svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

"บิ๊กต่อ - บิ๊กโจ๊ก" บนเส้นด้ายชีวิตโยง "เว็บพนัน" ใครทุกข์หนักกว่ากัน

ปมชี้มูล "บิ๊กต่อ" อดีต ผบ.ตร. พร้อม ตร.กว่า 200 นาย คดีเว็บพนัน ทำให้หวนนึกถึงกรณี "บิ๊กโจ๊ก" ที่ถูกร้องเรียนลักษณะคล้ายคลึงกัน จนพ้นตำแหน่งราชการ ใครทุกข์หนักกว่ากัน?

25 ตุลาคม 2568 กรณีมีกระเเสข่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ได้มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกกว่า 200 นาย ภายหลังจาก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด" (ทนายตั้ม​) ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 


"ทนายตั้ม" กล่าวหาว่า  "บิ๊กต่อ" เเละพวกมีการรับเงินจากขบวนการส่วย เว็บพนันออนไลน์


ซึ่ง ก.ร.ตร.รับไว้ตรวจสอบ โดยหากมีมูล จะให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งคณะกรรมการฯ จะนำคำชี้แจงมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อกำหนดโทษทางวินัยว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง จากนั้นจะส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะกรรมการเสนอแนะการลงโทษ จะเป็นผู้พิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี หลังจากที่เกษียณอายุราชการ โดยมีโทษตั้งแต่ผิดวินัยไม่ร้ายแรงและวินัยร้ายแรง โดยมีโทษปลดออกและไล่ออกนั้น

เคสนี้สะเทือนย่านปทุมวันอย่างยิ่ง เพราะผู้ถูกกล่าวหาเคยเป็นถึง "พิทักษ์1"  เเต่มีบางอย่างที่น่าพินิจในเคสนี้คือ ผู้ร้องเรียนไปยัง ก.ร.ตร./สตช./สำนักงานป.ป.ช.นั้นคือ ทนายต้้มที่ตอนนี้ถูกคุมขังในคดีฉ้อโกงเเละฟอกเงิน 


ส่วนอีกหนึ่งคนที่เคยออกหมัดรัวๆ ใส่บิ๊กต่อคือ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล” อดีตรอง ผบ.ตร.ที่ร่วมร้องเรียนกับทนายตั้ม โดย บิ๊กโจ๊ก ขอความเป็นธรรมให้ตัวเองเเละยืนสู้ว่า บิ๊กต่อ เเละ บิ๊กโจ๊ก โดนกล่าวหาผิดฐานรับเงินเว็บพนันเหมือนกัน เเต่ทำไมบิ๊กโจ๊กโดนไล่ออกเพียงผู้เดียว...

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล  อดีตผบ.ตร. และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.

ที่ผ่านมา อดีตรอง ผบ.ตร.ออกมาขยับว่า ความเป็นธรรมยังไม่เกิดขึ้น และทำไมที่ผ่านมา ตร.เลือกปฏิบัติกับอดีตรองผบ.ตร.เเละพวก เเต่คนอื่นๆ กลับลอยนวล เเต่ตอนนี้ บิ๊กโจ๊ก น่าจะพอยิ้มออกได้บ้าง...เพราะกระเเสข่าวที่ออกมาจากรั้ว ก.ร.ตร.คล้ายคลึงข้อมูลที่ บิ๊กโจ๊ก ชี้ว่า เร็วๆ นี้จะมีการเช็กบิลตำรวจกว่าสองร้อยชีวิต..


เคสนี้ กระเเสข่าวเเจ้งว่า ก.ต.ตร.ใช้เวลาทำงานเจ็ดเดือน ไล่ตรวจสอบข้อร้องเรียนดังกล่าว เเละมีบทสรุปดังกล่าว เเต่น่าสังเกตว่า เส้นเงินที่ทนายตั้ม เเละ บิ๊กโจ๊ก นำมาร้องเรียน บิ๊กต่อ นััน มีคำถามตั้งเเต่วันนั้นจนวันนี้ว่า ทั้งสองคนนี้ได้มาอย่างไร?!? ถูกกฎหมายหรือไม่!?! และ ก.ร.ตร.ได้ประสานสำนักงาน ป.ป.ง.สอบสวนเส้นเงินดังกล่าวว่า เป็นของจริงหรือไม่!?!

