เช็กดวงชะตาการเมือง "ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง-พรรคร่วมฯ" พ้นบ่วงกรรมหรือไม่

23 กรกฎาคม 2568 ดินเนอร์งาน "Pheu Thai Praty (พรรคเพื่อไทย) สามัคคีประเทศ ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน" ที่เพิ่งจบไปเมื่อค่ำวันที่ 22 กรกฎาคมปีนี้  โดยมีคณะรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จากพรรคเพื่อไทย( เจ้าภาพ ) พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้าธรรม พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ ร่วมวงนััน 

ไฮไลท์ของงานนี้อยู่ที่วาทะของ "ทักษิณ  ชินวัตร" ที่ยังมีความสำคัญทางการเมืองเเละที่น่าสนใจอีกชั้นหนึ่ง คือบรรดาวรรคทองของอดีตนายกฯบิดา กลบลีลานายกฯลูกสาว “เเพทองธาร ชินวัตร”ในคืนนั้นโดยพลัน...เเบบที่เรียกได้ว่า สร.1เเละหัวหน้าพรรคเพื่อไทยถูกกดทับไร้ประเด็น

วาทะของทักษิณ พยายามปลุกความเชื่อมั่นว่า สทร.คนนี้ จะประคองรัฐบาล / สภาผู้เเทนฯ / ครม.ชุดนี้ รอดวิกฤตเเน่นอน?!? เเม้ความจริง พบว่า รัฐนาวาอุ๊งอิ๊ง มีภาวะปริ่มน้ำ จนสภาผู้เเทนฯ ปิดประชุมสามคร้้งซ้อน ในสมัยประชุมนี้ หลังพรรคสีน้ำเงินพ้นสัมพันธ์ 

อายุขัยครม.ชุดนี้นั้น จะครบวาระสี่ปี หรือหยุดไว้ในช่วงปลายปีนี้-ต้นปีหน้า ตามมุมมองของกูรูหลายสำนักเนื่องจากสารพัดคดีการเมืองของคนขั้วรัฐบาลที่น่าจะรู้ชะตากรรมตั้งเเต่เดือน "สิงหาคม" เป็นต้นไป

บางช่วงของการดินเนอร์ วาทกรรมของทักษิณ  ระบุถึงภาวะครม.แพทองธาร ที่พอถอดรหัสสำคัญได้คือ

"ในสมัย 51 ปีที่แล้ว ผมมีบทบาทในการควบคุมส.ส. ให้มาโหวตกฎหมายสำคัญทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณหรือกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ผมต้องไปอยู่ในสภาฯ ต้องไปไล่ตามหัวหน้าพรรคต่างๆ และทำบัญชี ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพื่อให้ผู้แทนทั้งหลายได้อยู่ในสภาฯให้เรียบร้อย และมั่นใจว่าเราชนะโหวตก็ประคองอยู่พักนึง และตอนหลังมีเหตุการณ์หลายอย่าง 

บังเอิญวันนี้มีพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ในจังหวะที่มั่นใจว่า ได้เปรียบทางการเมือง แต่เป็นจังหวะที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เป็นไรวันนี้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเป็นปึกแผ่น แข็งแรงดี จากการที่ผมให้พบปะหัวหน้าพรรคทุกคน ทุกคนยืนยันว่า เราจะไปด้วยกัน และผมบอกกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ทีมนี้แหละ ที่เมื่อเลือกตั้งแล้วก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่ทิ้งกันขนาดนี้ก็ไม่ทิ้งกันตลอดไปจริงหรือไม่..."

วรรคทองข้างต้น ได้ความว่า งวดหน้าไม่มี ภูมิใจไทยในสมการการเมือง (หากเพื่อไทย เป็นเเกนนำตั้งรัฐบาล) เเละเเปลได้อีกว่า พรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ ก็มีโอกาสนั้นในยามหน้า!?!

เเต่ตัวเลข 141 สส. เพื่อไทย ขณะนี้  กับกระเเสนิยมที่พบว่าคะเเนนของครม.นายกฯหญิงคนทึ่สองสวนทางกับความเชื่อมั่นของทักษิณ ที่วางตนคล้ายเป็นประธานครม. คอยเเนะนำการทำงาน /โชว์ วิชั่นใหม่ๆ  เพื่อดึงกระเเสนิยมให้หวนคืนในหลากเวที คะเเนนเสียงที่จะลงให้พรรคสีเเดงเป็นเเกนนำตั้งรัฐบาลใหม่นั้น หลายคนมองว่ายากยิ่งกว่ายาก...

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ปัจจุบัน - อนาคต ทักษิณ.จึงเล่นใหญ่ /จัดเต็มในทุกบทบาท สทร. ล้วงทุกลูกยิ่งกว่าสมัย “มังกรเมืองสุพรรณ”บรรหาร ศิลปอาชา กุมบังเหียนสร.1เมื่อสามสิบกว่าปีที่เเล้ว

แต่มนต์ขลังของทักษิณ คล้ายไม่ศักดิ์สิทธิ์เเละเสื่อมลง เเม้การอ้างประสบการณ์การเมืองที่สะสมไว้ตั้งเเต่ติดตามครูการเมือง "ปรีดา พัฒนถาบุตร" อดีตรมต.สำนักนายกฯ ยุคครม.มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

แม้วันนี้ "ทักษิณ" จะงัดมาใช้ทุกวิธีเเล้วก็ตามในการปลุกเร้าความเชื่อมั่นจากสังคม เเต่ภาวะตอนนี้ของ สทร.เมื่อเทียบกับยุคไทยรักไทยฟีเวอร์  (2544- 49 ) /พลังประชาชน( 2551) / เพื่อไทยยุคยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (2554) เรียกได้ว่า ถดถอยเเบบน่าตกใจ

