
24 กรกฎาคม 2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า กองทัพภาคที่ 2 และกำลังสนับสนุนจากกองทัพอากาศ ยังคงยึดหลักปฏิบัติการตอบโต้ในลักษณะจำกัดวง ปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลัก เคร่งครัดในกฎกติกาตามหลักสากล เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ฝ่ายกัมพูชากลับเลือกเดินในทางตรงกันข้าม ใช้อาวุธโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือนอย่างไร้ความปราณี
อีกทั้งเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจน กรณีใช้อาวุธหนักโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือน และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม , ปราสาทโดนตรวน , ปั๊มน้ำมัน บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ , โรงพยาบาลพนมดงรัก , บ้านเรือนทรัพย์สินของประชาชน และศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ การกระทำดังกล่าว เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ โดยเฉพาะส่งผลกระทบต่อชีวิตทรัพย์สินประชาชนที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร
กองทัพบก ยืนยันจะดำเนินการเต็มขีดความสามารถที่มี เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ภายใต้กรอบกติกาอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องประชาชน เกียรติภูมิของชาติ และศักดิ์ศรีของแผ่นดิน ให้ได้อย่างดีที่สุด
มีรายงานว่า จากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายความรุนแรง มีการเปิดฉากการยิงโดยกำลังทหารฝั่งกัมพูชา ในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น โดยการปฏิบัติทางทหาร ตามพระราชบัญญัติการจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหมพุทธศักราช 2551 มาตรา 39 มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็น ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้สั่งการให้กองทัพบกใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุ ตามแผนป้องกันประเทศฝั่งตะวันออก โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการบัญชาการและการใช้กำลังทางบก และร้องขอการสนับสนุนกำลังทางอากาศ และทางเรือ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทางบก ตามแผนเผชิญเหตุ
โดยการปฏิบัติการทางทหาร มี 2 ขั้น คือ ขั้นปกติ ขั้นปฏิบัติการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการปฏิบัติการ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนของกองทัพภาคที่ 2 และการยิงสนับสนุนทางอากาศจากกองทัพอากาศ โดยมีเป้าหมายคือ ที่ตั้งกองกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา เพื่อระงับเหตุการณ์ โดยไม่มีการใช้อาวุธต่อเป้าหมายฝ่ายพลเรือนกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากไม่สามารถระงับสถานการณ์ความรุนแรงหรือการใช้กำลังของฝ่ายตรงข้าม กองทัพจะพิจารณายกระดับการใช้กำลัง สู่ขั้นการป้องกันประเทศในระดับต่อไป
กองทัพไทย ขอประนามการกระทำของกองทัพกัมพูชา ตลอดจนรัฐบาลกัมพูชา ที่มีเจตนาชัดเจนในการเปิดฉากการรบโดยใช้อาวุธหนักโจมตี โดยไม่คำนึงถึงความสูญเสีย ต่อพลเรือนทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ ขอให้คำมั่นต่อประชาชนชาวไทยว่า จะพิทักษ์และปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของชาติ พร้อมเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ สำหรับความคืบหน้าของสถานการณ์จะรายงานให้ทุกท่านทราบต่อไป