
จากกรณีครู รร.แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sopon Jongboriboon เกี่ยวกับเรื่องราวของลูกศิษย์วัย 13 ปี สัญชาติกัมพูชา ถูกตำรวจจับหลังเข้าแถวเคารพธงชาติ และเตรียมผลักดันกลับประเทศ หลังพบข้อมูลว่าหลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย โดยครูระบุว่า ลูกศิษย์เข้าเมืองมาพร้อมกันแม่ชาวกัมพูชา ตั้งแต่เล็กๆ
ต่อมามีสามีใหม่เป็นคนไทย และไม่เคยกลับเข้าไปที่กัมพูชาอีกเลย ประกอบกับลูกศิษย์ เป็นนักเรียนเรียนดี ใช้ชีวิตเหมือนคนไทยเกิดโตที่นี่ ไม่มีบ้านที่กัมพูชา และไม่สามารถพูด อ่าน หรือเขียนภาษากัมพูชาได้ จึงอยากเรียกร้องขอความเห็นใจในฐานะเพื่อนมนุษย์ หากส่งกลับจะใช้ชีวิตอย่างไร
28 สิงหาคม 2568 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้รับทราบข่าวจึงได้ประสานไปยังศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัดสุรินทร์ และทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดสุรินทร์
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม.
โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ และทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ โดยประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอรับเด็กและมารดาเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัว (บพด.) จังหวัดสุรินทร์ เรียบร้อยแล้ว
จากนี้ไป ต้องเป็นการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าจะมีการดำเนินการในลักษณะใด แต่ในมิติของกระทรวง พม. จะต้องส่งเสริมให้เด็กได้รับการศึกษาและจัดที่พักอาศัยให้ ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child) มาตรา 22 ด้วยการดูแลเด็กไม่ว่าจะสัญชาติหรือเชื้อชาติใด ถ้าอาศัยอยู่ในประเทศไทย จะต้องได้รับการคุ้มครอง ทั้งสิทธิและสวัสดิภาพ
อย่างไรก็ตามขอย้ำว่ากระทรวง พม. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการให้สัญชาติกับใคร โดยบริบทของกระทรวง พม. ที่ทำได้นั้นคือ
การเชิญตัวเด็กและมารดามาเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ 2546 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child) มาตรา 22 ด้วยการดูแลเด็กไม่ว่าจะสัญชาติหรือเชื้อชาติใด
ถ้าอาศัยอยู่ในประเทศไทย จะต้องได้รับการคุ้มครอง ทั้งสิทธิและสวัสดิภาพ
ส่วนกรณีการพิสูจน์สัญชาติ ว่ามารดามีการเข้าเมืองมาอย่างไร เด็กมีสัญชาติใด คงจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ
เนื่องจากกระทรวง พม. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการที่จะเข้าไปตรวจสอบแต่ระหว่างอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบนั้นเด็กและมารดาจะอยู่ภายใต้การดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพของกระทรวง พม.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "รมว.นฤมล" รับสะเทือนใจ "ด.ช.กัมพูชา วัย 13" ถูกจับส่งกลับกัมพูชา ยัน ศธ. " ยึดหลักมนุษยธรรม"
ดูคลิป