svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ถอดประสบการณ์ “วันนอร์-สถาบันพระปกเกล้า” ดูงาน “MCC ฮังการี”

ถอดประสบการณ์ "MCC ฮังการี" วันนอร์ -คณะ ส.พระปกเกล้า ศึกษาดูงานการทำวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ climate change เพื่อปลูกฝัง-วิจัย สู้โลกร้อนทุกมิติ

3 พฤศจิกายน 2568 ภารกิจวันที่สองของการเดินทางเยือนฮังการีของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับ รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พร้อมคณะ คือการไปศึกษาดูงานที่  MCC หรือ Mathias Corvinus Collegium ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยเอกชนในฮังการี มีนักเรียนและนักศึกษาทุกระดับมากถึง 8,200 คน

พันธกิจสำคัญของ MCC คือ การส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม , การพัฒนาที่ยั่งยืน และการศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ climate change จึงมีหน่วยงานวิจัยภายใต้สังกัดคือ สถาบันนโยบายสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Policy Institute

ถอดประสบการณ์ “วันนอร์-สถาบันพระปกเกล้า” ดูงาน “MCC ฮังการี”

จากการบรรยายสรุปของ ไดเรคเตอร์ หรือ ผู้อำนวยการใหญ่ของ MCC นาย Zoltan Szalai ทำให้ทราบว่า จุดเด่นที่สุดในการขับเคลื่อนภารกิจของ MCC คือการจัดหลักสูตรการศึกษาให้กับเยาวชน ตั้งแต่ชั้นประถม หรือ primary school จนถึงระดับอุดมศึกษา มีการให้ทุนการศึกษาเพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยม เข้ามาศึกษาต่อที่ MCC ซึ่งมีศูนย์การศึกษาและวิทยาเขตกระจายอยู่ทั่วฮังการี และในภูมิภาค

ขณะเดียวกันยังมีการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับชุมชน ทั้งยังมี “สถาบันสร้างผู้นำ” หรือ Leadership Academy เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วย

ผู้อำนวยการใหญ่ของ MCC นาย Zoltan Szalai

 

ขณะที่ตัวสถาบัน MCC เอง ยังได้ประสานความร่วมมือกับทั่วโลกในทุกระดับ ทุกมิติ ทั้งระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือแม้กระทั่งหลายประเทศในเอเชีย อย่างจีนและสิงคโปร์ โดยรูปแบบความร่วมมือมีทั้งการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ จัดทำหลักสูตรนานาชาติ, แลกเปลี่ยนผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง, จัดเวทีสัมมนาระดับชาติ และระดับนานาชาติ รวมทั้งเผยแพร่งานวิจัยผ่านการตีพิมพ์ทั้งในสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อกระแสหลักและมีประวัติศาสตร์ยาวนานของฮังการี และการจัดพิมพ์เอกสาร หนังสือ ตำราของ MCC เอง

บทบาทของ MCC จึงไม่ได้แค่ทำวิจัย แต่ยังเน้นการเรียนการสอน การสร้างคนให้มีความตระหนักรู้ และมีองค์ความรู้ตั้งแต่เยาวชน และแปรงานศึกษาวิจัยสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ด้วยการทดลองปฏิบัติจริงร่วมกับชุมชน และยังร่วมงานพร้อมให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงให้คำปรึกษากับรัฐบาลและรัฐสภาฮังการีด้วย

นับเฉพาะปี 2024 MCC จัดกิจกรรมในบูดาเปสต์  มากถึง 550 ครั้ง และกิจกรรมในภูมิภาค 450 ครั้ง ฉะนั้นหากไทยสนใจเข้าร่วมในกิจกรรมใด รูปแบบใด ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาร่วมกันผ่านโครงการต่างๆ ได้ทั้งหมด 

สำหรับงบประมาณของ MCC ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ เพราะ MCC บริหารงานในรูปแบบของมูลนิธิ มีรายได้จากเงินปันผลที่ได้จากการถือหุ้น ในกองทุนของบริษัทพลังงานและเวชภัณฑ์ชั้นนำในฮังการี 

ถอดประสบการณ์ “วันนอร์-สถาบันพระปกเกล้า” ดูงาน “MCC ฮังการี”
 

เปิดเป้าหมาย 8 ด้าน : ฮังการีสู้ "โลกร้อน - พัฒนายั่งยืน"
 

