svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

พท.ขยี้ รบ.โยกย้าย ขรก.มท.เอื้อเลือกตั้ง-ท่าทีปราบคอลเซ็นเตอร์

พท.ตั้งกระทู้จี้ถามเหตุโยกย้าย ขรก.มท.เอื้อเลือกตั้ง-ท่าที รบ.ปราบคอลเซ็นเตอร์ – “ศักดิ์ดา” ยันโยกย้ายตามฤดูกาล - เย้ย! รบ.นี้ไม่มีลุง แก้ปัญหาเขมรดีกว่าแน่นอน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ สส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่มองว่า ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหา ประเทศ และประชาชน ทั้งความมั่นคงภายในประเทศ และระหว่างประเทศ อย่างปัญหาคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงยังอาจเป็นไปเพื่อความได้เปรียบในการเตรียมการเลือกตั้ง ของพรรครัฐบาลในขณะนี้หรือไม่ ซึ่งโยกย้ายข้าราชการที่มีข้อกังขาให้กลับมาทำหน้าที่ และการโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ลงนามในการโยกย้าย และในการโยกย้ายครั้งนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นผู้ลงนามเช่นเดียวกัน รวมถึง ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาขู่จะเปิดโปงนักการเมืองไทย ที่ไปเปิดบ่อนที่กัมพูชา แต่รัฐบาลกลับไม่มีท่าทีในการแก้ปัญหา จึงทำให้สงสัยว่า รัฐบาลชุดนี้ มีส่วนร่วม หรือเปิดทางให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทยหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาจะมีแนวทางในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไร

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ยืนยันว่า ในเดือนตุลาคม ซึ่งปีงบประมาณ 30 กันยายน ก็มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเกษียณ 20 กว่าตำแหน่ง ดังนั้น การหมุนเวียนตำแหน่ง เป็นเรื่องปกติ และปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นผู้เสนอโยกย้าย และตนได้สืบค้นข้อมูล ที่รัฐบาลชุดที่แล้ว ได้โยกย้ายนอกฤดูการโยกย้าย แต่การโยกย้ายของรัฐบาลชุดนี้ เมื่อ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการโยกย้ายในฤดู แต่ก่อนหน้านี้ 3 ครั้งที่มีการโยกย้าย เป็นการโยกย้ายนอกฤดู ซึ่งร้ายแรงมาก ครั้งแรก 8 กรกฎาคม 2568 มีการโยกย้าย 1 ครั้ง 4 ตำแหน่งโยกย้ายอธิบดี เป็นผู้ตรวจราชการ ซึ่งเสมือนเป็นการเข้ากรุ ครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม และครั้งที่ 3 ในวันที่ 19 สิงหาคม ซึ่งกรณีดังกล่าว ไม่ใช่การโยกย้ายตามปกติ แต่การโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาลชุดนี้ จึงเป็นเรื่องปกติ และมั่นใจว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาอย่างดีแล้ว และเชื่อว่า ข้าราชการทุกคนทราบ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถฟ้องร้องคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม หรือศาลปกครองได้ จึงขออย่านำประเด็นดังกล่าว มาเป็นประเด็นทางการทำให้ประชาชนสับสน

 

ส่วนการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์นั้น นายศักดิ์ดา ชี้แจงว่า ประเทศไทยเลือกตั้งในปี 2566 มีรัฐบาล 3 รัฐบาล ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ น่าจะมีมาก่อนหน้านั้น ไม่ได้มีในรัฐบาลนายอนุทิน แต่รัฐบาลที่ผ่านมา มีการปราบจริงจัง ช่วงปลายรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยมีรัฐมนตรีช่วยจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาดำเนินการ และรัฐบาลนายอนุทิน เพิ่งบริหารเพียง 10 กว่าวัน และยังคงดำเนินการอยู่ ดังนั้น การกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการ จึงอาจจะไม่ถูกต้อง และยืนยันว่า รัฐบาลดำเนินการปราบคอลเซ็นเตอร์ และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตามปกติ ที่ทุกคนจะได้รับความเป็นธรรม

นางสาวธีรรัตน์ ยังได้โต้งแย้งว่า ตำแหน่งที่มีการโยกย้ายของในรัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้เป็นตำแหน่งเกษียณ สวนทางกับการอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือนตามที่รัฐบาล ดังนั้น จึงต้องการสอบถามว่า อธิบดีที่อยู่โยกย้ายนั้น ได้กระทำเรื่องใดผิด และรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จะแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไร ทั้งที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินการปราบไปแล้ว และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กลับมาใหม่แล้ว

 

นายศักดิ์ดา ได้ปฏิเสธว่า ตนเองไม่เชื่อว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมด 100% แล้ว แต่ยืนยันว่า รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหมือนเดิม จึงขอให้พรรคเพื่อไทยกลับไปทบทวนใหม่ รวมถึงฮุนเซน ซึ่งตนไม่อยากอธิบายว่า ใครสนิทกับฮุนเซน หรือใครรู้จักเขมร เพราะไม่เกิดประโยชน์ จึงขอให้พูดถึงประโยชน์ประชาชน เรื่องปากท้องมากกว่า เพราะหากจะพูดถึงประเด็นทางการเมือง ประชาชนก็จะไม่ได้ประโยชน์

 

ส่วนการโยกย้ายข้าราชการนั้น นายศักดิ์ดา ได้ย้ำว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในสมัยที่นางสาวธีรรัตน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ เหมือนตนเอง ก็มีการโยกย้ายเช่นเดียวกันถึง 3 ครั้ง ซึ่งตนไม่กล่าวหาว่าใครผิดใครถูก แต่การโยกย้ายข้าราชการมีคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม และเชื่อว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ลงนามโยกย้ายในครั้งนั้น มีเหตุผล และการโยกย้ายครั้งนี้ ก็เชื่อว่า มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์แต่ละครั้งเช่นเดียวกัน จึงขออย่าไปรื้อฟื้น เพราะอดีตอธิบดีกรมการปกครอง ที่จะเกษียณอายุราชการอีกเพียง 2 เดือน และถูกเด้งไปเป็นผู้ตรวจข้าราช อดีตอธิบดีจะเสียกำลังใจหรือไม่ และการโยกย้าย เป็นเรื่องปกติ ที่มีกฎเกณฑ์ หากข้าราชการถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม ผู้กระทำก็มีโทษถึงจำคุก พร้อมมองว่า การนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีกัน จะไม่เป็นประโยชน์

 

นายศักดิ์ดา ยืนยันว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาเขมร รัฐบาลปัจจุบัน จะทำได้ดีกว่ารัฐบาลก่อนแน่นอน จะมีเพียงการต่อสู่ เพื่อรักชาติ รักอธิปไตยของคนไทย ไม่มีลุง ไม่มีนายทุนแน่นอน