
5 กันยายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานในที่ประชุม วาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายคุณสมบัติ ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อ โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ว่า ตำแหน่งหน้าที่นายกฯ ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ถือว่าเป็นงานสำคัญของชาติ นายกฯ เป็นฝ่ายการเมือง มีรัฐธรรมนูญกำกับ โดยให้ความสำคัญในการแยกส่วนตัวกับส่วนรวม นายกฯ และรัฐมนตรี จะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมคือระบบคุณธรรม
คนฉลาดจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต แต่คนที่จะฉลาดกว่าต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น นายชัยเกษม เป็นอดีตอัยการสูงสุด เป็นอดีตรัฐมนตรียุติธรรม เป็นนักนิติศาสตร์ ที่ได้รับยกย่องศาสตราจารย์พิเศษจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นที่ยอมรับของผู้ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม
"แต่สำหรับท่านอนุทินผมก็อยากจะขอเรียนว่า ท่านไม่มีมาตรฐาน และความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ วันนี้การทำลายระบบรัฐสภา ที่ทำลายดีที่สุดคือระบบกฎหมาย ท่านก็อยู่ 1 ใน 229 คนที่ถูกอนุ กกต.มีความเห็นว่า ท่านได้กระทำผิดในข้อหาสมยอมหรือช่วยเหลือ ให้ลงคะแนนเลือก สว.อีกประเด็นหนึ่งท่านยังมีเรื่องอยู่ที่ DSI ในระหว่างที่เข้าเป็นคดีพิเศษ ท่านก็ต้องเข้าข่ายใน 229 คน ก็คือข้อหาอั้งยี่และข้อหาฟอกเงิน ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่าเข้าไปแทรกแซงการกระทำขององค์กรนี้" พ.ต.อ.ทวีกล่าว
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่า ในทางจริยธรรมการทำลายซึ่งระบบเลือกตั้ง และโยงมาถึงบุคคลที่เข้าไปดำรงตำแหน่งในวุฒิสภา กว่า 138 คน ตนเห็นว่าเป็นบาดแผลใหญ่ของระบบนิติบัญญัติ และเป็นบาดแผลใหญ่ของบ้านเมือง วันนี้เราต้องการรักษาเอกราช แผ่นดินแม้ตารางนิ้วเดียว เราก็ไม่สามารถยกให้คนอื่น
"ผมยืนยันว่า ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ท่านไม่รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน โดยเฉพาะกรณีที่ดินเขากระโดง ซึ่งท่านผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผิดจริยธรรมอย่างหนึ่งคือ ประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวม เขาให้ต้องยึดประโยชน์ส่วนรวม สิ่งที่เราปรากฏชัดคือ นายอนุทิน หลักฐานหนังสือมอบอำนาจปรากฏว่า ท่านอยู่บ้านเดียวกับนายเนวิน ชิดชอบ ที่สำคัญท่านเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และได้ก่อสร้างสาขาพรรค ในที่ดินโฉนดที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูล" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ขณะที่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า เรื่องที่อภิปราย อยู่ในระหว่างคดียังไม่มี ผู้ถูกกล่าวหายังไม่มี เป็นผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างดำเนินคดี ตนคิดว่า รัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาคงไม่ได้แทรกแซง เห็นมีแต่รัฐมนตรีคนก่อนที่ใช้อำนาจไปแทรกแซง จนถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่ พ.ต.อ.ทวี ยังคงอภิปรายต่อว่า การเข้ามาเป็นรัฐมนตรี อาจเป็นภัยร้ายแรงต่อบ้านเมือง โดยเฉพาะการไม่รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ซึ่งระหว่างที่นายอนุทินเป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ที่ดินแห่งนี้ถูกศาลวินิจฉัยเป็นที่สิ้นสุดแล้ว
ทำให้ นายรังสิกร ทิมาตฤกะ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงอีกว่า การตีกินในสภาฯ หรือพูดความจริงไม่ถึงครึ่ง ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่จะไปเป็นนายกฯ ประชาชนที่ฟังเข้าใจไม่ครบถ้วน ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม พร้อมถามกลับว่า ใครกันแน่ที่แทรกแซง DSI
พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า นายอนุทินไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีความประพฤติที่ฝ่าฝืนและขัดมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตนจึงเห็นว่า นายอนุทิน ถ้าถูกเสนอเป็นนายกฯ ถือว่าจะขึ้นสู่บัลลังก์สูงสุดฝ่ายบริหาร คิดว่าเป็นความโชคร้ายของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องฮั้ว สว.เพราะเอางบประมาณ 1,500 ล้านบาท ไปให้กระทรวงมหาดไทยร่วมจัด ทำให้การฮั้ว สว.สำเร็จได้