
นายอับดุลลักษณ์ สะอิ (แบเลาะห์) ผู้สมัครนายกอบจ.นราธิวาส เปิดปราศรัยและการแสดงวิสัยทัศน์การสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นราธิวาส โดยระบุว่า นราธิวาส จะต้องเปลี่ยน เพราะจากการพบปะกับชาวบ้าน มีการตอบรับว่า จะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน เมื่อตนได้เข้ามาทำหน้าที่ พร้อมเสนอ 5 นโยบาย ได้แก่ 1.ร่วมพัฒนาแผนพัฒนาจังหวัด 2.ทำเวทีประชาคมของทุกอำเภอ เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งการเปิดเวทีประชาคท จะทำให้รู้ว่า มีปัญหาใดเกิดขึ้นในพื้นที่บ้างถึงจะสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด 3. อบจ.จะนำกีฬามาแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับเยาวชน 4.จะนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากทุกอำเภอ ทุกพื้นที่นำมาพัฒนาร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การออกไปยังตลาดในประเทศ และนอกประเทศ 5.จะจัดตั้งหน่วยกู้ภัย-กู้ชีพเพื่อให้ทันต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั่วพื้นที่นราธิวาส ทำให้เราสามารถดูแลประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์
ทั้งนี้ การเปิดเวทีปราศรัยของนายอับดุลลักษณ์ ยังมี สส.จากหลายเขต และต่างพรรคการเมือง มาร่วมขึ้นเวที เพื่อขอคะแนนให้ นายอับดุลลักษณ์ ทั้งนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม, นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม รวมถึงนายซาการียา สะอิ สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะน้องชายนายอับดุลลักษณ์ นอกจากนั้น ยังมีอดีต สส. ทั้งนายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาสหลายสมัย และเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อาทิ นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาสร่วมด้วย
ด้าน นายอามินทร์ ได้ขอบคุณชาวนราธิวาส ที่มาร่วมฟังปราศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 8,000 คน และตนก็มั่นใจว่า การปราศรัยที่อำเภอโกลก อย่างน้อยต้องถึง 10,000 คน และในวันที่ 30 ซึ่ง เป็นวันสุดท้ายที่อำเภอเมือง อย่างน้อยต้อง 20,000 คน
"พ่อแม่พี่น้องครับ กว่า 25 ปี ยุคผู้นำคนเก่า ไม่ค่อยได้ทำอะไร เมื่อตนเข้ามาเป็น สส.จึงเป็นโอกาสให้ตนได้พัฒนาในพื้นที่ ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา เราเห็นอะไรในการเปลี่ยนแปลงบ้าง มีอะไรที่พัฒนาขึ้นบ้าง วันนี้ เรามี 3 สส.สามารถประสานได้หลายกระทรวง การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ครั้งนี้เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน เราจะให้ความสำคัญกับเยาวชนบ้าง เราจะผลัดดันสภาเด็กแล้วเยาวชนที่รือเสาะ เพื่อพัฒนาเยาวชนของเรา ที่ถือว่าเป็นเสาหลักของประเทศชาติ เราจะสนับสนุนกีฬาให้กับลูกหลานของเราให้เทียบเท่ากับจังหวัดอื่น ๆ" นายอามินทร์ กล่าว
ด้านนายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ระบุว่า 25 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเจอการปราศรัยในเวที อบจ. แต่ครั้งนี้คือประวัติศาสตร์ เพราะที่ผ่านมาแทบจะลืมคำว่า นายก อบจ.ไปแล้ว แต่รอบนี้เป็นความหวังของชาวนราฯ ทุกคน เพราะได้รวมตัวกันให้เป็นหนึ่ง และเมื่อไม่นานมานี้ เกิดน้ำท่วมหายนะครั้งใหญ่ เป็นประวัติการณ์ ได้เห็นพี่น้องของหลั่งน้ำตา บางคนไม่มีบ้าน บางคนนั่งอยู่บนหลังคา ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้น การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ ถ้าเราเปลี่ยนแสดงว่า เราได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของนราธิวาสแล้ว ตนฝากว่า การทำงานรอบนี้ไม่ใช่การทำงานแค่คนเดียว เราจะทำงานกันทั้งทีม และขอให้ทุกคนมาร่วมพลิกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน
ด้าน นายซาการียา ระบุว่า แม้ตนกับนายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ จะสังกัดคนละพรรคการเมือง แต่พวกเราคือ พรรคพวกกัน หากเราร่วมกันเดินหน้าพัฒนาจังหวัดนราธิวาสบ้านเรา ตนเชื่อว่านราธิวาส จะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน โดยเฉพสะด้านการศึกษา รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนา หรือ ตาดีกา ที่บางแห่งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งตนเชื่อว่า ทุกคนอยากให้ลูกหลานประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานทำดี ๆ แต่วันนี้ เราขาดโอกาสเราไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก อบจ.ที่จะให้มีติวเตอร์ดี ๆ มาสอนให้เยาวชนของเรา
"ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้ดีว่า นายอับดุลลักษณ์ จะมาทำอะไรให้กับทุกท่าน วันนี้การเปลี่ยนแปลงของอำเภอรือเสาะ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดนราธิวาส เพราะทุกท่านทราบกันดีว่า ที่ผ่านมา 25 ปีที่ เราได้อะไรจาก อบจ.บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา แต่วันนี้เราจะการสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นโรงเรียนสอนศาสนาให้กับทุกพื้นที่ เพราะปัจจุบันเรามีอยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น" นายซาการียา กล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค.) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย จะไปช่วยหาเสียงที่เวทีสุไหงโก-ลก เวทีใหญ่สวนมิ่งขวัญประชา ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไปด้วย