
อย่างที่ทราบกันดีว่า การประชุมสภาสมัยนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม จะมีระยะเวลา ถึงเดือน เมษายนจะปิดประชุมสภา ฉะนั้นเมื่อเข้าสู่เดือนก.พ.นี้เป็นต้นไปไล่เรียงดูปฏิทินจะมีเวลา เหลือเพียง 2-3 เดือนเท่านั้นในการทำงานของสภาสมัยนี้
จึงมีอะไรต่อมิอะไร ประดังประเดเข้ามาทับซ้อน ซ่อนเงื่อนอย่างเกี่ยวพันกันไปหมด
1.ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชน ภายใต้การนำของคุณเท้ง " ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" เคยออกมายืนยันผ่าน"เนชั่นทีวี"จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ "รัฐบาลแพทองธาร" ในการประชุมสภาสมัยนี้แน่นอน
ล่าสุด บรรดาแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดหมายดินเนอร์คืนนี้ ( 7 กุมภาพันธ์ 2568 ) ที่ "พรรคไทยสร้างไทย" ย่านดอนเมือง โดยมี "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์" ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นเจ้าภาพ ซึ่งวาระสำคัญ เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นก่อนลับมีดจับรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร ขึ้นเขียง อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล
ขณะที่ผู้นำจิตวิญญาณอย่าง "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการคณะก้าวหน้า บอกกับ "เนชั่นทีวี" เช่นเดียวกัน ให้จับตาดูบทบาทการเป็นผู้นำฝ่ายค้านของ"เท้ง ณัฐพงษ์" หัวหน้าพรรคประชาชน ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.และ ส.อบจ. ที่ผ่านมาอาจไม่ถูกอกถูกใจแฟนคลับสีส้ม ทำผลงานไม่เข้าเป้า แต่สำหรับเวทีซักฟอกจะเป็นตัวทำคะแนนตีตื้นฉายภาพภาวะผู้นำในสภาคืนมา
2.ในจังหวะที่ฝ่ายค้าน เตรียมยืนญัตติซักฟอกในช่วงเวลาดังกล่าว คาดการณ์ว่า ไม่เกิน กุมภาพันธ์-มีนาคม นี้ ดันประจวบเหมาะกับที่ "สาโรจน์ พึงรำพรรณ" เลขาธิการป.ป.ช. ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เกี่ยวกับ คดี 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ที่ลงนามเสนอแก้ไขกม.มาตรา 112 จะเห็นภาพการพิจารณาชัดเจนภายใน1-2 เดือนนี้ และคดีนี้จะจบภายในปีนี้แน่นอน
ย่อมเป็นอะไรที่ส่งผลสะเทือนต่อช่วงฝ่ายค้านเตรียมเปิด"ศึกซักฟอก" อยู่ไม่น้อย มิแปลกที่ "รังสิมันต์ โรม" สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันก่อน ด้วยข้อความมีนัยสำคัญ
"ยังไงก็ขอผมอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน. ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสต่อไปอีกหรือไม่ หากถูกตัดสิทธิ การเมืองตลอดชีวิต"
ประหนึ่ง "รังสิมันต์ โรม" จะรับรู้สัญญาณอะไรบางอย่าง ในช่วงสองสามเดือนจากนี้ อาจมีเรื่องขัดอกขัดใจทำลายสมาธิเตรียมข้อสอบซักฟอกรัฐบาล โดยเฉพาะมีรายงานจากวงใน ป.ป.ช. ด้วยว่า การพิจารณาคดี 44 สส. อาจไม่โดนชี้มูลยกเข่ง แต่จะมีผู้ถูกหวยนำเรื่องส่งศาลฯ อยู่ในราว 24 สส. ถึงแม้จะไม่ยกเข่ง ย่อมมีผลสะเทือนต่อโครงสร้างพรรคประชาชน เวอร์ชั่นสามอยู่ไม่น้อย
3.และความที่เกี่ยวพันจากข้อ 1 และข้อ 2 นั่นคือ สัญญาณจากอาวุธลับจันทร์ส่องหล้า "รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษา "พรรคกล้าธรรม" เปิดเผยกับ "เนชั่นทีวี"ว่า
"ตามธรรมเนียมหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะมีการปรับครม.โดยเฉพาะ รมต.ที่ถูกตรวจสอบอย่างหนัก ก็จะเป็นเป้าหมาย ในการปรับเปลี่ยน "
"รอ.ธรรมนัส" ยังกล่าวกับ "เนชั่นทีวี" ไปถึง การปรับเปลี่ยนรมต.ตามโควต้าของ "พรรคกล้าธรรม" ด้วยว่า อาจได้คัมแบ็ก กลับมาเป็นรมต.?
"ในเรื่องนี้ ผมก็คุยในพรรค ผมพยายามให้สส.เป็นรมต.ให้เยอะที่สุด ตามที่เรามีโอกาสและมีโควต้า ถามว่า ตัวเองจะเข้าไปนั่งรมต.ไหม หากมีความจำเป็น อาจจะต้องเข้าไปนั่ง แต่ถ้าผมมองว่า สส.ท่านใดในทุกวันนี้สามารถมาเป็นได้ผมสนับสนุน ปีนี้ผมอายุ 60 ปี คงเหลือเวลาชีวิตการเมือง ไม่นานเท่าไหร่แล้ว ผมมีลิมิตของตัวเอง เราจะไปถลำลึก 80 - 90 ปี ไม่ไหวแล้ว ฉะนั้นถามว่าจะกลับเข้าไปไหม เดี๋ยวดูก่อนว่า ในสส. 24 ท่าน ใครเหมาะสมสามารถทำงานแทนผมได้บ้าง" รอ.ธรรมนัส กล่าว
นอกจาก การเปิดเผยของ"ผู้กองธรรมนัส" ทีมข่าวเนชั่นทีวี ยังได้รับข้อมูลวงใน แถวๆรอบบ้านจันทร์ส่องหล้า รายงานให้ทราบด้วยว่า
"การปรับครม.ครั้งนี้ มีหลักพิจารณา 3 ประการ 1. เกลี่ยคนนอกที่ไม่ตรงกับงานหรือไม่ค่อยมีผลงานออก 2.คนที่ได้โอกาสเข้ามาจากการตอบแทนบุญคุณ คงหมดเวลาแล้ว เปิดทางให้คนในพรรครายอื่นบ้าง และ 3. ขอพรรคร่วมปรับเปลี่ยนสลับกระทรวงกันดูบ้าง"
รายงานจากวงใน แจ้งเพิ่มเติมว่า เบื้องต้น บุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สาเหตุที่ต้องปรับหลัง"อภิปรายไม่ไว้วางใจ" เพราะทราบมาว่า ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายกระทรวงเป้าหมายแบบหนักหน่วงชนิดทำให้เสียรังวัดได้ ซึ่งเป็นกระทรวงอยู่ในความดูแลของพรรคการเมืองอื่น คนบ้านใหญ่เพื่อไทย จึงใช้โอกาสนี้ เจรจาขอแลกกระทรวง )
หากถอดรหัสการให้สัมภาษณ์ของนายใหญ่จันทร์ส่องหล้า "ทักษิณ ชินวัตร" ต่อกระแสข่าวเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี แม้เจ้าตัวยังปฏิเสธ ไม่มีอะไรในตอนนี้ ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เพราะการตัดสินใจปรับครม.จะเกิดขึ้นหลังอภิปรายไม่วางใจอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น แต่กับคำชี้แจงของทักษิณก็ยังมีเนื้อหาบ่งบอกและส่งสัญญาณ
"บางเรื่องเราต้องการการตัดสินใจที่เด็ดขาด และฉับไว แต่บางครั้งจะเจอนักรำวงบ้าง ยอมรับว่า ก็ไม่ชอบและพยายามบอกว่าอย่ารำวงมาก เพราะในการบริหารเป็นนักรำวง มันเป็นนักบริหารที่ดีไม่ได้ แต่ผมไม่ได้ ให้คำแนะนำอะไรเพราะเป็นอำนาจ หน้าที่ และสปิริตของนายกรัฐมนตรี ผมมีหน้าที่ให้คำปรึกษาถ้าต้องการอาจจะปรึกษาได้"
"ทักษิณ ชินวัตร" ตอบคำถามสื่อที่ว่า สำหรับตัวนายทักษิณเห็นว่า ควรจะเปลี่ยนรมต.หรือไม่ เป็นการให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมเป็นสักขีพยานการจดทะเบียนสมรส ระหว่าง "จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับ "นายสุไพรพล ช่วยชู" หรือ ป๊อป เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568
คราวนี้ เรามาเปิดโผบุคคลเป้าหมายที่จะถูกปรับคณะรัฐมนตรีในเบื้องต้น ดังนี้
● พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
กระทรวงยุติธรรม
● พ.ต.อ.เอก ทวี สอดส่อง
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
● วราวุธ ศิลปอาชา
รมว.ต่างประเทศ
● มาริษ เสงี่ยมพงษ์
>> ส่อหลุด
● ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
>> รมว.เกษตรและสหกรณ์
● นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
>> รมช. คลัง /พาณิชย์
● พิชัย นริพทะพันธุ์
>> ส่อหลุด
>> รมว.พาณิชย์
?
● สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
>> พลังงาน
หมายเหตุ เป็นบัญชีรายชื่อคร่าวๆที่อยู่ในกลุ่มจับตา เตรียมขยับขยายปรับเปลี่ยนกระทรวง ซึ่งอาจมีคำถามเหมือนกันว่า แล้ว กระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจหล่ะเป็นอย่างไร ก็มีการวางหมากไว้เหมือนกันว่าจะโยกย้ายไปนั่งกระทรวงสาธารณสุข กลับมาเป็น"หมอหนู"อีกครั้ง แต่โจทย์นี้กำลังเป็นโจทย์ใหญ่ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ทั้งหมดทั้งปวง คือ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ ชนิดต้องจับตาอย่ากระพริบ