง

ที่น่าสนใจในกลุ่มรองหัวหน้าพรรคภาคอีสานทั้ง 3 คนคือ มนพร เจริญศรี รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบอีสานกลาง สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบอีสานใต้ และเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบอีสานเหนือ

ทั้ง “มนพร-สุดาวรรณ-เลิศศักดิ์” คือตัวแทนกลุ่มทุน สะท้อนยุทธศาสตร์ “แชมป์อีสาน” เพื่อลบคำปรามาส “พรรคต่ำร้อย”

มนพร และสุดาวรรณ สองแม่ทัพหญิงนำทัพอีสาน 

นอมินีเดอะซัน-แป้งมัน

สมรภูมิอีสานปี 2566 เพื่อไทยได้ สส.อีสาน 73 ที่นั่ง จากทั้งหมด 133 ที่นั่ง โดยภูมิใจไทย กวาดมาได้ 35 ที่นั่ง แถมมีอีก 8 พรรคเจาะไปได้ 25 ที่นั่ง

ดังนั้น การเลือกตั้งสมัยหน้า สนามอีสาน เพื่อไทยจะมี สส.ต่ำกว่า 73 ที่นั่งไม่ได้ เพราะหากแพ้ที่อีสาน เพื่อไทยทั้งประเทศ อาจได้ สส.ต่ำร้อย ดังที่กูรูการเมืองคนเคยหยามหยันไว้

ด้วยเหตุนี้ จึงมีการวางตัวรองหัวหน้าพรรคอีสาน 3 คน ที่เป็นตัวแทนกลุ่มทุนใหญ่

มนพร เจริญศรี สส.นครพนม 3 สมัย แต่ได้นั่ง รมช.คมนาคม เนื่องจาก “สส.เดือน” เป็นคนสนิทของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน

“มนพร” จึงถูกมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่อีสานกลาง ประกอบด้วยมหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร

“ปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ทายาท “กำนันป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ประมุขอาณาจักรแป้งมันโคราช และ “มาดามหน่อย” ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ก้าวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบภาคอีสานใต้

ค่ายแป้งมัน จึงได้ดูแลตั้งแต่อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลฯ ศรีสะเกษ สุรินทร์ นครราชสีมา และชัยภูมิ

“สส.ป๊อก” เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองวังสะพุง และ สส.เลย 2 สมัย เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง นั่งรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบภาคอีสานเหนือ ตั้งแต่ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ

ด้านหนึ่ง สส.ป๊อก เป็นเจ้าของทีมสโมสรฟุตบอลเมืองเลย ยูไนเต็ด และมีความสนิทสนมกับ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ

แดงดวลน้ำเงิน-กล้าธรรม

มองสภาพความเป็นจริงทางการเมือง การเลือกตั้งสมัยหน้า สมรภูมิอีสาน 133 ที่นั่ง ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อพรรคเพื่อไทย

ตัวเลข สส.เขต 73 ที่นั่งของพรรคแดง กำลังถูกท้าทายจาก “บ้านใหญ่”พรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม

สมัยที่แล้ว ภูมิใจไทยได้ 35 ที่นั่ง ด้วยกลยุทธ์ตอกเสาเข็ม และวันนี้ ได้ดึงตัว สส.เพื่อไทย 6 คน และ สส.ไทยสร้างไทย 2 คน มาสวมเสื้อน้ำเงิน

กล้าธรรม เป็นพรรคใหม่แต่เต็มไปด้วยนักเลือกตั้งมืออาชีพ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ซึ่งประเมินว่า ร.อ.ธรรมนัส จะปักธง สส.อีสานได้ไม่ต่ำกว่า 15 ที่นั่ง

มินับกระแสสีส้มที่มาแรงในภาคอีสาน และยังได้แต้มจากคำขวัญ “มีเรา ไม่มีเทา” โดยสมัยที่แล้ว พรรคก้าวไกล ได้ สส.เขต 7 คน สมัยหน้า พรรคประชาชน น่าจะได้ สส.เขตเพิ่มขึ้น

วันนี้ กระแสชาตินิยมแผ่วลง ปัญหานักการเมืองสีเทาร้อนแรง ค่ายแดงจึงยังฝันที่ยังจะเป็นแชมป์อีสานอีกสมัย