เพราะผลงานของครม.เพื่อไทยในรอบปี 2566 - วันนี้ไม่ตรงปกที่ประกาศไว้ บวกกับบ่วงกรรมของคนขั้วรัฐบาลที่ก่อตัวเเละใกล้เวลาวินิจฉัยยิ่งทำให้คะเเนนนิยมอยู่ในภาวะถดถอยอย่างรุนเเรง

หากไล่เส้นทางของสทร.-เเพทองธาร-คนในพท.-พรรคร่วมรัฐบาลนั้น ปฏิทินการเมืองขีดเส้นใต้ไว้ดังนี้

"ทักษิณ ชินวัตร" กับชะตากรรม

คดีสทร.ป่วยทิพย์ชั้น 14 รพ.ตำรวจ (ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง )

1) 30 กรกฎาคม  ปิดการไต่สวนคดี 

2) คาดว่าศาลฯ ตัดสินราวกลางเดือนสิงหาคม เป็นต้นไป

3) คดีมีผลโดยตรงต่อทักษิณ (อาจถูกบังคับกลับเข้าคุก 8 ปี หรือ 1 ปี )

4) มีผลกระทบต่อกลุ่มผู้ที่ให้ถ้อยคำในฐานะพยาน ซึ่งป.ป.ช.กำลังไต่สวน

คดีครอบงำพรรคการเมือง(กกต.)

-พรรคการเมืองที่ยอมรับการครอบงำจากทักษิณ (ไปร่วมตั้ง ครม. เเพทองธารที่บ้านจันทร์ส่องหล้าหลัง เศรษฐา ทวีสิน พ้นการปฏิบัติหน้าที่สร.1) มีความเสี่ยงที่จะถูก ขยายผลสู่การยุบพรรค

คดีมาตรา112 ป.อาญา(ศาลอาญา)

1) ศาลชั้นต้น นัดตัดสินวันที่ 22 สิงหาคม 

2) หากพบว่ามีความผิดจริง จะส่งผลกระทบต่อเนื่อง

3) คาดว่า"ทักษิณ" จะสู้คดี(หากเเพ้) ในชั้นอุทธรณ์และฎีกา ใช้เวลา 2–3 ปี 

“เเพทองธาร ชินวัตร” บ่วงกรรม คือ

คดีแพทองธารคลิปลับฮุนเซน(ศาลรัฐธรรมนูญ)

1) ศาลฯรับพิจารณาคดี และสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่(1 กรกฎาคม) เเละให้ชี้เเจงภายในสิบห้าวัน 

2) นายกฯขอขยายเวลาอีก 15 วัน (31 กรกฎาคม )

3) เมื่อรวมการไต่สวนเพิ่มเติมอื่นๆ คาดว่าคดีจะจบภายใน 31 สิงหาคม

4) หากพบว่านายกฯ มีความผิดจริง จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อแพทอง +รัฐบาลทั้งคณะ(นายกฯลาออก/ยุบสภา?)

5) ป.ป.ช.รับพิจารณากรณีนี้ไว้ไต่สวนเเล้ว

6) กกต. ต้องดำเนินการขยายผลไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทย (คาดว่าจะเกิดผล ราวปลายปี 2568)
 

คดีแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาท ขัดรธน.มาตรา144 ( ป.ป.ช./ศาลรัฐธรรมนูญ )

1) คาบเกี่ยวกับ 2 รัฐบาล ( เศรษฐา-แพทองธาร ) เเละรัฐสภา (สส.-สว.ที่เกี่ยวข้องในการให้ความเห็นชอบ)

2) คาดว่าต้นเดือน สิงหาคม ศาลฯจะพิจารณาคดี 

3) ถ้าพบว่าผิดจริง จะส่งผลต่อ ครม.ทั้ง 2 ชุดให้พ้นสภาพทันที

4) สส.-สว.ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เเละอาจมีผลกับรัฐสภา 

5) กระบวนการไต่สวนพยานหลายร้อยปากคาดว่าจะใช้ระยะเวลานาน

คดีสว.ร้องคณะกรรมการคดีพิเศษ /ภูมิธรรม เวชยชัย/พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สั่งดีเอสไอแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบของกกต.ในคดีฮั้วสว.(ปปช.-ศาลรัฐธรรมนูญ)

1) คำร้องของประธานวุฒิสภา ขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ

2) ศาลฯสั่งรมว.ยุติธรรมยุติการปฏิบัติหน้าที่กำกับดูเเลดีเอสไอจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย

3) ป.ป.ช.รับคำร้องของสว.ไว้ไต่สวนรมว.ยุติธรรม/อธิบดีดีเอสไอ

4) คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ชงดำเนินคดีสว. 138 คน และกลุ่มผู้บริหารและเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทยอีก 91 คนในคดึฮั้วสว.

เส้นทางชีวิตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ”(ศาลรัฐธรรมนูญ )

1) โดนข้อกล่าวหาว่าแทรกแซงกระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 และดึงงบประมาณเข้าพื้นที่ตนเอง (จ.เชียงราย) รวม 3 โครงการ

2)  ศาลฯ รับพิจารณาวันที่ 17 กรกฎาคมเเละนัดตัดสินวันที่ 1 สิงหาคม 

4)  คดีนี้มีผลกระทบเฉพาะตัว แต่จะกระเทือนกับคดีอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย

ภาวะพระศุกร์เข้า พระเสาร์เเทรก  สทร. จะขี่พายุทะลุฟ้าได้ดั่งใจปองหรือไม่..รอลุ้น