นายกฯ แถลงจับไอซ์ซุก “ถุงแป้ง” เตรียมส่งออก มูลค่า 3 พันล้าน

23 มิถุนายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้แทนกองทัพเรือ ผู้แทน ป.ป.ส.ร่วมกันแถลงข่าว ทลายเครือข่ายยานรก ยึดยาไอซ์ 2.4 ตัน มูลค่าในประเทศกว่า 239 ล้านบาท ซุกเรือเตรียมส่งออก มูลค่าในต่างประเทศกว่า 3,000 ล้านบาท


พันตำรวจตรียุทธนา กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นปลายทางหนึ่งที่มีการลำเลียงยาเสพติดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิก ฯลฯ และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมสารตั้งต้น พวกยาบ้า ยาไอซ์ และวัตถุอันตราย 1.8 ล้านลิตร วันนี้ DSI สนธิกำลัง กองทัพเรือ และ ป.ป.ส. จับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่ โดยสืบเนื่องจากการบูรณาการด้านการข่าวของกองทัพเรือที่พบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติด มาจากระยอง และชลบุรี ล่องไปตามอ่าวไทย ไปที่อำเภอสิชล อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช แล้วจะมีเรือใหญ่มารับถ่ายโอนยาไปประเทศที่สาม 

เมื่อเจ้าหน้าที่รับทราบเบาะแสที่แน่ชัดแล้วว่า มีการลำเลียงขนถ่ายลงจากรถเพื่อนำขึ้นเรือ จึงได้ร่วมกับกองทัพเรือนำเรือออกติดตามและจับกุมได้ที่ปากน้ำประแส จ.ระยอง   โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีได้ทั้งหมด 8 ราย เป็นคนไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลไปที่เจ้าของยาเสพติดเพื่อดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งทราบเบาะแสแล้วว่า เจ้าของยาเป็นชาวต่างชาติ


 

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีการจับกุมยาไอซ์ ที่ขนผ่านทางเรือ ถือเป็นความร่วมมือแบบบูรณทการทุกภาคส่วน ตั้งแต่คนให้ข้อมูลจนจับกุม และยาเสพติดล็อตใหญ่เริ่มทยอยจับได้มากขึ้นเยอะ ถือเป็นความพยายามของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ขณะนี้ กำลังสืบว่าใครเป็นตัวการใหญ่ ขอให้ประชาชนสบายใจว่า เรื่องยาเสพติดรัฐบาลจริงจังเรื่องนี้ และทุกภาคส่วนก็พร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาล ให้นโยบายเรื่องยาเสพติดสำเร็จ

“ถ้าศักยภาพของคนถูกปนด้วยยาเสพติด เยาวชนต่างๆ การพัฒนาประเทศเป็นไปได้ยาก ยาเสพติดพวกนี้เมื่อถูกส่งออกไปจะส่งผลเสียต่อคนทั่วโลก ดังนั้นเมื่อมาถึงที่ไทย เรามีทีมของคนไทยที่เข้มแข็ง ก็ทำให้ยาเสพติดหยุดที่ประเทศไทย ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านเพราะถือเป็นการช่วยประเทศชาติไว้อย่างยิ่งใหญ่” จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ดูของกลางที่จับกุมได้ ซึ่งพบว่า มีการตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการใส่ถุงแป้งข้าวโพด

 

ย้ำจุดยืนเร่งทำกัญชาเพื่อการแพทย์
 

ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีตอบคำถามประเด็นเรื่องจุดยืนกัญชาว่า เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วว่า จะทำกัญชาเพื่อการแพทย์ โดยจะเร่งทำตรงนี้ให้เป็นกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น

นักข่าวพยายามสอบถามถึงการขยายผลว่า ยาเสพติดว่าจะมีการขยายไปยังเครือข่ายของกัมพูชาด้วยหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามนี้