6 กรกฎาคม 2568 นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวชี้แจงประเด็นทางการเมืองที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า กระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับ ครม. การเสนอนายกรัฐมนตรีชั่วคราว และข้อกังวลเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งการปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย และเป็นสิทธิของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเสนอรายชื่อรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยยกตัวอย่างผลงานการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย ที่สามารถนำกำลังเข้าบุกทลายบ่อนการพนันย่านสะพานใหม่ได้สำเร็จ
สำหรับกรณีสภาล่มในการประชุมเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่า เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุม ในวันดังกล่าว รัฐมนตรีหลายคนเพิ่งถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จ และอยู่ระหว่างเดินทางเข้าทำเนียบ ขณะเดียวกันก็มีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณ และกรรมาธิการชุดต่าง ๆ แต่กลับมีการเสนอให้นับองค์ประชุม ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่าอาจมีเจตนาแอบแฝงทางการเมือง มากกว่าจะมุ่งประโยชน์ของประชาชน
ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภานั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะยุบสภา เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในวาระการประชุมที่สำคัญ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 รวมถึงกฎหมายสำคัญอื่น ๆ ที่พรรคเพื่อไทยต้องเร่งผลักดัน เช่น กฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นภารกิจที่ต้องเดินหน้าต่อ
รองโฆษกระบุว่า การเรียกร้องให้ยุบสภาในเวลานี้ถือเป็นความพยายามช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดกับการบริหารงบประมาณ และย้ำว่า การเลือกตั้งใหม่ต้องใช้งบประมาณกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้น
ในส่วนของข้อเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีชั่วคราวภายใต้เงื่อนไข เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยมองว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่เสนอไว้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง
รัฐบาลชุดนี้ยังมีเวลาอีก 2 ปี ในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันแม้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แต่ยังมีรัฐมนตรีรักษาการที่สามารถทำหน้าที่แทนได้เต็มอำนาจ และมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณกับนายกรัฐมนตรีแน่นอน
พรรคเพื่อไทยยืนยันในเสถียรภาพของรัฐบาล และความมุ่งมั่นของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลในทางปฏิบัติให้มากที่สุด ส่วนกรณีข่าวลือว่ารัฐบาลไทยส่งมอบวัตถุโบราณให้ประเทศกัมพูชา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยย้ำว่าไม่เป็นความจริงพร้อมยืนยันจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด