
4 กันยายน 2568 การที่ "พรรคส้ม - ประชาชน" ไม่ปล่อยฟรีโหวต หรือดึงเวลาต่อไปอีกนิด เพื่อรอความชัดเจนเรื่องยุบสภาให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะพรรคเพื่อไทย ก็ยื่นยุบจริงๆ แต่กลับเลือกเทโหวตให้คุณอนุทินทันที ทำให้เกิดกระแสตีกลับไปที่พรรคส้มด้วยเช่นกัน
เสียงวิจารณ์เริ่มหนาหู และตั้งคำถามกันอย่างกว้างขวาง ดังนี้
1.การโหวตหนุน “เสี่ยหนู” จะทำให้เกิดรัฐบาลชุดใหม่ที่ดีกว่าปัจจุบันได้จริงหรือไม่
- เริ่มมีคำถามจากคนที่ยังหวาดผวา หรือกังวลกับข้อกล่าวหา "ฮั้ว สว.-เขากระโดง" ซึ่งร้ายแรงไม่แพ้บาดแผลอื่นๆ ของเพื่อไทย
2.เมื่อเพื่อไทยยื่นยุบสภา ทำไมจึงไม่รอผลก่อน เพราะเป้าหมายของตัวเองคือยุบสภา ตามที่ประกาศ
- การชิงตัดหน้าแถลงหนุนคุณอนุทิน ยิ่งตอกย้ำข่าว “ดีลล่วงหน้า” ที่เหลือคือ “ละครพิธีกรรม”
3.พรรคประชาชน หรือ “พรรคส้ม” กลายเป็น “นั่งร้านให้เสี่ยหนู” ในฐานะ “พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่” ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมปั้นขึ้นมาใช้งานแทนพรรคเพื่อไทย ไปโดยปริยาย
4.การที่บอกให้ยุบสภาภายใน 4 เดือน ในความเป็นจริง คือ เป็นไปไม่ได้เลย และพรรคส้มเองก็เปิดทางให้คุณอนุทินเป็นนายกฯเกิน 4 เดือน ซึ่งไม่รู้ว่าจงใจ หรือ ละอ่อนทางการเมืองกันแน่
- กรอบเวลา 4 เดือน นับจากวันแถลงนโยบายต่อสภา
- ก่อนแถลงนโยบาย เสี่ยหนูจะเป็นนายกฯแล้ว ประมาณ 1 เดือน คือ ได้รับการโหวตโดยสภา โปรดเกล้าฯ ตั้ง ครม. ร่างนโยบบาย จึงจะแถลงนโยบาย กินเวลาประมาณ 1 เดือน
- แถลงนโยบายแล้ว เพิ่งเริ่มนับ สมมติอยู่ครบ 4 เดือนแล้วยุบสภา ก็เท่ากับอยู่จริง 5 เดือน
- ยุบสภาแล้ว กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้ง ถัดจากยุบสภา 45-60 วัน หรือ ราวๆ 2 เดือน รวมเป็นอยู่ 7 เดือน
- เลือกตั้งแล้ว กว่าจะรอ กกต.ประกาศรับรอง ก็กินเวลาอีก 60 วัน หรือ 2 เดือน นับรวมเป็น 9 เดือน
- กกต.ถูกมองว่า “มีสี” และอาจเป็น “สีน้ำเงิน” อาจมีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น จนยืดเวลาประกาศรับรองผลเลือกตั้ง หรือยืดเวลาในกระบวนการต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งออกไปอีกหรือไม่
- จะมีเหตุการณ์พิเศษ ไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น ทำให้อยู่นานกว่า 9 เดือนหรือไม่
- แม้ยุบสภาแล้ว พรรครัฐบาลก็มีสถานะเป็น “รัฐบาลรักษาการ” คุมเลือกตั้ง ใช้งบได้ ได้เปรียบกว่าฝ่ายค้าน
**และได้เปรียบพรรคประชาชนไปในตัว เพราะไม่ยอมร่วมเป็นรัฐบาล
- หากรัฐบาลทำผลงานได้ดี มีคะแนนนิยม (ซึ่งจะดีขึ้นแน่ เพราะขณะนี้ตกต่ำสุดขีดแล้ว) กระแสก็จะเข้าทางพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่พรรคส้ม
5.องค์ประกอบของ “ว่าที่รัฐบาลภูมิใจไทย” มี “งูเห่า - อนาคอนด้า” มากมาย แต่พรรคประชาชนกลับไม่พูดถึง และโหวตสนับสนุน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็บาดเจ็บจาก “ข่าวซื้องูเห่า” แถมหยิบมาเปิดโปงอยู่เป็นประจำ หนำซ้ำพรรคพันธมิตรที่มาตั้งรัฐบาล ก็มีพรรคกล้าธรรมที่ดูด สส.พรรคส้มไปด้วย
พ่ายเกมอนุรักษ์นิยม - ใช้ “ส้ม” ฆ่า “แดง” แกงกันเอง!
อาจารย์เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ในฐานะนักรัฐศาสตร์ กล่าวว่า มีกระแสตีกลับ “ตำหนิพรรคส้ม” เพราะเข้าข่ายเพลี่ยงพลั้ง ไปชิงประกาศเลือกโหวตให้คุณอนุทิน ในฐานะ “ตัวแทนอนุรักษ์นิยมใหม่” เมื่อประกาศไปแล้วย่อมถอนตัวไม่ได้
ตนมองว่า เดิมพรรคประชาชนน่าจะเดินเกมนี้เพื่อบีบเพื่อไทยให้ยุบสภา แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยยื่นยุบจริงๆ กลับเจอเกมซ้อนเกมจาก “ผู้มีอิทธิพลหลังม่าน” กลายเป็นว่า “พรรคส้มถูกหลอกใช้” หรือไม่ เพราะพรรคส้มผันตัวไปเป็นเครื่องมือหรือนั่งร้านของฝั่งอนุรักษ์นิยมไปเลย แล้วในอนาคตจะวกกลับมาทำลายฝั่งประชาธิปไตย จนพ่ายแพ้ทั้งกระดานในที่สุด
อาจารย์เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ในฐานะนักรัฐศาสตร์
อาจารย์เชษฐา สรุปว่า งานนี้เหมือน “ผู้มีอิทธิพลหลังม่าน” ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือ
นัดแรก - ได้ปั้นผู้นำอนุรักษ์นิยมคนใหม่เป็นนายกฯ
นัดที่สอง - ให้พรรคส้มทำลายพรรคแดง ซึ่งเคยเป็นฝ่ายเดียวกัน และให้พรรคส้มทำลายตัวเอง โดยผู้สนับสนุนพรรคส้มออกมาถล่มพรรคส้มกันเอง แผนการนี้ถือว่าแยบยลมากจริงๆ