
การเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. หรือสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ที่จะหย่อนบัตรเลือกตั้งกันในอีก 8 วันข้างหน้านี้ คือ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 มีทั้งสิ้น 47 จังหวัด เดิมพันของการเลือกตั้งหนนี้ คือ จะเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า “ระบอบบ้านใหญ่” ยังแข็งแกร่ง และจะยังอยู่ยงคงกระพันแค่ไหน เหลือกี่บ้าน หรือการเมืองแบบใหม่จะยังต้องพ่ายแพ้ต่อไป จากการประเมินแนวรบนายก อบจ.ทุกภาค พบว่า
บ้านใหญ่ในสีเสื้อเพื่อไทย มีโอกาสคว้าชัยถึง 13 จังหวัด จากตัวเลขที่ส่งในนามพรรค 14 จังหวัด และผู้สมัครลงสมัครในนามสมาชิกพรรค แต่พรรคไม่ได้ประกาศส่งชัดเจนอีก 2 จังหวัด รวมเป็น 16 จังหวัด
ตัวเลขคาดการณ์นี้ ต่ำกว่าที่ “นายใหญ่ทักษิณ” ผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครพรรคเพื่อไทย บอกกับคนใกล้ชิดเอาไว้เล็กน้อย โดยคุณทักษิณคาดการณ์ว่า จะชนะทั้งหมด 14 จังหวัด แต่เวลาประกาศบนเวทีจะประกาศว่า มั่นใจชนะหมด
ส่วนบ้านใหญ่เครือข่ายสีน้ำเงิน จะได้รับชัยชนะ 7 จังหวัด แม้พรรคภูมิใจไทยจะไม่เปิดตัวส่งผู้สมัครคนใดอย่างเป็นทางการ แต่จังหวัดเหล่านี้เป็นที่รู้กันว่า เป็นเครือข่ายของภูมิใจไทย และตัวเลขนี้ไม่ใช่น้อยๆ เนื่องจากกลุ่มที่เลือกไปก่อน 29 จังหวัด เครือข่ายสีน้ำเงินคว้าชัยไปมากที่สุด ราวๆ 10 จังหวัด
นอกจากนั้น ยังพบว่า มีนักการเมืองท้องถิ่น “บ้านใหญ่” ที่ไม่สวมเสื้อแดงหรือเสื้อน้ำเงิน อีก 27 จังหวัด ที่มีโอกาสชนะ 100% จะเห็นได้ว่า ตัวเลขชัยชนะของ 3 กลุ่มนี้ คือครบแล้ว 47 จังหวัด
จึงทำให้พรรคประชาชนที่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 17 จังหวัด มีแนวโน้มจะไม่ได้รับเลือกแม้แต่จังหวัดเดียว ตามที่เราเล่าให้ฟังมาอย่างต่อเนื่อง 3 วัน ภายใต้รหัสลับ “สกัดส้ม…ไม่ให้สมหวัง” ที่ผ่านมาเราวิเคราะห์สนามเลือกตั้งที่กำลังเป็น “ศึกช้างชนช้าง” ทั้งแดงชนน้ำเงิน น้ำเงินชนส้ม ส้มชนแดง ตามสูตรการเมืองแบบ “สามก๊ก”
แต่ที่ยังไม่ได้กล่าวถึงเลยก็คือ “บ้านใหญ่ไร้สีเสื้อ” ซึ่งเป็น “บ้านใหญ่ดาวฤกษ์” ชนะได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพรรคใหญ่ แม้จะเป็นพันธมิตรกัน แต่ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อพรรคลงสมัครก็ชนะได้สบายๆ บ้านใหญ่กลุ่มนี้มี 27 จังหวัด และมีแนวโน้มกวาดนายก อบจ.แบบ 100% เพราะ
ตรวจแถว 27 บ้านใหญ่ไร้สีเสื้อ มีดังนี้
1. นครปฐม : “นายกหนึ่ง” จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ อดีตนายก อบจ.นครปฐม “กลุ่มชาวบ้าน” ปรับภาพลักษณ์ใหม่ เป็นบ้านใหญ่เจนฯใหม่ บารมีไม่แพ้รุ่นพ่อ คือ คุณไชยา สะสมทรัพย์ จังหวัดนี้ส้มก็ไม่แข่ง แดงก็หลบ
2. ฉะเชิงเทรา : “นายกก้อย” กลยุทธ ฉายแสง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา “ทีมรวมใจพัฒนา” นัยของชื่อทีม คือ 8 ตระกูลบ้านใหญ่รวมตัวกันทั้งจังหวัด นั่นก็คือ ฉายแสง, ตันเจริญ, อัศวชัยโสภณ, จารุสมบัติ, เป้าเปี่ยมทรัพย์ ,ศิริลัทธยากร และนพเกตุ / เจอแบบนี้ สีส้มหมดสิทธิ์แทรก
3. ชลบุรี : “นายกป๊อก” วิทยา คุณปลื้ม อดีตนายก อบจ.ชลบุรี 4 สมัย “กลุ่มเรารักชลบุรี” ฉายเดี่ยว เพราะ “บ้านใหม่” ที่นำโดย “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ส่งคนลงแข่ง คู่แข่งจึงมีเพียงพรรคส้ม แต่ก็น่าจะยังไม่แรงพอสำหรับสนามระดับ อบจ.
