
KEY
POINTS
- รัฐธรรมนูญมาตรา 52 อยู่ในหมวด “หน้าที่ของรัฐ”
รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพ แห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน เพื่อประโยชน์แห่งการนี้ รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูต และการข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ
รัฐบาลคือตัวแทนของรัฐ และนายกฯคือหัวหน้ารัฐบาล จึงต้องปฏิบัติตามมาตรานี้อย่างเคร่งครัด

- รัฐธรรมนูญมาตรา 219 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระอีก 5 องค์กร ไปร่วมกันจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรม และกำกับเอาไว้ชัดเจนว่า..
“…ทั้งนี้ มาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าวต้องครอบคลุมถึงการรักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ และต้องระบุให้ชัดแจ้งด้วยว่า การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมใดมีลักษณะร้ายแรง”

- มาตรฐานจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 6
“ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพ แห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน”
เป็นถ้อยคำเดียวกันที่ล้อมาจากรัฐธรรมนูญมาตรา 52 หน้าที่ของรัฐ ในที่นี้คือ รัฐบาล และนายกฯ มีเยอะมาก เหมือนตาข่ายตาถี่ที่ดักเอาไว้ ฉะนั้นหากพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย โอกาสรอดของนายกฯจึงมีน้อยจริงๆ แค่ตกไปประโยคเดียว คำเดียว ก็น่าจะโดนแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่ 3 คือ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
- “ฝ่ายค้าน” ล่าสุดมีการปล่อยภาพ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทานข้าวร่วมกับ “ลุงป้อม” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ บรรยากาศสุดชื่นมื่น เหมือนประกาศล่วงหน้า ตำแหน่งนายกฯไหลมา โดนฝั่งนี้สวมแทนแน่ๆ แถมมีการฝาก “ข้าวหน้าไก่” ฝีมือ “ลุงบ้านป่าฯ” ไปให้ “เสี่ยหนู” ทานต่อที่บ้านด้วย
อาหารเมนูนี้ เมื่อก่อนต้องเป็นสมาชิก 3 ป. เท่านั้น ถึงจะได้ทาน โดยเฉพาะ “น้องตู่ สุดที่รัก” แต่วันนี้คนข้างกาย กลายเป็น “เสี่ยหนู อนุทิน”
- มีข่าวกระเซ็นกระสาย เป็นที่รู้กันดีว่า “บิ๊กป้อม” ยังมีความหวังนั่งนายกฯรอบสุดท้าย ก่อนล้างมือในอ่างทองคำ อำลาการเมือง ที่ผ่านมาจึงทุ่มสุดชีวิต บางคนบอก “ทุ่มไม่คิดชีวิต”
แต่ล่าสุด หลัง สส.กำแพงเพชร สาย “บ้านใหญ่ วราเทพ รัตนากร” แหกโผไปลงมติดโหวตงบ 69 หนุนรัฐบาล ข่าวว่า “ลุงป้อม” ถอดใจ และนิ่งไปมาก
เมื่อไม่นานนี้ ไปรวมพลคนกันเองที่งานแต่งงานลูกนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง “ภาคเหนือตอนล่าง” ปรากฏว่า เสียงคุยของ “ลุงป้อม” ไม่มีการพูดแสดงความมั่นใจถึงเก้าอี้นายกฯเหมือนเก่า แต่ออกแนวเปรยๆ พร้อมเชียร์คุณอนุทิน
และล่าสุดก็มาเปิดบ้านทำข้าวหน้าไก่ให้กิน...แบบนี้แปลว่ามี “ดีล”

- พูดถึงความเคลื่อนไหวของ “เสี่ยหนู” ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะเมื่อเร็วๆนี้ก็มีภาพ (จงใจหลุด) ออกมา ถ่ายคู่กับ “เสี่ยไม่ซ้ายไม่ขวา” เศรษฐีเบอร์ 1 ของประเทศ ซึ่งรู้กันทั่วว่ามีบารมีแค่ไหนในแวดวงการเมือง ข่าวว่าปล่อยภาพให้ดูแป๊บเดียว ก็ถอดออก เหมือนบอกให้บางคนรู้ และเตรียมใจไว้เท่านั้น
- “กูรูการเมือง” เล่าว่า ช่วงที่ผ่านมา “เสี่ยหนู” เก็บทรงอย่างน่ากลัว เหมือนเตรียมรับตำแหน่งสำคัญ ระวังตัวทุกฝีก้าว แต่ทุกย่างก้าวก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ เดินสายพบปะนักธุรกิจใหญ่ทั่วทุกภาค เหมือนพูดแบบไม่เปิดปาก ว่าพร้อมสำหรับตำแหน่งสำคัญในการนำพาบ้านเมือง

- ส่วนการส่งสัญญาณถึงข้าราชการ และมวลชนในเครือข่ายค่ายสีน้ำเงิน เมื่อวานเราเล่าให้ฟังไปแล้ว สัญญาณชัดแจ๋ว ให้อดทนรอ เร็วๆ นี้จะกลับมามีอำนาจแน่นอน
- ฟากฝั่ง สว.สีน้ำเงิน ในฐานะผู้ร้อง “คดีคลิปเสียงฮุนเซน” เตรียมแต่งตัวไปศาลกันตั้งแต่สายๆ ข่าวว่าเปิดตัว เปิดหน้า ไปกันครบ นำทีมโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงแห่งรัฐ วุฒิสภา
- ส่วนแกนนำม็อบ “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” นัดรวมตัวกันพรุ่งนี้ บ่าย 2 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์
29 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 น. เวลาที่คนทั้งประเทศเฝ้ารอฟังการตัดสินคดีคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน ของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะอยู่หรือไป
โดยสิ่งที่ประชาชนคนไทยอยากรู้มากที่สุด ณ เวลานี้ คือ พรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
โดย “ข่าวข้นคนข่าว” ทางเนชั่นทีวี ไม่ได้แค่คาดการณ์ผลคำวินิจฉัยของศาล รธน. แต่จับตาความเคลื่อนไหว 3 ส่วน
1.นายกฯแพทองธาร และผู้สนับสนุน จะทำอะไรกันบ้าง?
2.ศาล รธน. มีกำหนดการอย่างไร และแนวโน้มคำวินิจฉัยจะออกมาแบบใด?
3.ฝ่ายค้านขยับอย่างไรบ้าง?
เริ่มจากความเคลื่อนไหวที่ 1 นายกฯแพทองธาร และผู้สนับสนุนจะทำอะไรบ้าง?
- ช่วงเช้าน่าจะออกจากบ้านย่านรามอินทรา อาจจะไปบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นกำลังใจ หรือเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล
- มีข่าวว่านายกฯจะไปปักหลักรอฟังคำวินิจฉัยศาล รธน.ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในวันดังกล่าวนายกฯไม่ได้มีวาระงานใดๆ แต่น่าจะตั้งใจเข้าไปฟังคำวินิจฉัยของศาล รธน. ที่ทำเนียบรัฐบาลท่ามกลางรัฐมนตรี และ สส.ที่ใกล้ชิดกัน
- มีรายงานว่ารัฐมนตรีและ สส.พรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วน จะเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ให้กำลังใจ และเชียร์นายกฯ
- หลังทราบผลคำวินิจฉัย จะมีการแถลงถึงประชาชนอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าผลวินิจฉัยจะออกมาบวกหรือลบ
-ส่วนที่ศาล รธน. นายกฯน่าจะส่งทนาย หรือผู้แทนไปฟังคำวินิจฉัย (เหมือนคดีอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ทั้งการปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล และแถลงต่อประชาชนหลังทราบผลวินิจฉัย แต่อดีตนายกฯเศรษฐา ช่วงเช้า มีไปทำบุญเอาฤกษ์เอาชัย ที่วัดเทพศิรินทราวาส ก่อนเข้าทำเนียบฯ)
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ 2 คือ ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ
แนวโน้มคำวินิจฉัยล่าสุด เราตรวจสอบมาหลายช่องทาง
นายใหญ่ พูดกับคนใกล้ชิดจริงๆ บอกว่า 50:50 (ต้องขอพรจากฟ้า หวังพลิกนาทีสุดท้าย)
คนวงในใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย มองว่า โอกาสรอดน้อยกว่าไม่รอด
แนวโน้มตัวเลข ข่าวข้นคนข่าวฟันธง ไม่ว่าผลจะออกหน้าไหน ไม่น่าจะมีตัวเลข 9:0 เพราะจะมีฝ่ายเสียงข้างน้อยแน่นอน
ตัวเลขมาแรง อยู่ที่ 7:2 และ 6:3 ส่วนฝ่ายไหนมีเฮ ให้ไปลุ้นกันเอง
จะเห็นได้ว่า เหตุผลของกูรูแต่ละคน เกือบทั้งหมดเทน้ำหนักไปในทาง “ไม่รอด” มากกว่า “รอด” เราถามเหตุผลของหลายๆท่าน พบว่าคล้ายๆ กัน ขอเลือกเหตุผล อาจารย์เชษฐา ซึ่งเป็นอดีต ผอ.เนชั่นโพล อาจารย์มองความเชื่อมโยงของรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา กับมาตรฐานจริยธรรม ที่นำมาใช้กับ นายกฯแพทองธาร ในคำร้องของ สว.รอบนี้