คุก..ขังแค่กาย ใจ..ยังเต็มร้อย ย้อนเส้นทางการเมือง "ทักษิณ"
10 กันยายน 2568 ไม่ว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และตัวเองจะโดนอะไร ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง passion ทางการเมืองของ อดีตนายกฯทักษิณได้ "เนชั่นทีวี" พาย้อนดูเส้นทางการเมือง "ทักษิณ" ตั้งแต่ก่อนยุครุ่งเรือง สู่ยุคผูกขา ผิดตัวผิดฝา และสิ้นอิสรภาพ
ยุคก่อนปี 2544
- เข้าสู่แวดวงการเมืองเริ่มด้วย นั่งเป็น รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลชวน 1
- เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรมแทน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
- ไม่ประสบความสำเร็จในการทำพรรคพลังธรรม
- แต่ก็ไม่ท้อ หันไปทำพรรคไทยรักไทย
- ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 2540 และนโยบายโดนใจ ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ขึ้นเป็นนายกฯ
ยุครุ่งเรือง ถึงพลัดถิ่น
- เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 และเป็นนายกฯจากการเลือกตั้งคนแรกที่ดำรงตำแหน่งครบเทอม 4 ปี
- นำพรรคการเมืองที่ตัวเองเป็นหัวหน้า และพรรคเครือข่าย ชนะเลือกตั้งใหญ่ 5 ครั้ง แลนด์สไลด์ 2 ครั้ง
- ถูกยึดอำนาจ กลับประเทศไทยไม่ได้ โดนดำเนินคดีมากมาย ต้องหนีไปพำนักต่างประเทศนาน 17 ปี
- แต่ก็ไม่เคยหายไปจากการเมืองไทย และยังสร้างบทบาท สร้างสีสันได้ตลอดมา
ยุคคืนรัง
- กลับประเทศไทยอย่างเหนือความคาดหมาย 22 ส.ค.2566
- เป็นวันตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำ ทั้งๆ ที่แพ้เลือกตั้ง ได้อันดับ 2 โดยไปจับมือกับพรรคต่างขั้ว
- แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็นนายกฯ เพราะ สว.ฝ่ายตรงข้ามโหวตให้
- คนไทยทั้งบ้านทั้งเมือง ทุกวงการ เชื่อว่ามี “ดีลลับ”
- ถูกศาลสั่งจำคุก 8 ปี ในคดีที่เคยถูกพิพากษาลับหลังช่วงหลบหนีอยู่ต่างประเทศ แต่ตัวไม่เคยเข้าคุกจริงแม้แต่วันเดียว
- ถูกสังคมมองเป็น “คนพิเศษ” มี “ดีลพิเศษ” ได้ “สิทธิพิเศษ”
- ถูกมองว่ามีแต้มต่อทางการเมือง เป็นคนเดียวและพรรคเดียวที่จะหยุดความร้อนแรงของพรรคการเมืองสีส้มได้
ยุคผูกขา ผิดตัวผิดฝา และสิ้นอิสรภาพ
- นอน รพ.ตำรวจยาว 180 วัน หรือ 6 เดือน ไม่ได้นอนเรือนจำเลย กระทั่งได้พักโทษ กลับไปอยู่บ้าน
- เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง โชว์พาวเวอร์ทุกครั้งที่มีโอกาส พร้อมประกาศ “พาน้องกลับบ้าน”
- เดินสายทั่วประเทศ ฟื้นความนิยมของพรรคเพื่อไทย
- ใช้เวทีเลือกตั้ง อบจ. หาเสียงแบบระดับชาติ กระชับอำนาจบ้านใหญ่ แต่ผลการเลือกตั้งไม่ดีอย่างที่คิด
มีการส่งผู้สมัครในนามพรรค 16 จังหวัด ชนะแค่ 10 จังหวัด ทั้งๆ ที่ตัวอดีตนายกฯทักษิณ เดินสายด้วยตัวเอง 8 จังหวัด ปราศรัย 27 เวที แถมเสีย อบจ.ลำพูน ให้พรรคประชาชน ส่วนที่เชียงใหม่ก็ไม่ได้ชนะถล่มทลาย
- พร้อมๆ กับการแสดงบทบาททางการเมือง ตัวเองก็เริ่มถูกผูกขาด้วยคดีความ โดยเฉพาะคดี 112 และ คดีชั้น 14
- การสร้างผลงานทางการเมือง จึงเป็นเหมือน “เดิมพันต่อดีล”
- แต่ “ดีลลับ” ออกอาการมีปัญหา ตั้งแต่อดีตนายกฯเศรษฐา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นเก้าอี้ ตามด้วยนายกฯแพทองธาร
- นโยบายเรือธง สไตล์ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่นโยบายเดียว
โดยเฉพาะนโยบายประชานิยมแนวถนัด อย่าง แจกเงินหมื่น , ค่าแรง 600 , ปริญญาตรี 25,000 และรถไฟฟ้า 20 บาท
- ปัญหาไฟใต้ที่ปะทุเดือดตั้งแต่ยุคตัวเองเป็นนายกฯ (2547) ถูกยกระดับช่วงที่น้องสาวเป็นนายกฯ (2556 - ตั้งคณะพูดคุยเจรจาอย่างเป็นทางการ) และบานปลายเรื้อรังในยุคลูกสาวเป็นนายกฯ (2568) กลับไม่มีความคืบหน้าในทางบวก ทั้งๆ ที่ตัวเองลงพื้นที่ในรอบ 20 ปี และประกาศให้ความมั่นใจ โดยอ้างความสนิทสนมกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน
- ปัญหากัมพูชากลายเป็นจุดตาย ทำให้เสื่อมศรัทธา เพราะภาพความสนิทสนมกับ "สมเด็จฮุนเซน" ทำให้ถูกคนไทยมองอย่างไม่เชื่อใจ และยิ่งปัญหาบานปลาย ยิ่งกลายเป็นคนผิด
"สุดท้ายหนีคุกไม่พ้น จากคดีชั้น 14"
"แต่การเดินเข้าคุกรอบนี้ อาจถูกพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของการฟื้นศรัทธาการเมืองอีกรอบของทั้งตัวคุณทักษิณเอง ตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย"
เพราะแค่วันแรกที่เข้าไป ก็มีภาพสร้างราคาทางการเมืองในแนว “นักสู้ผู้ไม่หวั่นคุก” และ “สุภาพบุรุษคนการเมือง” ออกมาแล้ว