
25 มิถุนายน 2568 "ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพร(ควบคุม) กัญชา พ.ศ.2568 โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 โดยให้มีผลประกาศใช้ตั้งแต่วันนี้ ( 25 มิถุนายน 2568)
มีเนื้อหาดังนี้ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. ๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่กำหนดให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย หรือมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันประกอบกับปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดมาใช้ควบคุมเป็นการเฉพาะเพื่อมิให้ใช้ไปในทางที่ผิดวัตถุประสงค์
จึงควรมีการควบคุมไม่ให้นำกัญชาเฉพาะส่วนที่เป็นช่อดอกไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๔๔ และมาตรา ๔๕ (๓) (๔) (๕) และ (๖) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๔๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. ๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕
ข้อ ๓ ให้กัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis วงศ์ Cannabaceae เฉพาะส่วนของช่องช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม
ข้อ ๔ ผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๔๖ และผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(๑) ผู้รับใบอนุญาตให้ศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้ ณ สถานประกอบการ และให้รายงานข้อมูลนั้นต่อนายทะเบียนตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด
(๒) ผู้รับใบอนุญาตให้ส่งออกสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องแจ้งรายละเอียดการส่งออกต่อผู้อนุญาตเป็นรายครั้ง ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด
(๓) ผู้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องจำหน่ายสมุนไพรควบคุบให้กับผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๔๖ เท่านั้น
(๕) การจำหน่ายและส่ะส่งอกสมุนไพรควบคุมของผู้ให้รับไปธนุญาต ต้องมาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองมาตรูฐานการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ดีจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
...อ่านเพิ่มเติม...ที่นี่
คลิกอ่านฉบับเต็ม ที่นี่ >>> ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพร(ควบคุม) กัญชา พ.ศ.2568
อนึ่ง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงประเด็นกัญชา ว่า หลังจากลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ไปแล้วนั้น จากนี้จะให้เวลาผู้ประกอบการที่เปิดร้าน ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยขณะนั้น เปิดร้านมากว่า 1 หมื่นร้าน ซึ่งไม่เกี่ยวในเรื่องทางการแพทย์ ตนจึงเพิ่มในเรื่องการใช้ การครอบครองต่างๆให้ชัดเจน โดยต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น ซึ่งตนเชื่อว่า ผู้ที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้กัญชา ก็ยังสามารถใช้ได้ จะไม่เป็นปัญหาอุปสรรค
“เราไม่ต้องการให้ใช้ในทางที่ผิดโดยที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่งไม่ว่ากัญชาจะเป็นสมุนไพรควบคุมอย่างไร ก็ต้องเน้นหนักในทางการแพทย์ และไม่ว่ากัญชาจะเป็นยาเสพติด เราก็ให้ใช้ในทางการแพทย์ ส่วนด้านอื่นๆต้องขออนุญาตเท่านั้น” รมว.สธ.กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ถูกปรับแก้จาก พ.ร.บ.ยาเสพติด ปี 2522 มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ในปี 2564 ซึ่งในยาเสพติดประเภท 5 มีทั้ง ฝิ่น กัญชา กระท่อม แต่เมื่อกฎหมายใหม่ ก็นำเอากระท่อม และกัญชา ออกจากประมวลกฎหมายยาเสพติด และให้ รมว.สาธารณสุข จะประกาศยาเสพติดประเภท 5 อะไรก็แล้วแต่ สามารถประกาศเพิ่มเติม หรือ ถอดถอนได้ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการ ปปส. ที่มีรองนายกฯเป็นประธาน โดยถ้าอ่านกฎหมาย และเข้าใจกฎหมาย ก็จะเดินตามนี้ จะไม่มีข้อสงสัย แต่ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ลองเปิดประมวลกฎหมายยาเสพติดดู ซึ่งขณะนี้ การดำเนินการเป็นสมุนไพรควบคุมเข้มข้น ก็จะต้องดูการดำเนินการไปสักระยะหนึ่ง และไปแก้ไขในส่วนที่พะรุงพะรัง โดยเชื่อว่า 3 เดือน จะคลี่คลายทั้งหมด
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ปลูกออกมาเรียกร้อง เนื่องจากลงทุนไปจำนวนมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กระทบคนปลูก ที่ทำอยู่ขณะนี้ แต่ถ้าปลูกใหม่ ก็ทำให้ถูกต้องตามระเบียบ ส่วนผู้ที่ปลูกไปแล้ว ต้นก็มีอายุของเขา คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของร้านค้า หรือ คาเฟ่ จะมีการเยียวยาอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังทำได้อยู่เหมือนเดิม แต่ของเดิมไม่มีเรื่องการซื้อ การอนุญาตต่างๆ เขาอาจจะไม่ค่อยสะดวกในช่วงแรกๆ แต่เรามีเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อส่วนรวม ไม่ให้เยาวชนเข้าถึง โดยที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชน ก็ลงชื่อกว่า 1 แสนคน ขอร้องให้นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด แต่เราก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังมีความขัดแย้งในความคิดเห็นหลายประเด็น แต่ขณะนี้ ก็เป็นช่องทาง ฝากบอกไปยังกลุ่มเยาวชนว่า ตนกำลังดำเนินการตามแนวทางที่กลุ่มเยาวชนอยากได้