4. ระยอง : ปิยะ ปิตุเตชะ อดีตนายก อบจ.ระยอง 4 สมัย “ทีมรวมพลคนพลังช้าง” มีฐานเครือข่าย สจ.แน่นกว่าพรรคสีส้มชัดเจน โอกาสนั่งเก้าอี้ต่ออีก 1 สมัยจึงมีสูงมาก
5. จันทบุรี : “นายกโจ้” ธนภณ กิจกาญจน์ อดีตนายก อบจ.จันทบุรี 5 สมัย ลูกชายกำนันฤทธี กิจกาญจน์ บ้านใหญ่ อ.ท่าใหม่ มีหลายพรรคการเมืองสนับสนุน ขณะที่บางฝ่ายยังเชื่อว่าผู้สมัครพรรคส้มมีลุ้น จึงต้องรอดูวันที่ 1 กุมภาพันธ์
6. ตราด : คุณวิเชียร ทรัพย์เจริญ อดีตนายก อบจ.ตราด 6 สมัย “กลุ่มลูกเมืองตราด” ยังเก๋าและแกร่งกว่า คุณชลธี นุ่มหนู จากพรรคประชาชน แม้สนามเลือกตั้ง สส. พรรคประชาชนในนามก้าวไกลจะชนะ แต่สนาม อบจ.ผลน่าจะแตกต่างกัน
7. สมุทรสาคร : “ปลัดแต” อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร “ทีมฅนทำงาน” ลูกชาย “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร น่าจะคว้าชัยได้ไม่ยาก
8. สมุทรสงคราม : “สจ.กอล์ฟ” เจษฎา ญาณประภาศิริ อดีตประธานสภา อบจ.สมุทรสาคร รวบรวม สจ.เก่าไว้ได้ 16 คน แถมมี “เจ๊โอ๋” รังสิมา รอดรัศมี อดีต สส.แม่กลอง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งย้ายไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ ให้การสนับสนุน จึงไม่น่ามีความผิดพลาดใดๆ ส่วน “เก่ง” นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ตัวเต็งจากพรรคประชาชน น่าจะผิดหวังซ้ำรอยพี่ชายในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.แม่กลองสมัยที่แล้ว
9. สมุทรปราการ : คุณสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ช่วงปลายรัฐบาลลุงตู่ ในฐานะ “บ้านใหญ่บางโฉลง” ตัวแทนเจ้าพ่อปากน้ำ-วัฒนา อัศวเหม จัดทัพใหม่ ไร้คนในตระกูลม้าทองคำลงสนาม ใช้หัวคะแนนจัดตั้งที่ยังเหนือกว่าพรรคสีส้ม ซึ่งแม้จะคว้าชัยในการเลือกตั้ง สส.ทั้งจังหวัด แต่เมื่อใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งเพียงเขตเดียว คะแนนรวมยังน่าจะพ่ายแพ้บ้านใหญ่
10. สุพรรณบุรี : อุดม โปร่งฟ้า ใจถึงพึ่งได้ของแท้ ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา มีทรัพยากรมากกว่า จะเฉือนชนะแชมป์เก่า-บุญชู จันทร์สุวรรณ ไปได้ แม้จะมี “คนเพื่อไทย” นำโดย คุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ไปหาเสียงช่วยอย่างดุเดือด เพราะหลุดวาทกรรม “อีแอบ” แต่ก็ไม่น่าจะพลิกชนะบ้านใหญ่ศิลปอาชาที่เป็น “ของแทร่” ไปได้
11. สิงห์บุรี : คุณศุภวัฒน์ เทียนถาวร อดีตนายก อบจ.สิงห์บุรี และแนวร่วมบ้านใหญ่ร้านทองแม่กิมลี้ ตระกูล “ธนาคมานุสรณ์” ลงสนามแบบไร้คู่แข่ง
12. สระบุรี : “นายกจ้อน” สัญญา บุญ-หลง อดีตนายก อบจ.สระบุรี มีแต้มต่อคือ 2 สส.สระบุรีสนับสนุน ได้แก่ อรรถพล วงษ์ประยูร จากเพื่อไทย และองอาจ วงษ์ประยูร จากพลังประชารัฐ ปัจจุบันเปลี่ยนเสื้อเป็น “กล้าธรรม”
13. นครนายก : “สจ.ปาล์ม” นิดา ขนายงาม อดีตรองประธานสภา อบจ.นครนายก สายตรง “นายก จ้อน” สัญญา บุญ-หลง จากสระบุรี มีทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย เดินเกมหาคะแนนให้เต็มที่ จึงน่าจะพลิกชนะ “นายกจิม” จักรพันธ์ จินตนาพากานนท์ อดีตนายก อบจ.นครนายก ไปได้ ที่นครนายกมีเสียงลือกันว่า ชาวบ้านวิจารณ์ว่า “นายกจิม” โชคร้ายที่เลือกสวมเสื้อสีส้ม จึงไม่ได้ไปต่อ เพราะมีรหัสลับ “สกัดส้ม…ไม่ให้สมหวัง”
14. นนทบุรี : พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ.นนทบุรี 4 สมัย “กลุ่มผึ้งหลวง” แม้เจ้าตัวจะไม่ใช่บ้านใหญ่ แต่คุยกับบ้านใหญ่ได้ทุกสีทุกขั้ว มีความเป็นเอกภาพกว่าพรรคสีส้มเมืองนนท์ แม้จะกวาด สส.ได้ยกจังหวัดก็ตาม แต่กติกาการเลือกตั้งแบบ “จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง” ผลจึงน่าจะออกมาไม่ต่างจากสมุทรปราการ
15. ประจวบคีรีขันธ์ : “นายกไล้” สราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ อดีตนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่ชาย “นายกเกียร์” ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ อดีตนายก อบจ.ประจวบฯ สังกัด “ทีมต่อพิฆาต” น่าจะสอบผ่านได้แบบไร้ปัญหา
“ต่อพิฆาต” คือฉายาของทีมฟุตบอล ประจวบฯ เอฟซี ซึ่งริเริ่มโดย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และบ้านใหญ่เมืองสามอ่าว ประจวบคีรีขันธ์ งานนี้เชื่อว่า “เสี่ยต่อ” ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมเสียหน้า เพราะขนาดเลือกตั้ง สส.เจอกระแสแรงทั้งแดงทั้งส้ม ก็ยังเอาตัวรอด กวาดมาได้ 2 จาก 3 เก้าอี้
16. ตรัง : “โกเล้ง” บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชาย “โกหนอ” สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง ที่ดูแล สส.ตรังทั้ง 4 คน ไมว่าจะเป็นค่ายประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ ในฐานะ ”คนกันเอง” จึงไม่น่ามีอะไรพลิกผัน รักษาเก้าอี้เอาไว้ได้
17. สุราษฏร์ธานี : “ป้าโส” โสภา กาญจนะ บ้านใหญ่เวียงสระ ภรรยา คุณชุมพล กาญจนะ อดีต สส.สุราษฎร์ 7 สมัย / งานนี้ได้ 5 สส.รวมไทยสร้างชาติ และอีก 1 สส.ภูมิใจไทย เป็นกองหนุน มีโอกาสคว้าชัยเหนือ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว แชมป์เก่า และ “หมอมุดสัง” นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ จากพรรคประชาชน
ศึก อบจ.หนนี้ / แม้ “กำนันศักดิ์” จะยังมีแต้มต่อ เพราะเคยคว่ำ คุณชุมพล กาญจนะ สามี “ป้าโส” เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 7 หมื่นคะแนน แต่การเลือกตั้งปี 68 สถานการณ์เปลี่ยน เนื่องจาก “ป้าโส” ใช้เครือข่าย สส.ต่างพรรคมาร่วมสนับสนุน จึงคาดว่าจะคว่ำ “กำนันศักดิ์” ได้สำเร็จ ประกอบกับ “แชมป์เก่า” อย่าง “กำนันศักดิ์” ก็มีปัญหาการเมืองระดับชาติกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่เคยร่วมงานอยู่ด้วย
18. พัทลุง : “นายก พร” วิสุทธิ์ ธรรมเพชร อดีตนายก อบจ.พัทลุง 2 สมัย “กลุ่มพลังพัทลุง” ยังแกร่งกว่า สาโรจน์ สามารถ “กลุ่มรักพัทลุง” สายตรง “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ และน่าจะคว้าชัยไปได้
