svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“วันนอร์ - ส.พระปกเกล้า” เยือนฮังการี พร้อมแจงปมชายแดน หลังกัมพูชาดอดตัดหน้าไทย

“วันนอร์ - ส.พระปกเกล้า” เยือนฮังการี พร้อมแจงปมชายแดน หลังกัมพูชาดอดตัดหน้าไทย ชู “ฮุน เซน” หนุนสันติภาพ

2 พฤศจิกายน 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทาน ประธานรัฐสภา และประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เดินทางเยือนประเทศฮังการี อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน โดยออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิแล้ว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 

 

“วันนอร์ - ส.พระปกเกล้า” เยือนฮังการี พร้อมแจงปมชายแดน หลังกัมพูชาดอดตัดหน้าไทย

 

โดยคณะเดินทางที่สำคัญ ประกอบด้วย กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า และ รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐสภา และทีมข่าวจากสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา 

 

 

การเดินทางเยือนฮังการีครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของประธานรัฐสภาฮังการี ซึ่งรองประธานรัฐสภาฮังการีเคยเดินทางเยือนรัฐสภาไทยในยุคที่ นายชวน หลีกภัย เป็นประธานรัฐสภา และมี รศ.ดร.อิสระ เป็นเลขานุการประธานรัฐสภา 

ฉะนั้นกำหนดการสำคัญในการเยือนฮังการีของประธานวันนอร์ ก็คือ การได้เข้าพบหารือกับ นายลาซโล โคเวร์ ประธานรัฐสภาฮังการี ในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน และจะได้เข้าเยี่ยมชมอาคารรัฐสภาฮังการี ในกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการี ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีสถาปัตยกรรมที่งดงามยิ่งใหญ่ติดอันดับโลก มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกด้วย 

ทั้งนี้ คาดว่าการพบปะหารือกันระหว่างประธานรัฐสภาของทั้งสองประเทศ จะมีการทำความร่วมมือกันในนามรัฐสภา ในโครงการสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบงานของรัฐสภาร่วมกันในอนาคต เนื่องจากฝ่ายนิติบัญญัติถือเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของประชาธิปไตยทั่วโลก 

นอกจากการเข้าพบหารือกับประธานรัฐสภาฮังการีแล้ว ประธานวันนอร์ ยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะและหารือรองนายกรัฐมนตรีของฮังการี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบริหารรัฐและการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีภารกิจคล้ายๆ กระทรวงมหาดไทยของประเทศไทยด้วย 

 


ส.พระปกเกล้า ทำ MOU สถาบันพัฒนา ปชต.กลุ่มประเทศคริสเตียน 

ขณะที่ภารกิจของสถาบันพระปกเกล้า จะมีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ระหว่างสถาบันพระปกเกล้า กับสถาบัน
Christian Democratic Institute หรือ CDI ซึ่งมีพันธกิจเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตยในกลุ่มประเทศคริสเตียนด้วย โดยมี ประธานวันนอร์ ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นสักขีพยาน 

ทั้งนี้ พิธีลงนามใน MOU จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายนเช่นกัน 

สำหรับสถาบัน CDI เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณค่าทางศีลธรรมและวัฒนธรรมแบบคริสเตียนดั้งเดิมให้มีความโดดเด่นและมีอิทธิพลมากขึ้นในเวทีการเมืองยุโรปและระดับโลก

สถาบัน CDI ทำกิจกรรมในด้านส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรทางสังคมและพรรคการเมืองที่มีแนวคิดคล้ายกัน รวมทั้งสนับสนุนการสร้างเครือข่ายของคนรุ่นใหม่ในบริบทของการขับเคลื่อนประชาธิปไตยด้วย 

 

 


เยือนสถาบันวิจัยสภาพภูมิอากาศ รับมือโลกเปลี่ยน 5 มิติ

ยังมีอีก 2 สถาบันทางวิชาการที่คณะของประธานรัฐสภา และสภาสถาบันพระปกเกล้า จะไปเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ก็คือ 

 - Climate Policy Institute แห่ง Mathias Corvinus Collegium หรือ MCC โดย Climate Policy Institute ก่อตั้งขึ้นจากการตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเตรียมการรับมือกับผลกระทบ ซึ่งกำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญทางสังคมและเศรษฐกิจของโลก เพื่อพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งเน้น 5 ด้าน ได้แก่ พลังงาน, การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ, เกษตรกรรม, มลพิษ และการพัฒนาเมือง

 - สถาบันดานูบ (Danube Institute) ซึ่งกำลังมีบทบาทอย่างสูงในการศึกษาวิจัยและอภิปรายเกี่ยวกับการสร้างสังคมประชาธิปไตย ท่ามกลางกระแสที่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยถูกตั้งคำถามในหลายๆ พื้นที่ของโลก 

นอกจากนั้นยังมีการศึกษาและอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลกอีกด้วย 

