
5 พฤศจิกายน 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ อดีต รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี ณ วัดวงกตบรรพต หรือ วัดตาชี ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยศรัทธา และความร่วมมือจากคณะผู้บริหารพรรค เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน เนืองแน่น ตอกย้ำถึงหลักการอยู่ร่วมกันภายใต้ร่มเงาพหุวัฒนธรรม และจุดยืนของพรรคในการมุ่งมั่นกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
พ.ต.อ.ทวี ยังได้เข้าพบและให้กำลังใจ พระมานพ มหาวิโร เจ้าอาวาสวัดเกาะอภินิหาร หรือวัดกุหร่า(ร้าง) ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา หลังเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจจากการยิงสามเณร เมื่อเดือน เม.ย.65 ย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อความมั่นคงทางจิตใจ และขวัญกำลังใจของคณะสงฆ์ในพื้นที่ ที่มีความเปราะบางด้านความมั่นคง
หลังเสร็จสิ้นพิธี พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวถึงประสบการณ์การเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยชี้ว่า งานบุญในครั้งนี้คือภาพสะท้อนอันงดงามของสังคมพหุวัฒนธรรม
“วันนี้ก็มาเข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากสามจังหวัดเราเป็นพื้นที่ พหุวัฒนธรรม ในช่วงเดือนนี้เป็นเดือนของการทอดกฐิน ซึ่งแม้ว่าเราจะมีผู้สมัคร หรือมี สส.เป็นมุสลิมก็ตาม แต่ในกลุ่มสมาชิกของเราที่เป็นพุทธ ก็ประสานกับผู้สมัครที่เป็น สส. ว่าอยากจะขอให้มาร่วม ซึ่งในพรรคประชาชาติ เราให้ความสำคัญเรื่อง วัฒนธรรม เรื่องศาสนา เรื่องการอยู่ร่วมกัน ซึ่งในการอยู่ร่วมกันคือการ เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ใช้โอกาสนี้ในการตอกย้ำจุดยืน และอัตลักษณ์ของพรรคที่ พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยเน้นหนักที่การทำงานเพื่อท้องถิ่นอย่างแท้จริง
“พรรคประชาชาติ เป็นพรรคการเมือง แม้จะมองเป็นพรรคของคนทั้งประเทศก็ตาม แต่ว่าเราเป็นพรรคที่มีความเข้มแข็งเรื่อง การกระจายอำนาจ เรื่องการให้ความสำคัญกับ ท้องถิ่น เราเป็นพรรคที่เราอยากเห็น ชุมชนประสบความสำเร็จ ดังนั้นสมาชิกของพรรค เวลาลงในพื้นที่ ก็ต้องเข้าไปในชุมชนต่าง ๆ ซึ่งเป็น เป็นอัตลักษณ์ที่ดี ถ้ามีการเลือกตั้ง พรรคก็พร้อม พรรคของเราสามารถที่จะมองหน้ากับคนได้ เพราะว่าสิ่งที่จะมาทำลายวัฒนธรรมที่ดี ก็คือ ยาเสพติด หรืออบายมุขต่าง ๆ ซึ่งพรรคประชาชาติบุคลากรของเรา จะไม่มีประวัติเหล่านี้ เราไม่ได้มองแค่ตัวผู้สมัครเขาดีอย่างเดียว แต่ต้องรักษาสังคมให้ดี วันนี้เป็นโอกาสของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะพรรคเรา เราได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว”
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี นำทีมแกนนำพรรคลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ร่วมกิจกรรมบุญทอดกฐิน ณ วัดยานิการาม อ.หนองจิก พร้อมตอกย้ำอัตลักษณ์พรรคในการเป็นตัวแทนของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยึดหลัก ‘พหุวัฒนธรรม’ ขณะเดียวกันเป็นการส่งสัญญาณเปิดตัว ‘นายอรุณ เบญจลักษณ์’ รองนายก อบจ.ปัตตานี เตรียมลงสนามเลือกตั้ง สส.เขต 2 ท่ามกลางการตอบรับความพร้อมอย่างทันควัน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี พร้อมด้วย นายธนาธิป พรหมชื่น หรือ “กำนันเพื่อน” กำนันตำบลสุไหงปาดี และเจ้าหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่ ได้เข้าร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดยานิการาม โดยมี นายสมมุติ เบญจลักษณ์ สส. จังหวัดปัตตานี พรรคประชาชาติ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส นายอรุณ เบญจลักษณ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี นายกูเฮง ยาวอหะซัน อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมร่วมกิจกรรม
พ.ต.อ.ทวี ยังได้สะท้อนปัญหาความท้าทายในพื้นที่ โดยเฉพาะมิติที่เกี่ยวข้องกับศาสนกิจของพระสงฆ์ สมัยก่อน คนจะมาทำบุญลำบาก มีเหตุการณ์เยอะ พร้อมกล่าวถึงการมีส่วนร่วมสมัยเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. ในการผลักดันให้มี ค่าตอบแทนพระรูปละ 2,500 บาทต่อเดือน มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับพระสงฆ์ในช่วงที่ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับปัญหาความปลอดภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ท่ามกลางงานบุญทอดกฐิน นายอรุณ เบญจลักษณ์ รองนายก อบจ.ปัตตานี ได้กล่าวต่อพี่น้องประชาชน ประกาศถึงความตั้งใจทางการเมืองในอนาคต หลังได้รับการผลักดันจากหัวหน้าพรรค
"อนาคตข้างหน้า ผมอาจจะมาลง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 ก็คือ อำเภอหนองจิก อำเภอโคกโพธิ์" นายอรุณกล่าว
นายอรุณได้ขอฝากกำลังใจจากประชาชน และย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เพื่อเป็นปากเสียงในการสะท้อนปัญหาเชิงพหุวัฒนธรรม ความปลอดภัย สวัสดิการ และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทอดกฐิน คณะของ พ.ต.อ. ทวี ได้เดินทางไปให้กำลังใจ กลุ่มต้มยำจากมาเลเซีย ที่กลับมาเปิดร้านอาหาร "ซุปโต๊ะแช 53" สาขาปัตตานี ณ ต.ตะลูโบ๊ะ อ.เมือง ซึ่งสะท้อนถึงการส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น
จากนั้น คณะได้เดินทางไปยังจังหวัดยะลา เพื่อประชุมกับแกนนำพรรคประชาชาติเขต 1 (อ.เมือง-อ.ยะหา) ณ ที่ทำการพรรค โดยมี นายสุไลมาน บือแนปีแน ส.ส. เขต 1 จังหวัดยะลา เป็นผู้ประสานงานหลัก การประชุมครั้งนี้มี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. นายกเทศบาล และสมาชิกเทศบาลในพื้นที่ ร่วมวางแผนและหารือแนวทางการขับเคลื่อนงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น