svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ดาบสองกำลังตามมา หลัง”ทักษิณ”เข้าเรือนจำ

ดาบสองกำลังตามมา หลัง”ทักษิณ”เข้าเรือนจำ เปิด 12 รายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ จ่อถูกดำเนินคดี

9 กันยายน 2568 คำแถลงของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งคดีชั้น 14  ให้จำคุก "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 1 ปี นั้น  

หากพิเคราะห์ เนื้อหาการบรรยายเหตุการณ์ ที่นำไปสู่การตัดสินให้ "ทักษิณ" ต้องกลับไปรับโทษจองจำนั้นพบว่า ยังบ่งชื้ถึงพฤติการณ์ "ทักษิณ" ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ  ทำให้การบังคับโทษจำคุกไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 ดังปรากฎข้อความดังนี้ 
“ .....  ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า การบังคับโทษจำคุกจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และตามพฤติการณ์ดังกล่าวมาข้างต้นบ่งชี้ให้เห็นว่า จำเลยทราบข้อเท็จจริง หรือรับรู้เหตุการณ์ได้ว่าตนไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน แต่จำเลยมีเพียงโรคประจำตัว ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและสภาวะร่างกายของจำเลยเอง” 

“... นอกจากนั้น ยังได้ความว่าจำเลยเข้ามามีส่วนตัดสินใจในกระบวนการรักษาของแพทย์ โดยปฏิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ และโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท แต่ให้แพทย์รักษาโดยการรับประทานยาตามอาการและเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวาซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และเป็นผลทำให้การรักษาตัวจำเลยในโรงพยาบาลตำรวจขยายระยะเวลาออกไป จำเลย( ทักษิณ) จึงได้รับประโยชน์จากการพักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ต้องกลับไปถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จนได้รับการปล่อยตัวและไม่อาจอ้างว่าเป็นการดำเนินการของแพทย์และเจ้าหน้าที่มิได้เกิดจากการกระทำของจำเลย( ทักษิณ ) เพื่อถือเอาประโยชน์จากระยะเวลาที่พักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมาหักวันคุมขังโทษตามคำพิพากษา”

จึงไม่แปลก ที่ "นิติธร ล้ำเหลือ" หรือ ทนายนกเขา บุคคลต้นเรื่อง ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ นำมาสู่คำสั่งศาลวันนี้ ออกมาเปิดเผยเตรียมลงดาบสองให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับนายทักษิณ  และ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ 

คุณนิติธร บอกว่า  “หลังจากนี้จะดำเนินการรวบรวมสำนวน ร้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิดนายทักษิณ ในฐานะผู้สนับสนุน หรือตัวการ ( ตามรายละเอียดในคำแถลงศาลฯ ) และต้องเอาผิดทางข้อกฎหมายเพิ่มเติม ในส่วนอธิบดี , ผบ.เรือนจำ , แพทย์, รมว.  ซึ่งในส่วนนี้ เราร้องใน ป.ป.ช.หมดแล้ว ตอนนี้ก็จะร้อง "ทักษิณ" เพิ่มอีก

ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ขอชื่นชมนายทักษิณที่กล้ากลับมาเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้เกิดการเดินหน้าต่อไป 

"หลังจากนี้นั้น ทาง ป.ป.ช. คงจะต้องนำคำสั่งของศาลไปดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะการขยายประเด็นเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม รวมทั้งตัว "นายทักษิณ" ที่ร่วมกระทำความผิดด้วย นอกจากนี้ คำสั่งของศาลจะถูกนำไปเป็นพยานหลักฐานในคณะกรรมการสอบวินัยของโรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันว่า จะเข้าไปติดตามขยายผลการดำเนินการทั้งของ ป.ป.ช. และของโรงพยาบาลตำรวจต่อไป"  นายสมชาย  ระบุ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 12 ราย ที่อยู่ในข่ายจะถูกไต่สวนในชั้น ป.ป.ช.กรณีนี้ ประกอบด้วย

  1. นายสหการณ์ (สงวนนามสกุล) กรมราชทัณฑ์
  2. นายสิทธิ (สงวนนามสกุล) กรมราชทัณฑ์
  3. นายชาญ (สงวนนามสกุล) กรมราชทัณฑ์
  4. นายนัสที (สงวนนามสกุล) เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
  5. พลตำรวจโท โสภณรัชต์ (สงวนนามสกุล) โรงพยาบาลตำรวจ
  6. พลตำรวจโท ทวีศิลป์ (สงวนนามสกุล) โรงพยาบาลตำรวจ
  7. พันตำรวจเอก ชนะ (สงวนนามสกุล) โรงพยาบาลตำรวจ 
  8. พลตำรวจตรี สามารถ (สงวนนามสกุล) โรงพยาบาลตำรวจ
  9. นายแพทย์ วัฒน์ชัย (สงวนนามสกุล) โรงพยาบาลราชทัณฑ์
  10. แพทย์หญิง รวมทิพย์ (สงวนนามสกุล) 
  11. นายสัญญา (สงวนนามสกุล) เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
  12. นายธัญพิสิษฐ์ (สงวนนามสกุล) เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

อย่างไรก็ดี การตั้งองค์คณะไต่สวนคดีนี้ของ ป.ป.ช. เป็นการไต่สวนคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย ยังต้องผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้นตอน ถ้าพบว่ามีมูลจึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง 

จากนั้นจึงจะสรุปสำนวน ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลอีกครั้ง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 12 ราย ตามรายชื่อข้างต้น ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่