 

 


เปิดข้อมูล “ประธานสภากัมพูชา” เยือนฮังการีตัดหน้าไทย - ชู “ฮุน เซน” หนุนสันติภาพ

เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนการเดินทางเยือนฮังการีของคณะประธานรัฐสภาไทย และสถาบันพระปกเกล้าเพียงไม่กี่วัน ได้มีคณะของ สมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี (สมเด็จ ควน โซะดารี) ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา เดินทางเยือนฮังการี ระหว่างวันที่ 24-28 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วย ทั้งๆ ที่กำหนดการเยือนฮังการีของประธานรัฐสภาไทย มีการนัดหมายและวางแผนมาก่อนหลายเดือนแล้ว 

โดย สมเด็จ ควน โซะดารี ได้เข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญทั้งในฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติของฮังการี และได้ถือโอกาสนี้แจ้งให้ฝ่ายฮังการีทราบถึงความตกลงสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่เพิ่งลงนามกันที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นสักขีพยาน 

โดย สมเด็จ ควน โซะดารี ได้แจ้งกับฝ่ายฮังการีว่า ข้อตกลงสันติภาพเป็นสิ่งที่ผู้นำและประชาชนชาวกัมพูชาต้องการ ทั้งยังอ้างถึง สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาด้วยว่า มีบทบาทสำคัญในการสร้างสันติภาพครั้งนี้ 

สำหรับ สมเด็จ ควน โซะดารี คือประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา ที่เคยใช้เวทีการประชุมรัฐสภาโลก หรือ IPU เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ร่ำไห้โจมตีไทยด้วยข้อกล่าวหาที่บิดเบือนมาแล้ว ว่าไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีกัมพูชา 

โดยในครั้งนั้น ประธานวันนอร์ ต้องออกโรงแถลงข่าวตอบโต้อย่างดุเดือด ว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดของ สมเด็จ ควน โซะดารี ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการนำ “เฟกนิวส์​” หรือข้อมูลเท็จมากล่าวอ้างทั้งสิ้น 

มีรายงานด้วยว่า ฝ่ายกัมพูชาให้เหตุผลของการเยือนฮังการี เพื่อเตรียมการเกี่ยวกับการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 70 ปีระหว่างฮังการีและกัมพูชา แต่จากการตรวจสอบพบว่า วาระของการครบรอบความสัมพันธ์ คือปี 2569 ซึ่งมีกำหนดการที่ประมุขแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จะเสด็จเยือนฮังการีด้วย 

 

 


สื่อกัมพูชาประโคมข่าว - สื่อฮังการีเงียบกริบ

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบข่าวสารที่รายงานเกี่ยวกับการเดินทางเยือนฮังการีของประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา ปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนกระแสหลักของฮังการีมากนัก โดยสาระสำคัญของการเยือน และปรากฏเป็นข่าว ล้วนเป็นการรายงานข่าวและการประชาสัมพันธ์ของฝ่ายกัมพูชาเองทั้งหมด ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะช่วงของการเดินทางเยือนของฝ่ายกัมพูชา เป็นช่วงวันหยุดยาวของฮังการี และมีประเด็นการเมืองภายในที่น่าสนใจกว่า 

ส่วนสื่อออนไลน์ของฮังการี มีการรายงานข่าวการเยือนของประธานสภากัมพูชาบ้าง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด และไม่มีการกล่าวถึงประเด็นข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา 

 


“วันนอร์ - อิสระ” พร้อมแจงทันทีหากฮังการีสอบถาม 

ประธานวันนอร์ ให้สัมภาษณ์กับ ”เนชั่นทีวี” ระหว่างการเดินทางไปยังกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการีว่า ตนได้ทราบข่าวการเยือนฮังการีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเดินทางมาเพียงไม่กี่วัน เบื้องต้นคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาหรือมีประเด็นใดๆ ที่เกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากมีการพาดพิงในทางที่บิดเบือนหรือไม่ถูกต้อง ตนก็พร้อมจะชี้แจงให้ทางฮังการีเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องทันที 

ขณะที่ รศ.ดร.อิสระ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามบทบาทของฮังการีในเวทีระหว่างประเทศ ฮังการีมีจุดยืนสนับสนุนสันติภาพอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมีประเด็นน่ากังวลใดๆ และการเดินทางเยือนฮังการีของประธานรัฐสภาไทย รวมถึงกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า ก็ไม่ได้มีเป้าหมายหลักในเรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชา แต่หากมีการสอบถามในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ หรือประเด็นอื่นใด ทั้งตนและประธานรัฐสภาก็พร้อมชี้แจง 
 

“วันนอร์ - ส.พระปกเกล้า” เยือนฮังการี พร้อมแจงปมชายแดน หลังกัมพูชาดอดตัดหน้าไทย

 

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ทีมข่าวทีวีรัฐสภา