svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เลือกตั้ง อบจ.68

ศึก อบจ.ศรีสะเกษ “นายใหญ่” อัพเกรด “ไล่หนูตีงูเห่า ภาค2”

ถอดรหัสการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ศรีสะเกษ “นายใหญ่” พกความแค้นไปเต็มกระเป๋า ขึ้นปราศรัย 2 วัน 4 เวที ไล่ขยี้ “ค่ายสีน้ำเงิน” พร้อมย้อนตำนาน “ไล่หนูตีงูเห่า” โดยหยิบมาพูดบนเวทีบางช่วงบางตอนด้วย

26 มกราคม 2568 “คราวที่แล้วเขามาทำพิธีไล่หนูตีงูเห่า ก็ตีเกือบหมดจังหวัด..”  “ผู้สมัครคนนี้ (นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย) อยู่พรรคไทยรักไทยกับผมมาตั้งแต่สมัยตั้งพรรค ไม่เคยไปไหนเลย บางคนเบี้ยวแล้วเบี้ยวอีก ตลบตะแลงหลบซ้ายหลบขวา อยากจะกระทืบมัน..”

 

ศึก อบจ.ศรีสะเกษ “นายใหญ่” อัพเกรด “ไล่หนูตีงูเห่า ภาค2”

 

 

จังหวัดนี้เคยมีตำนานความแค้น ตั้งแต่สมัยเลือกตั้ง สส.ปี 66 โดยที่พรรคเพื่อไทยเปิดยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” เป็นแคมเปญทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยใช้เฉพาะที่ศรีสะเกษเป็นหลัก” 

สาเหตุเป็นเพราะ สส.ศรีสะเกษของพรรคเพื่อไทย 3 คน โหวตสวนมติพรรคหลายครั้ง จนถูกขนานนามว่าเป็น “งูเห่า” และมีข่าวลือว่า สส. ทั้ง 3 คนจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งสำคัญของเพื่อไทยในอีสาน 

 

 

“หนู” เป็นชื่อเล่นของ “เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่วน “งูเห่า” ก็เป็นคำเรียกขาน สส.ที่โหวตสวนมติพรรค ทำให้เป็นที่มาของแคมเปญ “ไล่หนู ตีงูเห่า” 

 

 

ศึก อบจ.ศรีสะเกษ “นายใหญ่” อัพเกรด “ไล่หนูตีงูเห่า ภาค2”

 

 

 

 

 

บรรดา สส.งูเห่าที่โหวตสวนมติพรรคหลายครั้ง มี สส. ศรีสะเกษ 3 คนร่วมอยู่ด้วยแทบทุกครั้ง คือ คุณจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ / คุณธีระ ไตรสรณกุล และ คุณผ่องศรี แซ่จึง ซึ่งสุดท้ายทั้งหมดก็ย้ายค่าย เปลี่ยนโปร จาก “สีแดง” ไปอยู่กับ “สีน้ำเงิน” 

 

ผลจากยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” ทำให้ สส.ศรีสะเกษ ที่เคยสังกัดพรรคเพื่อไทย และย้ายซบภูมิใจไทย ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง รวมถึง สส.เก่าที่พรรคภูมิใจไทยเคยได้ในเขต 1 อย่าง คุณสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ด้วย / โดยพรรคเพื่อไทยกวาดเก้าอี้ สส.ไปถึง 7 จาก 9 ที่นั่งของศรีสะเกษ / ส่วนอีก 2 เขต แม้จะเป็นของภูมิใจไทย แต่ไม่ใช่ “สส.งูเห่า” และสาเหตุที่ชนะเลือกตั้ง ก็มาจากพลังส่วนตัวเป็นหลัก 

 

สรุปความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ในวันนี้ แบรนด์ภูมิใจไทย หรือแบรนด์ครูใหญ่ ยังติดลบในสายตาคนศรีสะเกษที่มีภาพจำในอดีตว่าเป็น “คนทรยศนายใหญ่”

 

 

 

ที่สำคัญ นับแต่การเลือกตั้งปี 2544 เป็นต้นมา กระแสความนิยมคุณทักษิณ ได้เข้ามาแทนที่การเลือกตัวบุคคล หรือบ้านใหญ่ในอดีตของศรีสะเกษจนหมดสิ้น 

 

 

ปี 2548 พรรคไทยรักไทย กวาด สส.ศรีสะเกษ ได้ 8 ที่นั่ง จากทั้งหมด 9 ที่นั่ง 

 

 

ปี 2550 พรรคพลังประชาชน ได้ 7 ที่นั่ง จากทั้งหมด 9 ที่นั่ง แม้เพิ่งโดนปฏิวัติมาหมาดๆ 

 

 

ปี 2554 “ยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์” แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ และกวาด สส.ศรีสะเกษ 7 ที่นั่งจาก 8 ที่นั่ง ปีนั้นพรรคภูมิใจไทยลงสนามครั้งแรก ได้มา 1 ที่นั่ง 

 

 

กระทั่งปี 2562 ภูมิใจไทยขยับมาได้ 2 ที่นั่งจาก 9 ที่นั่ง ทำให้เลือกตั้งปี 66 เปิดยุทธการ “ดูด สส.เพื่อไทย” ทำให้มี สส.แปรพักตร์หลายคน และกลายสภาพเป็น “สส.งูเห่า” แต่สุดท้ายก็พ่าย “ยุทธการไล่หนูตีงูเห่า ภาคแรก” ของเพื่อไทย ภายใต้การกำกับการแสดงของ “นายใหญ่” ซึ่งข่าวว่าสะใจอย่างมากเมื่อเห็นผลการเลือกตั้ง 

 

 

ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.หนนี้ จึงเป็น ยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่าภาค 2” ที่อดีตนายกฯทักษิณลงพื้นที่เอง และปราศรัยอ้อนคนศรีสะเกษให้เลือก “วิวัฒน์ชัย” เป็นนายก อบจ.ศรีสะเกษ เอาชนะ วิชิต ไตรสรณกุล หรือ “นายก ส้มเกลี้ยง” อดีตนายก อบจ.แชมป์เก่า ให้ได้ / และปี 2570 ขอให้เลือกผู้สมัคร สส.เพื่อไทยแบบยกจังหวัดด้วย