เปิดเส้นทางราชการ อธิบดีที่ดินคนใหม่ ผงาดปาดโค้งสุดท้ายอายุราชการ

5 สิงหาคม 2568 วาระร้อนทางการเมือง ที่ประชาชนจับตาวันนี้หลัง ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วย

- นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ไปดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย

- นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

- นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน

- นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง

- นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี

- นายสันติ รังษิรุจิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา

การโยกย้ายล็อตนี้ ถือเป็น “ล็อต 1” ของ “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ตั้งแต่รับตำแหน่งรองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม

โดยรอบแรก เปลี่ยนตัว อธิบดีกรมการปกครอง กับ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มาแล้ว

ส่วนรอบนี้ แม้จะมี 6 คน แต่ตำแหน่งที่ถูกโฟกัสที่สุด คือ อธิบดีกรมที่ดิน ที่เสนอชื่อ “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี" โยกจากผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ไปนั่งเก้าอี้ใหญ่ ในปีสุดท้ายของอายุราชการ

แม้จะเก้าอี้ใหญ่ แต่ภารกิจที่ต้องเผชิญ ต้องบอกว่า “ใหญ่กว่า” เพราะรับเผือกร้อนเต็มๆ คือ เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดิน ทั้งโฉนด และ นส.3 บริเวณเขากระโดง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่า ถูกไล่ฟ้องจากเอกชน และตระกูลการเมืองที่เสียประโยชน์แน่นอน

จะว่าไปแล้ว “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี “อายุครบ 60 ปีนี้ แต่เนื่องจากเกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2508 หลัง 30 กันยายน จึงได้รับราชการต่ออีก 1 ปี เป็นปีสุดท้าย บนเก้าอี้ใหญ่ “อธิบดีกรมที่ดิน”

พื้นเพเป็นคนกำแพงเพชร จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะไม่ใช่สายปกครองโดยตรง เพราะจบบริหารรัฐกิจ แต่ก็ถือเป็น “สิงห์แดง”

จบหลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 54 หลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 59 วิทยาลัยมหาดไทย เคยเป็นรองผู้ว่าฯ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ผู้ว่าฯอ่างทอง อุทัยธานี นครศรีธรรมราช และฉะเชิงเทรา

“ขจรเกียรติ” อดีตหน้าห้องอธิบดีที่ดิน - หัวหน้าเพื่อไทย
 

แม้จะเป็น “สิงห์แดง” ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะแหกโผขึ้นมาคว้าเก้าอี้สำคัญในยุค “สิงห์ดำครองมหาดไทย” เพราะทั้งรัฐมนตรีว่าการ (บิ๊กอ้วน) และนายกรัฐมนตรี (นายกฯ แพทองธาร) ล้วนเป็น “สิงห์ดำ” จบรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

แต่เมื่อไปส่องประวัติการรับราชการดูดีๆ ก็จะรู้เหตุผล เพราะ ขจรเกียรติ เคยเป็นหน้าห้องของ “สิงห์มหาดไทยคนดัง” คือ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ สมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งต่อมาขึ้นเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย และหลังเกษียณอายุราชการ ได้ลงเล่นการเมือง เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเคยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย

เห็นประวัติแบบนี้แล้ว ก็น่าจะเป็นคำตอบว่า เหตุใดรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ “มท.อ้วน” ซึ่งนั่งรักษาการนายกฯอยู่ด้วย จึงไว้วางใจให้รับงานใหญ่ “อธิบดีกรมที่ดิน” ในปีสุดท้ายของอายุราชการ


 

ย้อนไปที่การโยกย้าย “สิงห์มหาดไทย” ล็อตล่าสุด ปรากฏว่ามี “สิงห์ดำ” นั่งตำแหน่งสำคัญอีก 2 คน คือ
 

เชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ไปผงาดในเก้าอี้ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย / โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจไปนั่งอธิบดีกรมที่ดิน แต่สุดท้ายผิดโผ

อีกคนคือ สันติ รังษิรุจิ จากผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ไปนั่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา