ส่อทำอะไร 138 สว.ไม่ได้ สภาสูงประเมินคำร้อง "นันทนา" มีโอกาสวืดสูง

6 สิงหาคม 2568 กรณีที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่ม สว.อิสระ เเละคณะเเถลงข่าวว่า รวบรวมรายชื่อ สว.21 คน ตามมาตรา 82 วรรคหนึ่งของรัฐธรรมนูญ ยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้พิจารณาถอดถอน สว. 138 คน ออกจากตำแหน่ง กรณีเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ว่า สว.ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใดๆ พร้อมกับขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนการเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ

เเหล่งข่าวจาก สว.เเจ้งว่า หลังทราบการเเถลงข่าวของ น.ส.นันทนา สว.ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติเเละรายชื่อ สว.138 คน ที่ถูกร้องเรียนนั้น มีชื่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เเละพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งรวมอยู่ด้วย หากพิจารณาคำร้องของ น.ส.นันทนา เเล้วนั้น  โอกาสที่ประธานวุฒิสภาจะยกคำร้องเ เละไม่ยื่นเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นก็มีโอกาส
 

“เหมือนกรณีที่ประธานสภาผู้เเทนราษฎรในฐานะประธานรัฐสภา วินิจฉัยตีตกคำร้องเเละไม่ยื่นเรื่องต่อประธานศาลฎีกา ให้ตั้งกรรมการตรวจสอบไต่สวน และนำไปสู่การถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 1 คน ซึ่งสงสัยว่า มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติของอดีตรอง ผบ.ตร.คนหนึ่ง ที่รวบรวมรายชื่อประชาชนกว่าสองหมื่นรายชื่อเมื่อไม่นานมานี้” เเหล่งข่าวจาก สว.กล่าว
 

“เเละต้องพิจารณาความคืบหน้าการทำงาน คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดที่ 26 กกต.นั้นคืบหน้าเพียงใด หากกล่าวอ้างลอยๆ ตามคำร้องเเละการเเถลงข่าววันนี้ของ น.ส.นันทนา นั้น คงไม่ถูกต้องนัก เพราะยังอยู่ในขั้นตอนที่หนึ่งจากสี่ขั้นตอนของกกต.ตอนนี้ตนเเละ สว.หลายคนยังเเปลกใจการดำเนินการของ น.ส.นันทนา ที่ไม่ยุติเสียที” เเหล่งข่าวจาก สว.กล่าว

เเละว่า ทราบว่า น.ส.นันทนา เพิ่งไปชี้เเจงต่อคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนกรณี น.ส.นันทนา ด้อยค่า สว.อาชีพขายหมูว่า เข้าข่ายผิดจริยธรรมนั้น  ก็ต้องติดตามว่า มติจะออกมาเเบบไหน หากเป็นลบ น.ส.นันทนา อาจถูกยื่นคำร้องต่อ ปปช.ว่ากระทำการขัดจริยธรรมเเละอาจโดนถอดถอนจากตำเเหน่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือน พ.ค.2568 กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา แถลงความคืบหน้าในการเข้าชื่อ สว. เพื่อขอให้ สว. ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อไม่ให้ 138 สว.ร่วมกับ สว.ที่เหลือลงมติเลือกองค์กรอิสระ เเต่การรวบรวมรายชื่อคราวนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ เเละมีการประกาศยุติการเคลื่อนไหวในครั้งนั้นไปเเล้ว

และในเดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป ประธานศาลฎีกาในฐานะประธานกรรมการ ในการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในองค์กรอิสระ จะต้องพิจารณาบุคคลที่สมัครเข้ารับการสรรหาฯ เป็นกรรมการ ป.ป.ช.สองตำเเหน่ง เเละ กกต.สองตำเเหน่งเเทนตำเเหน่งที่ว่างลง ก่อนที่จะส่งให้ สว.พิจารณาลงมติ เเละเวลาต่อจากนั้นคณะกรรมการสรรหาจะเปิดให้มีการรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาองค์กรอิสระอื่นๆ ที่ตำเเหน่งว่างลงตามลำดับ