svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สื่อต่างชาติมอง "ยุบสภาไทย" คือความล้มเหลวทางการเมืองซ้ำซาก

สื่อต่างชาติรายงานข่าวการประกาศ "ยุบสภา" ในประเทศไทย พร้อมวิเคราะห์ว่า การยุบสภาครั้งนี้เป็นสัญญาณความไม่แน่นอนของการเมืองไทย หลังรัฐบาลอนุทินแตกหักกับฝ่ายค้าน ปัญหาซ้ำเติม วิกฤตเศรษฐกิจ และเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดชายแดน

KEY

POINTS

  • สื่อต่างชาติมองว่าการยุบสภาเป็นผลจากความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในการสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล
  • การตัดสินใจยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อ่อนไหวทางเศรษฐกิจ ถูกมองว่าจะซ้ำเติมวิกฤตหนี้ครัวเรือนและทำให้การฟื้นตัวหลังโควิด-19 ล่าช้า
  • การประกาศยุบสภาท่ามกลางการปะทะรุนแรงกับกัมพูชา สร้างความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากรัฐบาลรักษาการขาดเสถียรภาพในการเจรจาทางการทูต
  • สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของวงจรความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งขัดขวางการแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศ ยุบสภา และมีพระราชกฤษฎีกาในราชกิจจานุเบกษา ทำให้เกิดการเลือกตั้งล่วงหน้าภายใน 45-60 วัน โดยสื่อต่างชาติมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึง ความล้มเหลวของระบบการเมืองไทยในการสร้างเสถียรภาพ

ชนวนเหตุ: จุดแตกหักของรัฐบาลเสียงข้างน้อย

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายกฯ อนุทินประกาศ "คืนอำนาจให้ประชาชน" หลังจากเกิดความขัดแย้งกับพรรคประชาชน (พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด) ซึ่งเคยสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของอนุทิน แต่ได้ถอนตัวเพราะไม่ได้รับการรับประกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ด้าน เดอะ การ์เดียน และ รอยเตอร์ วิเคราะห์ว่าการแตกหักครั้งนี้เกิดจากข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้รับการตอบสนอง โดย เดอะ การ์เดียน มองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของวงจร ความไม่แน่นอนทางการเมืองไทย ที่ยืดเยื้อมานาน ทำให้รัฐบาลเปลี่ยนนายกฯ ถึง 3 คนในระยะเวลา 2 ปี

ความเสี่ยง 2 ด้าน: เศรษฐกิจและชายแดน

สื่อต่างประเทศเห็นพ้องกันว่า การยุบสภาครั้งนี้เกิดขึ้นใน "ช่วงเวลาที่อันตราย" ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic Crisis)

สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า นายกฯ อนุทินต้องเร่งยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจจากพรรคประชาชน การมีรัฐบาลรักษาการที่จำกัดอำนาจอนุมัติงบประมาณใหม่ อาจทำให้ตลาดการเงินเกิดความไม่มั่นคง

ส่วน รอยเตอร์ และ เดอะ การ์เดียน ระบุว่า ความไม่แน่นอนนี้ยิ่งซ้ำเติม วิกฤตเศรษฐกิจ ของไทย ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง การบริโภคอ่อนแอ และผลกระทบจากภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ การที่รัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจเต็มที่อาจทำให้การฟื้นตัวหลังโควิดต้องล่าช้าออกไป

2. ความตึงเครียดชายแดน (Regional Instability)

สำนักข่าว เอพี และ รอยเตอร์ เน้นย้ำว่า การยุบสภาถูกประกาศในวันที่ 4 ของการปะทะรบที่รุนแรงกับกัมพูชา ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิต 20-24 ราย และผู้ลี้ภัยนับแสนคนจากทั้งสองฝ่าย

เอพี วิเคราะห์ว่า ความตึงเครียดชายแดน นี้อาจยืดเยื้อออกไป เพราะรัฐบาลไทยขาดเสถียรภาพในการเจรจาทางการทูต แม้กองทัพจะยังดำเนินการตามปกติ แต่การเลือกตั้งใหม่ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบถือเป็นความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งสำคัญในอาเซียน

โดยสรุป สื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะเป็น "สนามรบ" ระหว่างพรรคภูมิใจไทยของนายอนุทินกับพรรคประชาชนที่เน้นปฏิรูป โดย รอยเตอร์ สรุปว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องหาทางออกระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงวงจร "วิกฤตซ้ำ" ที่ขัดขวางการแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