svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ธรรมนัส” ลั่นมีเงินก่อนเล่นการเมือง ยัน ไม่เคยประกอบอาชีพสีเทา

“ธรรมนัส” ไม่โกรธสื่อถามปม เอี่ยวสแกมเมอร์ ลั่น “มีตังค์ก่อนเล่นการเมือง” ยัน ไม่เป็นมนุษย์สีเทา ไม่เคยหากินบนความทุกข์ยากของ ปชช. ชี้ ฟ้องคดีไม่ใช่ปิดปาก ขออย่าเพิ่งกล่าวหา "เบน สมิธ"

21 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนการให้สัมภาษณ์ ว่า “คิดถึงจัง ไม่ได้เจอตั้งนาน” พร้อมถูกถามว่าโกรธหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่า ไม่โกรธครับ

 

ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงการถูกกล่าวหาว่า มีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ ว่า  ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ตอนนี้ชี้แจงบัญชีทรัพย์สินมีสำนักข่าวโจมตีว่าร่ำรวย มีบริษัทมากกว่า 20 แห่งในการทำมาหากิน ตอนนั้นตนก็เป็นนักการเมืองสมัครเล่น การชี้แจงบัญชีทรัพย์สินจึงมีปัญหาบ้าง อยากเรียนว่า ตนทำธุรกิจมาก่อนทำการเมือง "พูดภาษาชาวบ้านคือมีตังค์ก่อนมาเล่นการเมือง" ไม่เคยปฏิเสธว่าเป็นผู้ทำธุรกิจรถเมล์เกือบ 300 คัน และมีธุรกิจด้านสลากกินแบ่งรัฐบาล ธุรกิจตลาดสด อสังหาริมทรัพย์

ดังนั้น ขอยืนยันว่า ไม่เคยทำธุรกิจที่อยู่บนความเดือดร้อนของประชาชน และสิ่งสำคัญที่สุดในรัฐบาลชุดที่แล้วคือ การเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นฝ่ายตรวจสอบ ได้ให้ข้อมูลกับสำนักงานตำรวจไซเบอร์จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ หมายค้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์

 

"อาชีพอะไรก็ตามที่นักการเมืองหลายคนมองว่าเป็นมนุษย์สีเทา ตนไม่เคยประกอบอาชีพสีเทา" ซึ่งก็มีเรื่องเก่า ๆ ที่เคยผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว ในฐานะที่เราเข้ามาทำงานการเมืองต้องยอมรับตรงนี้ อะไรก็ตามที่ถูกกล่าวหา พาดพิง หรือเรื่องหมิ่นเหม่ และเราไม่ได้ทำความผิด เราไม่ได้ใช้วิธีปิดปาก แต่เป็นการฟ้องให้เกิดความกระจ่างว่าเราไม่ใช่ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ อันไหนที่พาดพิงถึงเราถ้าเป็นความจริง ก็รับแล้วมาแก้ไข แต่อันไหนที่ไม่ใช่เราจำเป็นต้องฟ้อง ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด 

 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนที่คนเข้าหาง่าย และไม่เคยกีดกันว่าเป็นคนเพศไหน วัยไหน สัญชาติใด เพราะเราเป็นคนไม่ถือตัว สื่อมวลชนหลายท่านก็พูดคุยกันหยอกล้อกัน และไม่เคยโกรธ

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า ร.อ.ธรรมนัส มีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (เบน สมิธ) และเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์นั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราแล้ว ยืนยันว่าไม่มีอะไรปิดบัง พูดกันตรงไปตรงมาด้วยข้อมูล และสิ่งสำคัญที่สุดอย่าเพิ่งกล่าวหาว่า นายเบน สมิธ เป็นแก๊งสแกมเมอร์ ในเรื่องกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา กฎหมายยังไม่มี ดังนั้นอย่าเพิ่งไปกล่าวหา ต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองก่อน และเมื่อเขาพิสูจน์แล้วประเทศเราก็มีหน่วยงานตรวจสอบ ส่วนตนเองเป็นมนุษย์ที่ยืนอยู่บนเวทีที่กล้าพูดกล้าทำ

 

ส่วนที่เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.2568) นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พบชื่อคนที่เคยขอสัญชาติไทย มีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งคาดว่าเป็นนายเบน สมิธ นั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ไม่ทราบ 

 

และการที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้นายกรัฐมนตรีปลด ร.อ.ธรรมนัส ออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ระบุว่า ผู้แต่งตั้งคือนายกรัฐมนตรี ตนก็เป็น สส. ตนก็อยู่ทางฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร และพร้อมตรวจสอบเหมือนกัน ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด กำชับลูกพรรคที่เป็นข้าราชการการเมือง ต้องทำงานให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้บ้านเมืองมีปัญหา

 

เมื่อถามว่า การแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมมนัส จะไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลเหมือนกับที่ผ่านมาใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เมื่อตนมีปัญหาก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยตัวเองไม่ชอบเป็นภาระใคร

 

ส่วนจะมีการเข้าไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ (กมธ.) ด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เพียงว่า ตนไม่มีวันหยุดเลย กลับเข้าบ้านก็ดึกแล้วตื่นเช้าก็มาทำงานต่อ