"คีรี" หนุน "รถไฟฟ้าบุฟเฟต์ 40 บาท" - พร้อมเจรจาซื้อคืนสัมปทาน

30 ตุลาคม 2568 ระหว่างการแถลงข่าว "หนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว" ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ "รถไฟฟ้า BTS" ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความคิดเห็นที่มีต่อนโยบายของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย โดยกระทรวงคมนาคม ที่มีแนวคิดปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็น 40 บาทต่อวัน ใช้บริการกี่เที่ยวก็ได้ 

 

 

 

 

 

 

โดย นายคีรี บอกว่า ประชาชนน่าจะจ่ายต่ำกว่าค่าโดยสารตาม "โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท" ซึ่งหมายถึงค่าโดยสาร 20 บาทต่อเที่ยว ของรัฐบาลชุดที่แล้ว 

"เรื่องนี้เข้าใจว่ารัฐบาลอยากเป็นเจ้าภาพเอง ถ้าเป็นประโยชน์กับสังคมและผู้โดยสาร BTS ก็พร้อมร่วมมือเต็มที่ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50-60% หรืออาจจะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวด้วยซ้ำ เพราะจ่าย 40 บาท ขึ้นได้ทุกสาย เรียกว่าเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าไปเลย 1 วัน เทียบกับช่วงที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำโครงการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าฟรีเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ตอนนั้นมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นราวๆ 40% แต่รถไฟฟ้า 40 บาท จะทำให้คนใช้บริการเยอะกว่านั้นอีก เนื่องจากตอนที่เปิดให้ขึ้นฟรี คนอาจจะยังไม่กล้าใช้บริการมากนัก"

 

 

ต่อข้อถามถึงแนวคิดการให้รัฐบาลซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าทุกสาย เพื่อจะได้บริหารจัดการโครงสร้างราคาได้ทั้งระบบ ซึ่งเป็นนโยบายที่เสนอมาตั้งแต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยนั้น 

นายคีรี บอกว่า เป็นความคิดที่สร้างสรรค์ เพราะเป็นการทำเพื่อประชาชน ซึ่ง BTS พร้อมร่วมมือถ้าเป็นไปได้ ทั้งโครงการซื้อคืนสัมปทาน และโครงการรถไฟฟ้าวันละ 40 บาท 

 

"เรื่องซื้อคืนสัมปทาน ที่ผ่านมายังไม่มีการเจรจา ขณะนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงที่เป็นไข่แดง กลางเมือง 23 กิโลเมตร มีคนใช้มากที่สุด ต้นทุนจึงสูงที่สุดตามจำนวนผู้ใช้บริการ เราลงทุนไปในระยะเริ่มแรก 50,000 ล้าน เป็นการลงทุนในนามเอกชนล้วนๆ ไม่มีรัฐมาร่วมลงทุนด้วยเลย และเป็นยอดการลงทุนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว"

"ฉะนั้นหากรัฐจะซื้อคืนวันนี้ ก็ต้องจ่ายให้ BTS อย่างน้อยที่สุดก็เท่ากับที่เคยลงทุนไป แต่คงไม่ถึง 50,000 ล้าน เพราะต้องหักจำนวนปีที่ได้สัมปทานออกไป โดยสัมปทานยังเหลืออีก 4 ปี หมดสัมปทานปี 2572 ก็ต้องคิดจาก 4 ปีของอายุสัมปทานที่ยังเหลือ ฉะนั้นตัวเลขจึงไม่ถึง 50,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน"

 

นายคีรี ย้ำว่า BTS พร้อมร่วมมือทุกโครงการที่ประชาชนได้ประโยชน์ และพร้อมจัดหารถไฟฟ้ามาให้บริการเพิ่ม ไม่มีปัญหาแน่นอน โดยกรอบระยะเวลาการจัดหารถ อยู่ที่ราวๆ 2 ปี 

 

 

ขอคลังชัดเจน "เมืองการบิน" ไม่เกินสิ้นปี 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการขอแก้สัญญาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท โดยมีข้อเสนอปรับลดขนาดการลงทุน และตัดเงื่อนไขการเชื่อมต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพราะไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย ทั้งๆ ที่ครบกำหนดสัญญา 5 ปีไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น 

นายคีรี กล่าวว่า ได้เสนอให้ลดสเกลของโครงการ และสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ผ่านมาได้เจรจาในรายละเอียดไปแล้ว เรื่องอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่ทางกระทรวงขอต่อเวลาไปถึงเดือน ธ.ค.68 ทั้งๆ ที่สัญญาครบกำหนดไปแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.

 

"ทราบว่า อีอีซี กับรัฐบาลก็เดินอยู่ แต่กฎระเบียบเยอะ ทำให้ล่าช้า และกระทรวงการคลังต้องขอขยายเวลา แต่อยากจะฝากถึงกระทรวงการคลังว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ขอให้เรื่องสัญญามีความชัดเจน จะได้หาผู้ร่วมทุนต่อไป แต่ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกสัญญา เพราะถ้าคิดจะเลิก คงเลิกไปนานแล้ว" ประธาน BTS ระบุ 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เบื้องลึกหนี้ BTS - "คีรี" ฝาก กทม.เกรงใจภาษีประชาชน