svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.” ดีเอสไอ เมิน กกต. ไม่รออีกต่อไป เดินหน้าคดีอาญา “อั้งยี่ - ฟอกเงิน”

18 กรกฎาคม 2568 วันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งรับผิดชอบ “คดีฮั้ว สว.” เพราะเคยขอขยายเวลาการทำงานมาแล้ว ถึงวันนี้ 17 กรกฎาคม และไม่ได้ขอขยายเพิ่มอีก

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

แต่ข่าววันนี้เงียบกริบ แทบไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ ดีเอสไอ ประชุมใหญ่โต เดินหน้าคดีอาญา “อั้งยี่ - ฟอกเงิน” เรียกว่า เมิน กกต. ไม่รออีกต่อไปแล้ว

 

 

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

อนุ กกต.สรุปสำนวน - ชงฟัน 229 ราย “เอี่ยวฮั้ว สว.”

 

กระทั่งตอนเย็น / มีเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์จาก กกต. แจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ประชุมกัน และส่งสำนวนคดี ฮั้ว สว. ให้ กกต.ชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นความลับ

 

แต่ก็อย่างที่ทราบกัน นี่คือขั้นตอนแรกจาก 4 ขั้นตอนเท่านั้น ขณะนี้ต้องรออีก 3 ขั้น

 

- ขั้นที่ 2 รองเลขาธิการ กกต.ที่ “เลขาฯแหวง” ตั้งขึ้น วิเคราะห์สำนวน และจัดทำความเห็น / ขั้นตอนนี้สามารถสั่งสอบเพิ่มได้ ไม่มีกรอบเวลา

- ขั้นที่ 3 หากรองเลขา กกต.ดำเนินการเสร็จ ก็ส่งต่อมาที่ คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯ เพื่อทำความเห็นกันอีกรอบ / และก็อย่างที่บอก สั่งสอบเพิ่มได้อีก

- ขั้นที่ 4 อนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯ สรุปส่ง กกต.ชุดใหญ่

 

 

น่าสนใจตรงที่ แต่ละขั้นตอนยังตีตกได้หมด / และไม่รู้ว่าสำนวนจะส่งถึง กกต.ชุดใหญ่เมื่อใด และกี่สำนวน / จากนั้นก็ต้องลุ้น กกต.ชุดใหญ่ ว่าจะฟัน หรือยกกี่สำนวน / และมีกี่สำนวนหลุดไปถึงศาลฎีกา / วันนั้นจึงจะรู้ว่า มี สว.โดนกี่ราย

 

 

 

 

ส่วนนี้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ “ทีมข่าว” ของเราไปสืบมา

 

 

มติของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 เสนอ กกต. คือ เห็นควรดำเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 229 ราย แบ่งเป็น สว. 138 คน / กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และเครือข่าย 91 คน / โดยเป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 70 ประกอบ มาตรา 36 มาตรา 62 มาตรา 76 และ มาตรา 77 (1)

 

ข้อมูลนี้ตรงกับข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ เมื่อไม่กี่วันก่อน และ กกต.ออกข่าวประชาสัมพันธ์มาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง

 

โดยข้อมูลยังระบุอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ทำให้การได้มาซึ่ง สว. เป็นไปโดยไม่สุจริต เที่ยงธรรม และขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 113 ที่บัญญัติว่า สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ซึ่งในส่วนข้อกล่าวหานี้ หากไปถึงชั้นการพิจารณาของที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ และมีมติเห็นพ้องด้วย อาจนำไปสู่การร้องต่อ กกต. ขอให้เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองได้

 

 

 

ผิด 5 มาตรา 4 ประเด็น โยงเส้นเงิน - พรรคการเมือง!

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 แจ้งกับผู้ถูกกล่าวหา 229 ราย น่าจะมีหลายกลุ่ม และหนักเบาต่างกัน เนื่องจากมาตราของกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่นำมาอ้างอิง มีถึง 5 มาตรา 4 ประเด็น กล่าวคือ

 

มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 - ผู้สมัคร สว. ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่ กกต.กำหนด ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท เพิกถอนสิทธิเลืิอกตั้ง 5 ปี

 

มาตรา 62 - ผู้สมัคร หรือ ผู้ใด กระทำการทุจริตในการเลือก สว. หรือรู้เห็นเป็นใจ / กลุ่มนี้้ถ้าเป็น สว. ส่งฟ้องศาลฎีกา ต้องถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ / และโดนใบดำ ตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และสิทธิเลือกตั้ง ไม่กำหนดเวลา / รวมถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ สว.ด้วย

 

มาตรา 76 - คนของพรรคการเมืองที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกระบวนการเลือก สว. ทำให้ผู้สมัครบางคนได้รับเลือก บางคนไม่ได้รับเลือก / กลุ่มนี้มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ใบดำ คือ ไม่กำหนดเวลา / ความผิดนี้ ถ้าตัว สว. หรือผู้สมัคร ยอมให้พรรคการเมืองเข้ามายุ่ง ก็โดนด้วย โทษเท่านั้น

 

มาตรา 77 - ใช้เงิน ทรัพย์สินอื่นใด หรือ ตำแหน่ง จูงใจในการเลือก สว. / กลุ่มนี้โดนโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี