รมช.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่สุ่มตรวจสินค้า มอก.การันตีความปลอดภัย
รมช.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่สุ่มตรวจสินค้า สร้างความมั่นใจมาตรฐาน มอก.การันตีความปลอดภัยถึงมือประชาชน ปิดทางสินค้าด้อยคุณภาพ
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่สุ่มตรวจคุณภาพสินค้า ณ ไทวัสดุ สาขาแจ้งวัฒนะ เพื่อสร้างความมั่นใจ “สินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทยต้องปลอดภัยและได้มาตรฐาน มอก.” พร้อมชื่นชมไทวัสดุในฐานะผู้ประกอบการที่ยืนหยัดเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัยของผู้บริโภคอย่างจริงจัง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า การสุ่มตรวจครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “อุตสาหกรรมพึ่งพาได้” ที่เน้นการ “คุมเข้มหน้าร้าน” ตรวจจริง เห็นจริง และแก้ปัญหาจริง โดยมีเป้าหมายให้ผู้บริโภค “มั่นใจได้ตั้งแต่ชั้นวางสินค้า” ไม่ใช่เฉพาะในโกดังหรือปลายทางหลังเกิดเหตุแล้ว พร้อมยืนยันว่า การสุ่มตรวจไม่ใช่การตามล่าใคร แต่เป็นการยืนยันให้ประชาชนเห็นกับตาว่า สินค้าทุกชิ้นที่วางขายต้องผ่านมาตรฐาน มอก. และปลอดภัยต่อการใช้งาน เราจะทำให้ความปลอดภัยถึงมือประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดไทย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้ชื่นชมไทวัสดุว่า เป็นเอกชนต้นแบบ ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐอย่างใกล้ชิด ดำเนินธุรกิจบนความโปร่งใส และยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น เมื่อรัฐกับเอกชนเดินไปด้วยกันอย่างจริงใจ มาตรฐานไทยจะกลายเป็นพลังความมั่นใจให้ทุกครัวเรือน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ย้ำว่า แนวทางของกระทรวงจะเดินทั้ง “หน้าร้าน–หลังร้าน” ควบคู่กัน เพื่อปิดช่องสินค้าด้อยคุณภาพตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค และจะเดินหน้าสุ่มตรวจต่อเนื่องทั่วประเทศ เข้มข้นอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง พร้อมเร่งรณรงค์ให้ผู้บริโภคตรวจหาเครื่องหมาย มอก. และข้อมูลฉลากก่อนตัดสินใจซื้อ หากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งหน่วยงานรัฐได้ทันที
“ความปลอดภัยต้องพิสูจน์ได้ที่หน้าร้าน ไม่ใช่หลังเกิดเหตุ เราจะสุ่มตรวจต่อเนื่องทั่วประเทศ เพื่อให้สินค้าทุกชิ้นที่ขายในไทย ‘มั่นใจได้ในมาตรฐาน มอก.’” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างการลงพื้นที่ คณะทำงานได้ตรวจสอบหมวดสินค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องใช้ภายในบ้าน ทั้งระบบคัดเลือกสินค้า การแสดงฉลาก เครื่องหมาย มอก. คู่มือการใช้งาน ไปจนถึงการรับประกันสินค้า พร้อมให้ข้อแนะนำเพื่อยกระดับกระบวนการกำกับดูแลหน้าร้านให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ อยู่ในชุดปฏิบัติการเชิงรุกเดียวกับการกวาดล้างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สืบเนื่องมาตรการคุมเข้มหลังคดี “ไดร์มรณะ” ซึ่งต่อมาได้ขยายผลการตรวจค้นคลังสินค้าและจุดจำหน่ายหลายแห่งภายหลังกรณี “ไดร์เป่าผมมรณะ” ที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลาใกล้เคียง