19. สงขลา : คุณสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร “ทีมสงขลาพลังใหม่” มีบ้านใหญ่บุญญามณี และ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ให้การสนับสนุน น่าจะสอบผ่านได้ไม่ยาก ขณะที่คู่แข่งอย่าง “นายกแบน” ประสงค์ บริรักษ์ สายตรง “โกเกี้ยะ” อีกคน / และ คุณนิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน น่าจะตัดคะแนนกันเอง
20. พังงา : “โก้หลี่” บำรุง ปิยนามวาณิช อดีตนายก อบจ.พังงา 3 สมัย ที่มี คุณฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา ค่ายลุงป้อม บ้านป่ารอยต่อ เป็นกองเชียร์ น่าจะฝ่าด่านเป็นนายก อบจ.สมัยที่ 4 ได้ไม่ยาก เพราะ “นายกคม” ธราธิป ทองเจิม อดีตนายก อบจ.พังงา “กลุ่มร่วมสร้างพังงา” ไม่ได้รับการต่อตั๋วจากค่ายสีน้ำเงินเรียบร้อยแล้ว
21. ภูเก็ต : เรวัต อารีรอบ อดีตนายก อบจ.ภูเก็ต “กลุ่มภูเก็ตหยัดได้” ยังมีฐานเสียงเหนียวแน่นกว่า นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล จากพรรคสีส้ม จึงน่าจะรักษาเก้าอี้เดิมได้สำเร็จ ส่วนผลการเลือกตั้ง สส.ส้มแบบยกจังหวัด ยังถือเป็นคนละสนามกับ อบจ.
22. ปัตตานี : นายก เศรษฐ์ อัลยุฟรี อดีตนายก อบจ.ปัตตานี 3 สมัย ยังไปต่อได้ เพราะคู่แข่งไม่ใช่สายแข็ง
23. ยะลา : คุณมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ.ยะลา 5 สมัย น้องชาย “ประธานวันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา บ้านใหญ่ศรียะลา ยังแกร่งทั้งจังหวัด เพราะในศึกเลือกตั้ง สส. ก็พาพรรคประชาชาติสร้างประวัติศาสตร์ชนะยกจังหวัดมาแล้ว
24. นราธิวาส : กูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ.นราธิวาส 5 สมัย พรรคประชาชาติ ยังคงแกร่งเกินกว่า “แบเลาะห์” อับดุลลักษณ์ สะอิ พี่ชาย คุณซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ที่พยายามจะหักโค่น แต่ก็ต้องรอดู “ปฏิบัติการรุมกินโต๊ะ” ที่จับมือกันระหว่างภูมิใจไทยกับกล้าธรรม ว่าจะประสบผลสำเร็จแค่ไหน
25. หนองบัวลำภู : “ดร.บุ๋ม” วุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ อดีตนายก อบจ.หนองบัวลำภู “กลุ่มเพื่อฅนหนองบัว” ใช้นโยบาย “ไม่มีพรรคมีแต่พวก” จึงน่าจะลอยลำเข้าป้าย
26. มุกดาหาร : วีระพงษ์ ทองผา พี่ชายของ คุณวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร ค่ายพลังประชารัฐ ในนาม “บ้านใหญ่ทองผา” มีเครือข่ายกว้างขวางกว่า และได้ทีมงานพรรคกล้าธรรมหนุนช่วย จึงน่าจะเอาชนะได้สำเร็จ แม้พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครระดับอดีต สส. อย่าง คุณบุญฐิน ประทุมลี ก็ตาม ทีมงานของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร คงประเมินแล้วว่าค่ายสีแดงคงสู้ไม่ได้ จึงไม่ไปช่วยหาเสียงให้เสียรังวัด
27. แม่ฮ่องสอน : คุณอัครเดช วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.แม่ฮ่องสอน 3 สมัย และลูกชาย “เสี่ยโป้ย” สมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ ยังไร้คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อ
เมื่อบ้านใหญ่อิสระ 27 จังหวัด ผนึกรวมกับบ้านใหญ่สีแดง 13 จังหวัด และบ้านใหญ่สีน้ำเงิน 7 จังหวัด รวมเป็น 47 จังหวัด ที่จะตกอยู่ในระบอบบ้านใหญ่ต่อไปอีก 4 ปี งานนี้จึงไม่มีที่ยืนให้กับ “นายก อบจ.พรรคส้ม” ต่ออีก 1 สมัย