ระหว่างการบรรยายของ MCC นาย Kitta Gergely ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสภาพภูมิอากาศ หรือ  Climate Policy Institute ได้นำเสนอข้อมูลเป้าหมายและผลลัพธ์ด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศและพลังงานของฮังการี ผ่านการศึกษาวิจัยของสถาบันด้วย โดยสรุปมี 8 ด้าน ได้แก่


1. เป้าหมายด้านพลังงานและการลดก๊าซเรือนกระจก ผ่าน “ข้อตกลงสีเขียว” หรือ  Green Deal – ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ในปี 2025


2. ตั้งเป้าลด “ก๊าซเรือนกระจก” (GHGs) ลง 45% และเพิ่ม GDP ขึ้น 93% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2024


3. ปัจจุบัน 25% ของการผลิตไฟฟ้าในประเทศมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่ 75% ของการผลิตไฟฟ้าในประเทศเป็น พลังงานสะอาด และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานนิวเคลียร์

 

4. ตั้งเป้าหมายในปี 2026 ยุติการใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้า หรือ coal exit

 

5. ลดการใช้ก๊าซธรรมชาติจาก 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 1990 เหลือ 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2024

  

6. มีโครงการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV รวมถึงพลังงานแบบไฮบริด สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในย่านธุรกิจและเขตเทศบาลให้ได้ 7%

 

7. ตั้งเป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการจัดการของเสีย เช่น มีอุทยานแห่งชาติให้ได้ 10 แห่ง, ประกาศยุทธศาสตร์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ ปี 2023-2030, ปลูกต้นไม้เพิ่ม 184 ล้านต้น ทำให้พื้นที่ป่าของฮังการีเพิ่มขึ้นเป็น 27% ภายในปี 2030

 

8. การรีไซเคิล ตั้งเป้าอัตราการรีไซเคิลให้ถึง 65% ภายในปี 2030


ถอดประสบการณ์ “วันนอร์-สถาบันพระปกเกล้า” ดูงาน “MCC ฮังการี”

“วันนอร์” ประทับใจปลูกฝังรักสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเด็กเล็ก
 

"ประธานวันนอร์" นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า รัฐสภาไทยให้ความสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมาก และเห็นว่าการพัฒนาต่างๆ ต้องมีความสมดุลทั้งในแง่ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
 

ผมรู้สึกประทับใจที่ MCC มีพันธกิจทั้งทางด้านทฤษฎี ด้านการปฏิบัติ และการศึกษา โดยเฉพาะการให้ความรู้และการศึกษากับเยาวชนตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก เพื่อปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องและประเทศไทยเราลืมคิดไป มุ่งเน้นแต่ระดับชั้นอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น
 

หนุน “ส.พระปกเกล้า” จับมือ MCC เปิดหลักสูตรด้านพัฒนายั่งยืน
 

ประธานวันนอร์ ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า ได้กล่าวในที่ประชุม เสนอให้สถาบันพระปกเกล้าไปจัดหลักสูตรในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน เพิ่มเติมจากเดิมที่เน้นหลักสูตรด้านการเมือง สังคม และประชาธิปไตย


ถอดประสบการณ์ “วันนอร์-สถาบันพระปกเกล้า” ดูงาน “MCC ฮังการี”
 

ด้าน รศ.ดร.อิสระ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า สถาบันฯ สนใจงาน MCC หลายเรื่อง และเห็นว่าทั้งสองสถาบันมีเป้าหมายเดียวกัน ในเรื่องการศึกษาและสร้างผู้นำรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ "การศึกษาตลอดชีวิต" ไม่จำกัดช่วงเวลาและช่วงวัย ซึ่งสอดคล้องกับสภาพสังคมและสถานการณ์โลกในปัจจุบัน
 

สถาบันพระปกเกล้า และ MCC น่าจะเป็นพันธมิตรที่ดีร่วมกันได้ ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัย และการจัดหลักสูตรสร้างผู้นำ และหวังว่าเราน่าจะมีโอกาสต้อนรับคณะของ MCC ที่ไปเยือนประเทศไทย และร่วมงานกันเพื่อสร้างหลักสูตรผู้นำรุ่นใหม่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืน 
 


รศ.ดร.อิสระ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า


ขอบคุณ : ข่าวและภาพจากทีมข่าวสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา