
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025: HLPF2025) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก โดยการประชุม HLPF2025 เป็นเวทีสำคัญประจำปีของ UN ที่มุ่งติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ที่ขณะนี้ได้อยู่ในเวทีสหประชาชาติในห้วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ ในวันนี้ (24 ก.ค.) เวลา 18:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย นายมาริษ จะวีดีโอคอลประชุมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เพื่อชี้แจงและทบทวนขั้นตอนการเตรียมความพร้อมรับมือหากต้องมีการอพยพคนไทยในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีคนไทยและนักลงทุนไทยอยู่ และจะชี้แจงในกรณีที่จะมีโอกาสได้พูดคุยกับสมาชิก UN ในกรณีไทยถูกเปิดฉากยิงถล่มในช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) เพื่อให้นานาชาติเข้าใจ ซึ่งพยานหลักฐานชัดเจนพบว่า กองทัพกัมพูชาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ และขัดต่อหลักการสากล โดยการเลือกยิงเป้าหมายที่เป็นพลเรือน ทั้งโรงพยาบาล และพื้นที่สาธารณะของประชาชนคนไทย
อย่างไรก็ตาม นายมาริษ ยังได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทยในการอภิปรายแบบเปิดของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในหัวข้อการส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ ผ่านพหุภาคีนิยม และการระงับข้อพิพาทโดยสันติ ซึ่งจัดโดยปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงฯ ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งในถ้อยแถลง นายมาริษ ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของไทยในการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ พร้อมหลักการที่กำหนดไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ ในการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธี พร้อมย้ำบทบาทของสหประชาชาติในการส่งเสริมสันติภาพ และการไม่ใช้ความรุนแรง โดยฝ่ายไทย สนับสนุนการเสริมสร้างขีดความสามารถของสหประชาชาติในการป้องกันความขัดแย้ง และย้ำถึงความร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับอาเซียน ซึ่งอาเซียนได้รับการยอมรับว่า มีบทบาทสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค โดยอาศัยแนวทางการสร้างฉันทามติ ตลอดจนมาตรการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการทูตเชิงป้องกัน
ขณะเดียวกัน นายมาริษ ยังได้พบและหารือทวิภาคีกับนายอันโตนิโอ กูแตร์เรช เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และยังได้พบผู้แทนประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ อาทิ ญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศสมาชิกถาวรอื่น ๆ ด้วย
นายมาริษ ยังได้พบกับนายมุฮัมหมัด อิชฮาก ดาร์ (Muhammad Ishaq Dar) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปากีสถาน ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ประจำเดือนกรกฎาคม รวมถึงยังได้หารือทวิภาคีกับนางเบอาทริซ คาร์เลส เด อารันโก (Beatriz Carles de Arango) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมปานามา ซึ่งปานามาจะเป็นประธาน UNSC ในเดือนสิงหาคม