ความจริงข้อหนึ่งคือ สังคมรู้เเล้วว่า อดีตทนายคนดังและ บิ๊กโจ๊ก แนบเเน่นกันเเค่ไหน ..หากหลักฐานดังกล่าวของ ทนายตั้ม และ บิ๊กโจ๊ก มีน้ำหนักกฎหมายเเละ ก.ร.ตร. เปิดช่องทางให้ บิ๊กต่อ เเละพวกไปชี้เเจงสู้ข้อกล่าวหา โดย ก.ร.ตร. จะชั่งหลักฐาน/เหตุผลของผู้ถูกกล่าวหาว่า ฟังขึ้นหรือไม่ ?!? อันนี้สุดเเล้วเเต่เวรกรรมของเเต่ละบุคคลไป


เเต่อย่าลืมว่า การที่อดีตรอง ผบ.ตร.พยายามบอกว่า บิ๊กต่อ เเละพวกมีความผิดในเรื่องนี้นั้น เเละเร็วๆ นี้ บิ๊กโจ๊กจะนำข้อมูลลับมาเปิดโปงให้สังคมรับรู้กันเเบบจุกๆ นั้น

แฟ้มภาพ  เส้นเงินตามการร้องเรียนของษิทรา เบี้ยบังเกิด เพื่อต้องการเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผบ.ตร.


บางคนสอบถามว่า  เเสดงว่า บิ๊กโจ๊ก รู้เเละตามติดเคสเหล่านี้มาโดยตลอด...เเต่ทำไม บิ๊กโจ๊ก ไม่จับกุมชาวสีกากีเหล่านี้ในยามนั้น? และเเบบนี้ บิ๊กโจ๊ก มีความผิด ป.อาญา มาตรา157 หรือไม่!?!


สังคมรับรู้สิ่งที่ บิ๊กโจ๊ก กุมความลับสีเทาเเละเผยข้อมูลในช่วงที่ตำรวจค้นบ้านพักซอยวิภาวดีรังสิต 60 ช่วงปลายเดือนกันยายน 2566 โดย บิ๊กโจ๊ก ชี้เป้าว่า ไม่อยากทุบหม้อข้าว หากเปิดเมื่อใดตายหมดทั้ง สตช.นั้น
 


หากเป็นเเบบนี้เเปลว่า บิ๊กโจ๊กก็มีส่วนร่วมในการกระทำผิดกเหมือนบิ๊กต่อเเละพวกหรือไม่..


เเต่.. บิ๊กโจ๊ก อาจจะหนักกว่า เพราะ บก.ปปป.เคยส่งสำนวน 1,420 หน้า ให้สำนักงาน ป.ป.ช. โดย บก.ปปป. ตรวจสอบไฟล์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ เเล้วพบหลักฐานหลากรายการที่ส่อเเววสีเทา 


โดยเฉพาะข้อมูลเส้นเงิน/บัญชีม้า/เเชตไลน์ที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ เเจ้ง บิ๊กโจ๊ก ถึงการรับ/เบิกเงินเหล่านี้จำนวนมากในการ กระจายไปให้บุคคลต่างๆ ตามที่ บิ๊กโจ๊ก ระบุไว้
 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.

เงินสีเทาดังกล่าวพบว่า บางส่วนมีการนำไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน/ห้องอินทรีในหมู่บ้านซอยวิภาวดีรังสิต 60 ซึ่ง บิ๊กโจ๊ก อาศัยอยู่ เเม้ บิ๊กโจ๊ก อ้างหลายคราวว่า ไม่มีการโอนเงินจากบัญชีม้าไปยัง บิ๊กโจ๊ก โดยตรงก็ตาม เเละอดีตรองผบ.ตร.มักอ้างว่า ไม่ได้รับรู้ว่าลูกน้องไปใช้บัญชีม้า/รับเงินจากเว็บพนันบีเอ็นเค มาสเตอร์/ลูกน้องบางคนคบหาเเละยืมเงิน  จากมินนี่เจ้าเเม่เว็บพนันได้อย่างไร...


ดังนั้นประจักษ์พยานดังกล่าวเพียงพอที่จะบ่งชี้ได้ว่า บิ๊กโจ๊ก รับรู้เเละมีส่วนร่วมในการกระทำผิดเพียงใด


ดังนั้นใครที่ถูกกล่าวหาก็ใช้สิทธิในการชี้เเจง เเละสู้คดีกันไปตามชะตากรรม เเต่ใครที่มัวหมองเเละยังดิ้นรนทุกวิถีทาง หากชาวสีกากีบางราย ยังโต้ตอบกันว่า หากข้าชั่ว เอ็งก็ผิดเเบบนี้ไปเรื่อยๆ นั้น เเวดวงสีกากีคงไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไปแล้วกับบ้านนี้เมืองนี้